ProReview เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร อ่านเพิ่มเติม
กลุ่มน้ำหนักของคาร์ซีท คืออะไร (กลุ่ม 0 3)
Pro Review » ของใช้ในบ้าน » กลุ่มน้ำหนักของคาร์ซีท คืออะไร (กลุ่ม 0 – 3)

กลุ่มน้ำหนักของคาร์ซีท คืออะไร (กลุ่ม 0 – 3)

บทความนี้เราจะอธิบายถึงกลุ่มของคาร์ซีทตามน้ำหนักของเด็ก ซึ่งเรารวบรวมมาให้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่ม 0, 1, 2 และ 3 ว่าคืออะไร แล้วลูกของคุณที่เป็นทารกหรือลูกวัย 5 ขวบนั้นควรจะนั่งแบบไหน

การเลือกซื้อคาร์ซีทมี 2 วิธี คือเลือกตามน้ำหนักของเด็ก หรือไม่ก็เลือกตามส่วนสูงของเด็ก เราจะไม่เลือกตามอายุของเด็ก

คาร์ซีทที่แบ่งตามกลุ่มน้ำหนักจะแบ่งตามมาตรฐาน ECE R44.03 หรือ ECE R44.04 ซึ่งเราจะอธิบายเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนคาร์ซีทที่แบ่งตามความสูงคือ คาร์ซีทแบบ i-Size ตามมาตรฐาน ECE R129

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คาร์ซีทแบบ iSize ได้ที่คู่มือของเรา เพื่อทำความรู้จักกับคาร์ซีทตามความสูงหรือคาร์ซีทแบบ i-Size

สรุปกลุ่มน้ำหนักของคาร์ซีทสำหรับเด็ก

สรุปกลุ่มน้ำหนักของคาร์ซีทสำหรับเด็ก

กลุ่มน้ำหนักทั้งหมดของคาร์ซีทสำหรับเด็กมีดังนี้ :

  • กลุ่ม 0/0+ คือ เด็กแรกเกิด – 13 กก. (0 – 15 เดือน)
  • กลุ่ม 0+/1 คือ เด็กแรกเกิด – 18 กก. (0 – ประมาณ 4 ปี)
  • กลุ่ม 0+/1/2 คือ เด็กแรกเกิด – 25 กก. (0 – ประมาณ 7 ปี)
  • กลุ่ม 0+/1/2/3 คือ เด็กแรกเกิด – 36 กก. (0 – ประมาณ 12 ปี)
  • กลุ่ม 1 คือ 9 – 18 กก. (9 เดือน – 4 ปี)
  • กลุ่ม 1/2/3 คือ 9 – 36 กก. (9 เดือน – 12 ปี)
  • กลุ่ม 2/3 คือ 15 – 36 กก. (4 – 12 ปี)
  • กลุ่ม 3 คือ 22 – 36 กก. (ตั้งแต่ 5 – 6 ปี และ สูงเกิน 125 ซ.ม.)

ที่สำคัญต้องจำไว้ว่า การให้ลูกเปลี่ยนไปใช้คาร์ซีทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก่อนที่ตัวเด็กจะมีน้ำหนักหรือส่วนสูงเกินกว่าคาร์ซีทตัวปัจจุบันที่ใช้อยู่ อาจทำให้การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นได้

ทารกและเด็กเล็กแต่ละคนมีรูปร่างและขนาดต่างกันมาก ดังนั้นควรใช้น้ำหนักหรือส่วนสูงเป็นแนวทางในการเลือกคาร์ซีทมากกว่าการเลือกจากอายุ

อย่าลืมเช็คก่อนซื้อว่าคาร์ซีทรุ่นนั้นพอดีกับรถ พอดีกับตัวลูก และสามารถติดตั้งบนรถของคุณได้ คาร์ซีทที่ครอบคลุมเด็กหลายกลุ่ม เช่น กลุ่ม 1/2/3 อาจจะดูคุ้มกว่า เพราะใช้ได้นานกว่าเบาะแบบกลุ่มเดี่ยว แต่จากการทดสอบของเรากลับพบปัญหาบางอย่าง

 

คาร์ซีทสำหรับทารก (กลุ่ม 0+)

คาร์ซีทสำหรับทารก (กลุ่ม 0+)

คาร์ซีทสำหรับทารก (กลุ่ม 0+) มักจะเป็นคาร์ซีทอันแรกที่คุณซื้อ มันจะเล็กและเบากว่าคาร์ซีทที่คุณต้องใช้เมื่อลูกคุณโตขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นประเภทหันหน้าเด็กเข้าหาเบาะหลัง ดังนั้นเมื่อคุณขับรถ ลูกน้อยของคุณจะหันหน้าไปทางท้ายรถนั่นเอง

งานวิจัยบอกว่าจะปลอดภัยสุดเมื่อให้เด็กนั่งหันหน้าไปทางท้ายรถให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

คาร์ซีทกลุ่ม 0+ จะอยู่กับลูกคุณตั้งแต่แรกเกิดจนอายุประมาณ 12 – 15 เดือน โดยน้ำหนักสูงสุดของคาร์ซีทสำหรับทารกส่วนใหญ่อยู่ที่ 13 กก.

0 – 13 กก. ช่วงน้ำหนักคาร์ซีทสำหรับทารก

คาร์ซีทสำหรับทารก กลุ่ม 0+ บางรุ่นออกแบบมาให้สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กได้ เพื่อให้สะดวกในการเดินทาง

นั่นหมายความว่าคุณสามารถหิ้วคาร์ซีทในขณะที่มีลูกนั่งอยู่ ใส่ลงไปในรถเข็นเด็กได้ โดยที่เด็กไม่รู้สึกว่าถูกรบกวนมากเกินไป

คำแนะนำของเราก็คืออย่าให้เด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็ก ๆ อยู่ในคาร์ซีทนานเกินจำเป็น และอย่าใช้เป็นที่นอนเมื่ออยู่ในบ้าน

 

คาร์ซีทกลุ่ม 0+/1

คาร์ซีทกลุ่ม 0+/1 

คาร์ซีทกลุ่ม 0+/1 จะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงประมาณอายุ 4 ขวบ ลูกของคุณจะเริ่มนั่งโดยการหันหน้าไปทางท้ายรถก่อน จากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนมาหันหน้าไปทางหน้ารถ

คาร์ซีทบางรุ่นระบุว่าสามารถเปลี่ยนมาหันหน้าไปทางหน้ารถได้ตอนน้ำหนัก 9 กก. (อายุประมาณ 9 เดือน) แต่เราไม่แนะนำให้เด็กหันมาด้านหน้าเร็วเกินไป

คุณควรให้ลูกนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปด้านหลังรถจนกว่าพวกเขาจะอายุอย่างน้อย 15 เดือน

0 – 18 กก. ช่วงน้ำหนักคาร์ซีทสำหรับทารก – วัยหัดเดิน

คาร์ซีทกลุ่ม 0+/1 หลายรุ่นจะให้เด็กนั่งหันหน้าไปทางท้ายรถจนเด็กอายุ 4 ขวบ

แต่คาร์ซีทกลุ่มนี้จะแตกต่างจากคาร์ซีทสำหรับทารก (กลุ่ม 0+) ตรงที่คาร์ซีทกลุ่ม 0+/1 จะยึดติดอยู่กับรถยนต์ของคุณ ไม่สามารถยกออก แล้วเอาไปติดตั้งที่รถเข็นเด็กได้

และเพราะมีขนาดใหญ่กว่าคาร์ซีทกลุ่ม 0+ ที่นั่งประเภทนี้จึงอาจใช้พื้นที่ในรถของคุณมากกว่าคาร์ซีทกลุ่ม 0+

 

คาร์ซีทกลุ่ม 0+/1/2

คาร์ซีทกลุ่ม 0+ 1 2

คาร์ซีทกลุ่มนี้ถูกออกแบบให้ใช้ได้กับเด็กแรกเกิด – 25 กก. (อายุประมาณ 6 ขวบ) แต่เราเชื่อว่าเด็กแรกเกิด- 25 กก. ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงมากเกินกว่าที่คาร์ซีท 1 ตัวจะทำหน้าที่ป้องกันเด็กได้ดีพอในทุกช่วงอายุ

0 – 25 กก. ช่วงน้ำหนักคาร์ซีทสำหรับทารก – เด็กเล็ก

เราได้ทดสอบคาร์ซีทเด็กกลุ่ม 0+/1/2 ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเลย คือไม่สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ให้เด็กได้อย่างถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้คอหรืออวัยวะภายในของเด็กได้รับบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้

 

คาร์ซีทกลุ่ม 1

คาร์ซีทกลุ่ม 1

คาร์ซีทกลุ่ม 1 สำหรับเด็กที่มีน้ำหนักระหว่าง 9 – 18 กก. นั่นคืออายุประมาณ 9เดือนจนถึงประมาณ 4 ขวบ ครึ่ง

9 – 18 กก. ช่วงน้ำหนักคาร์ซีทสำหรับเด็ก

คาร์ซีทในกลุ่ม 1 ที่วางจำหน่ายส่วนใหญ่จะเป็นแบบหันหน้าไปทางหน้ารถ แต่ก็สามารถหาซื้อแบบให้ลูกนั่งหันหน้าไปทางท้ายรถได้จนกว่าจะถึงอายุ 4 ขวบ

 

คาร์ซีทกลุ่ม 2/3

คาร์ซีทกลุ่ม 2/3

ถ้าลูกของคุณพร้อมที่จะขยับขึ้นจากคาร์ซีทกลุ่ม 1 ไปเป็นคาร์ซีทขนาดถัดไป ซึ่งก็คือ กลุ่ม 2/3 บูสเตอร์ซีทพร้อมพนักพิงหลังสูง

คาร์ซีทกลุ่ม 2/3 เป็นบูสเตอร์ซีทพนักพิงหลังสูง

คาร์ซีทกลุ่ม 2/3 สามารถใช้ได้ตั้งแต่น้ำหนัก 15 – 36 กก. นั่นคืออายุราว ๆ 3 – 12 ปี

ส่วนใหญ่คาร์ซีทกลุ่ม 2/3 จะไม่มีสายรัด แต่คุณสามารถปกป้องลูกและเบาะได้ โดยใช้เข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่

15 – 36 กก. ช่วงน้ำหนักคาร์ซีทสำหรับเด็ก

บางรุ่นสามารถติดตั้งโดยใช้ Isofix เพื่อให้เบาะยึดติดกับตัวรถอย่างมั่งคง

พ่อแม่บางคนกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนเบาะให้ลูกจากกลุ่ม 1 ที่ใช้สายรัด ไปเป็นคาร์ซีทกลุ่ม 2/3 ที่ใช้เข็มขัดนิรภัย แต่ก็มีเบาะบางรุ่นที่มีสายรัดเพิ่มให้ หรือมีวิธีการอื่น ๆ ที่ช่วยให้เด็กเปลี่ยนจากสายรัดมาใช้เบาะคาดเข็มขัดนิรภัย

 

คาร์ซีทกลุ่ม Multi-group หรือ กลุ่ม 1/2/3

คาร์ซีทกลุ่ม Multi-group หรือ กลุ่ม 1/2/3

คาร์ซีท multi-group ครอบคลุมคาร์ซีทมากกว่า 1 กลุ่ม ดังนั้นมันจึงอยู่กับลูกของคุณได้นานกว่าแบบกลุ่มเดี่ยว พ่อแม่หลายคนอาจถูกใจสิ่งนี้ เพราะเป็นการเลือกและซื้อคาร์ซีทแค่ครั้งเดียว ก็สามารถใช้ได้ตั้งแต่เกิดหรือ 12 เดือน ไปจนถึงอายุ 12 ปี

คุณอาจเคยเห็นเบาะแบบ multi-group ถูกเรียกว่า combination seat และผู้ค้าปลีกบางรายก็เอาคาร์ซีทกลุ่มนี้ไปจัดไว้ในกลุ่ม 1/2/3 ที่แปลว่าใช้ได้ตั้งแต่ 9 เดือน – 12 ปี (9 – 36 กก.) หรือ กลุ่ม 0+/1/2/3 ซึ่งหมายถึงตั้งแต่แรกเกิด – 12 ปี

คาร์ซีทแบบ multi-group ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานใหม่อย่าง R129 นั้นหายากขึ้น แต่คุณอาจจะพบว่าผู้ค้าปลีกบางรายจัดให้คาร์ซีทที่มีส่วนเสริมเพื่อให้เด็กนั่งหันหน้าไปทางท้ายรถได้ (ที่ใช้สำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ปี) อยู่ในกลุ่ม multi-group

ช่วงน้ำหนักที่นั่งแบบ Multi-group 9 – 36 กก

คาร์ซีทแบบ multi-group สามารถยึดตัวลูกน้อยของคุณด้วยสายรัดนิรภัย 5 จุด ก่อน แล้วจากนั้นก็ปรับให้เป็นเบาะนั่งเสริมพนักพิงหลังสูง เมื่อลูกของคุณอายุมากขึ้นและตัวใหญ่ขึ้น

คาร์ซีทแบบนี้ดูจะเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าในการเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็ก เพราะมันจะอยู่กับลูกคุณได้นานกว่า แต่จากการทดสอบของเราพบว่าคาร์ซีทที่สามารถใช้ได้มากกว่า 1 กลุ่ม มักจะปกป้องเด็กได้ไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับอีก 3 กลุ่ม

ร่างกายของเด็กมีการเปลี่ยนแปลงมากเกินกว่าที่เบาะ 1 ตัว จะป้องกันเด็กได้เพียงพอในทุก ๆ ช่วงอายุ

ผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์ซีทของเราคิดว่า จะดีกว่าถ้าคุณซื้อคาร์ซีทสำหรับทารกโดยเฉพาะ แล้วก็คาร์ซีทสำหรับเด็กวัยหัดเดิน จากนั้นก็ซื้อคาร์ซีทกลุ่ม 2/3 ดีกว่าเลือกซื้อแบบ multi-group หรือ combination seat

เบาะแบบ multi-group บางตัวที่เราทดสอบได้คะแนนไม่สูงนักด้วยหลายเหตุผล รวมถึงการที่เข็มขัดนิรภัยไม่สามารถคาดให้เด็กได้อย่างถูกต้อง หรือการเปลี่ยนไปมาระหว่างกลุ่มทำได้ยาก หรือไม่สามารถปกป้องเด็กได้ดีพอในบางกลุ่มหรือในบางโหมด

คาร์ซีทที่ดีควรจะปกป้องเด็กได้ดีพอทั้งการชนจากด้านหน้าและด้านข้าง เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบไหนขึ้น

และเราคาดว่าผู้ปกครองเองก็คงใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กในทุกโหมดและทุกกลุ่มที่ออกแบบมาให้ใช้ได้ เราจึงให้คะแนนตามสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่เกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าคาร์ซีทรุ่นนั้นจะทำคะแนนได้ดีในโหมดอื่น ๆ ก็ตาม

 

เบาะนั่งเสริมไร้พนักพิง หรือ คาร์ซีทกลุ่ม 3

เบาะนั่งเสริมไร้พนักพิง หรือ คาร์ซีทกลุ่ม 3

คาร์ซีทกลุ่ม 2/3 บางรุ่นสามารถสลับไปเป็นกลุ่ม 3 ได้ ซึ่งคือบูสเตอร์ซีทไร้พนักพิง หรือที่เรียกว่า บูสเตอร์ซีท คุณสามารถเลือกซื้อเบาะนั่งเสริมแยกต่างหากได้

บูสเตอร์ซีทจะยกตัวเด็กให้สูงขึ้นจนสามารถคาดเข็ดขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ได้

บูสเตอร์ซีทสามารถใช้ได้ตามข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับเด็กที่มีความสูง 1.35 เมตร (ประมาณ 4 ฟุต 6 นิ้ว) และมีราคาถูก (ประมาณ 6 – 30 ปอนด์) แต่เราไม่แนะนำ โดยเฉพาะการใช้บูสเตอร์ซีทกับเด็กเล็ก ๆ

นั่นเป็นเพราะบูสเตอร์ซีทไม่ปลอดภัยเหมือนบูสเตอร์ซีทพนักพิงสูง ที่มีพนักพิงเต็มความยาว และมี ‘ปีก’  ซึ่งช่วยปกป้องศีรษะและหน้าอกของเด็กเป็นพิเศษ เมื่อเกิดการชนจากด้านข้าง

มันคุ้มค่าที่จะจ่ายเพิ่มอีกนิดเพื่อการปกป้องที่เพิ่มขึ้น

 

คาร์ซีทกลุ่มไหนที่มี Isofix

คาร์ซีทกลุ่มไหนที่มี Isofix

คุณจะเห็น Isofix สำหรับเบาะนั่งเด็กได้ในคาร์ซีททุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่ม 0+ ไปจนถึง กลุ่ม 2/3

บ่อยครั้ง Isofix ในคาร์ซีทกลุ่ม 2/3 จะถูกเรียกว่า Isofit นั่นเพราะมันมีความแตกต่างกัน

ในคาร์ซีทกลุ่ม 2/3 นั้น ถึงคาร์ซีทจะถูกติดตั้งไว้กับรถโดยใช้ตัวยึดตัวเดียวกัน แต่ลูกของคุณจะถูกยึดไว้กับรถด้วยเข็มขัดนิรภัยของรถ

แต่คาร์ซีทกลุ่มที่ต่ำกว่ากลุ่ม 2/3 อย่างคาร์ซีท Isofix จะถูกติดตั้งไว้กับรถโดยใช้ตัวยึด Isofix แต่ลูกของคุณจะถูกยึดไว้กับเบาะโดยสายรัดที่ยึดติดกับคาร์ซีท

 

ควรเปลี่ยนคาร์ซีทเมื่อไหร่

จะดีกว่าและปลอดภัยกว่า ถ้าใช้เบาะในกลุ่มที่ต่ำที่สุดให้นานที่สุด ดีกว่าการเปลี่ยนไปใช้เบาะกลุ่มที่สูงขึ้นเร็วจนเกินไป แถมยังประหยัดกว่าอีกด้วย เพราะไม่ต้องซื้อเบาะใหม่จนกว่าจะใช้เบาะปัจจุบันจนเต็มที่แล้ว

ต้องคอยเช็คดูน้ำหนักหรือส่วนสูงสูงสุดที่คาร์ซีทกำหนดไว้ และสังเกตน้ำหนักและส่วนสูงของลูกคุณด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าลูกไม่ได้โตเกินคาร์ซีทแล้ว

เด็กจะโตเกินคาร์ซีทกลุ่ม 1, 2 หรือ 3 เมื่อระดับสายตาของเขาอยู่ระดับเดียวกับส่วนบนของเบาะที่นั่ง เมื่อนั่งอยู่ในคาร์ซีท

ควรเปลี่ยนคาร์ซีทเมื่อไหร่

อย่าลืมดูว่าเด็ก ๆ สูงเกินสายรัดของคาร์ซีทหรือยัง ส่วนบนของสายรัดควรอยู่ในตำแหน่ง 2 ซ.ม. เหนือไหล่ของพวกเขา แม้จะปรับเป็นตำแหน่งสูงสุดแล้วก็ตาม

ส่วนใหญ่แล้วเด็กจะมีน้ำหนักถึงขีดจำกัดของคาร์ซีท ก่อนที่ส่วนสูงจะเกินขีดจำกัด แต่เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

เด็กที่มีน้ำหนักต่ำสุดของแต่ละกลุ่มจะมีความเสี่ยงในการบาดเจ็บมากกว่า นี่คือเหตุผลที่เราไม่แนะนำให้เปลี่ยนเบาะเร็วไป

น้ำหนักและส่วนสูงที่แนะนำสำหรับแต่ละกลุ่มมีการคาบเกี่ยวกัน ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณปล่อยให้ลูกหลานของคุณโตถึงลิมิตสูงสุดของคาร์ซีทที่ใช้อยู่ก่อน แทนที่จะเปลี่ยนเมื่อถึงเกณฑ์น้ำหนักที่น้อยที่สุดของกลุ่มถัดไป

  • ญาณิศา หาญการสุจริต
    นักการตลาดแบรนด์และเนื้อหา

    ญาณิศา กูรูด้านแฟชั่นประจำบ้าน Pro Review และด้วยความหลงใหลในดนตรีทุกประเภท ตั้งแต่กลองชุดไปจนถึงคีย์บอร์ด ญาณิศายังเป็นนักคลั่งใคล้เพลงและดนตรีตัวยง ญาณิศาจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการจัดการการสื่อสารจาก University of Southern California และเขียนบล็อกเกี่ยวกับความรักในแฟชั่น ดนตรี และของใช้ในบ้านที่ดึงดูดสายตาเสมอ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ญาณิศาได้สร้างฐานผู้ติดตามจากผู้คนที่มีความสนใจเดียวกันอย่างการรีวิวสมาร์ทวอทช์ล่าสุดหรือตัวเลือกคีย์บอร์ดที่ดีที่สุด บทความรีวิวของญาณิศานั้นน่าอ่านและให้ข้อข้อมูลที่ผ่านการค้นคว้ามาเป็นอย่างดี ที่ผู้อ่านไม่ควรพลาด

  • รมณพัสสกานต์ เพ็งนวม
    นักเขียนหมวดท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวัน

    กุ่ยนักเขียนด้านการเดินทางและไลฟ์สไตล์แห่งบ้าน Pro Review ด้วยประสบการณ์ 6 ปีในการเขียนบล็อกเกี่ยวกับการเดินทาง การผจญภัย กิจกรรมกลางแจ้ง และงานอดิเรก เช่น การขี่จักรยานรุ่นล่าสุดหรือ E-Scooter รีวิวของกุ่ยนั้นอ่านได้สนุกสนาน เป็นกันเอง และให้ข้อมูลจากประสบการณ์ในชีวิตจริง กุ่ยจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกจิตวิทยา จึงเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและเทรนด์การช็อปปิ้งต่าง ๆ เป็นอย่างดี ซึ่งช่วยให้บทความน่าอ่านและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ติดตาม ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่ารีวิวนั้นเป็นผลจากการใช้ที่มาจากประสบการณ์จริง