รถจักรยานไฟฟ้ากลายเป็นหนึ่งในวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรองจากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยในการออกกำลังกาย หรือช่วยให้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมการสำรวจกลางแจ้ง เมื่อลองเปรียบเทียบกับจักรยานธรรมดา จะเห็นว่าจักรยานไฟฟ้ามีระบบช่วยปั่นที่จะช่วยให้คุณเดินทางในระยะทางที่ไกลมากขึ้น สามารถขับเคลื่อนบนเนินลาดชันได้ง่ายขึ้น และยังไปถึงจุดหมายปลายทางด้วยความรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย
ดีไซน์ของจักรยานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาสภาพมากนักก็ยังช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าเดินทางและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกด้วย ในบทความนี้ เราได้ทำการสำรวจและวิจัยตลาดเพื่อค้นหาจักรยานไฟฟ้าที่ดีที่สุดโดยพิจารณาจากประสิทธิภาพ คุณลักษณะ ดีไซน์ และความคุ้มค่าโดยรวม
โดยเราจะอธิบายคุณสมบัติต่าง ๆ ของจักรยานไฟฟ้าแต่ละรุ่นอย่างละเอียดเพื่อให้เห็นความแตกต่างและสาเหตุที่ทำให้จักรยานไฟฟ้าเหล่านี้เป็นตัวเลือกในการลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางในเมือง ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยกลางแจ้ง ไม่ว่าคุณต้องการจะยกระดับการเดินทางในแต่ละวัน รักษาสุขภาพให้ดี หรือเพียงแค่อยากจะเพลิดเพลินกับการขับรถเล่นแบบสบาย ๆ คู่มือของเราจะช่วยให้คุณค้นหาจักรยานไฟฟ้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ความต้องการ และงบประมาณของคุณได้อย่างแน่นอน
- Monowheel DYU d3f
- #1
- Monowheel DYU C6
- #2
- EM จักรยานพับไฟฟ้า รุ่น EM2
- #3
สองสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับจักรยานไฟฟ้า
แรงบิด: หน่วยวัดเป็นนิวตันเมตร (หรือ Nm) โดยแรงบิดหรือแรงหมุนเป็นการวัดแรงในการหมุนของเพลาเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นค่าที่ต้องคำนึงถึงเมื่อคุณต้องการทราบกำลังส่งของจักรยานมอเตอร์ไฟฟ้า แรงบิดที่มากขึ้นหมายถึงกำลังส่งที่มากขึ้นที่จะช่วยเพิ่มกำลังของคันเหยียบ จักรยานรุ่นหนัก ๆ ก็จะต้องการแรงบิดมากกว่า โดยทั่วไปแล้วจักรยานเสือหมอบรุ่นเบา ๆ จะมีแรงบิดอยู่ที่ 30 – 40Nm ส่วนจักรยานเสือภูเขาและจักรยานขนของจะมีแรงบิดอย่างน้อย 80Nm และจักรยานเดินทางหรือซิตี้ไบค์ส่วนใหญ่จะมีแรงบิดระดับกลาง
วัตต์ชั่วโมง: ขนาดแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้ามีหน่วยวัดเป็นวัตต์ชั่วโมง (หรือ Wh) ซึ่งเป็นค่าที่แสดงถึงปริมาณพลังงานที่กักเก็บในแบตเตอรี่และจำนวนวัตต์หรือกำลังไฟฟ้าที่จ่ายได้ในแต่ละชั่วโมง ค่าตัวเลขที่มากขึ้นบ่งบอกว่าสามารถวิ่งได้ไกลมากขึ้น แต่หากวิ่งด้วยความเร็วที่สูงขึ้น ระยะในการวิ่งก็จะลดน้อยลง ดังนั้น หากใช้งานแบตเตอรี่ขนาด 504Wh คู่กับมอเตอร์ขนาด 500 วัตต์ ในการขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุดจะวิ่งได้ 1 ชั่วโมง และเมื่อลดความเร็วลงมาครึ่งหนึ่งจะช่วยเพิ่มระยะทางมากขึ้นเป็นสองเท่า
12 แนะนำ จักรยานไฟฟ้า ได้แก่
- 1. Monowheel DYU d3f
- 2. Monowheel DYU C6
- 3. EM จักรยานพับไฟฟ้า รุ่น EM2
- 4. ZSUN Mini E-Bike
- 5. Monowheel DYU A5
- 6. HIMIWAY จักรยานไฟฟ้าพับได้
- 7. Xiaomi Baicycle S1
- 8. EM จักรยานไฟฟ้า รุ่น EM BOLT
- 9. JIESUQI จักรยานไฟฟ้า
- 10. จักรยานไฟฟ้า G-Force G14
- 11. Adiman จักรยานไฟฟ้า
- 12. INMOTION P2 2019 จักรยานไฟฟ้าพับได้
วิธีเลือกจักรยานไฟฟ้าให้ได้สินค้าที่ถูกใจ
แน่นอนว่าในท้องตลาดมีจักรยานไฟฟ้าวางขายมากมายหลากหลายแบรนด์ การเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องศึกษาตัวสินค้าก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ แต่เราจะเลือกอย่างไร ให้ได้จักรยานไฟฟ้าที่ถูกใจและเหมาะสมกับการใช้งาน วันนี้เรามีคำตอบ
- เลือกจากราคา – ราคาคือตัวการันตีคุณภาพ ในที่นี้เราไม่ได้หมายความว่าของแพงจะดีเสมอไป หรือของถูกนั้นจะมีคุณภาพไม่ดี แต่จักรยานไฟฟ้าที่มีราคาถูก มักจะใช้วัสดุในการผลิตที่คุณภาพด้อยกว่า และอาจตัดสิ่งอำนวยความสะดวกออกไปเพื่อควบคุมราคาต้นทุน หากต้องการสินค้าคุณภาพดี สามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่ายาวนาน อาจจะต้องลงทุนกันเสียหน่อย
- ไม่ลืมพิจารณาเรื่องความปลอดภัย – ความปลอดภัยควรมาเป็นอันดับต้น ๆ ในการพิจารณาเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าสักคัน ควรพิจารณาตั้งแต่ระบบเบรก ระบบไฟฟ้า เบาะรองนั่ง วัสดุที่แข็งแรงทนทานมากเพียงพอ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เอง
- จุดประสงค์การใช้งาน – จักรยานไฟฟ้ามีหลากหลายรุ่น ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ในประเด็นนี้ ผู้ซื้อต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่าคุณจะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด เมื่อคุณไปบอกกับเจ้าของร้านขายจักรยานไฟฟ้า ทางร้านจะได้จัดหาจักรยานที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
- ขับขี่บ่อยแค่ไหน ระยะทางไกลเท่าใด – ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ คุณต้องนึกถึงความถี่ในการขับขี่ และระยะทางว่าใกล้ไกลมากแค่ไหน เพราะระยะทางในการขับขี่จะขึ้นอยู่กับความอึดถึกทนของแบตเตอรี่ ดังนั้น ก่อนจะเลือกซื้อจักรยนไฟฟ้า เราขอแนะนำให้ลองคำนวณระยะทางและความถี่ในการขับขี่ด้วยค่ะ
- อย่าลืมทดลองขี่ด้วยล่ะ – ก่อนจะเปิดกระเป๋าตังค์ยื่นเงินให้คนขาย แนะนำให้ทดลองขับขี่ เพื่อที่จะดูว่าจักรยานคันนี้เหมาะกับสรีระร่างกายของเราไหม ขับขี่ได้สะดวกสบายหรือเปล่า และอย่าลืมอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อประกอบการพิจารณาด้วยนะคะ
รีวิว 12 อันดับ จักรยานไฟฟ้า ตัวไหนดี
ในยุคที่หลาย ๆ คน ควรใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อม จักรยานไฟฟ้าได้กลายมาเป็นทางเลือกในการเดินทางที่ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม วันนี้เรามีจักรยานไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ที่คุ้มค่า น่าลงทุน มาไว้เป็นตัวเลือกให้กับคุณผู้อ่าน จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลย
1. Monowheel DYU d3f
Credit: monowheel.bike
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 250 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว
- ระยะทางสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 32 กม./ชม
- น้ำหนัก: ระยะทางที่วิ่งได้ 40 กม.
- ขนาดยาง: น้ำหนัก 14 กก.
Monowheel DYU d3f เป็นจักรยานไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับใครก็ตามที่อยากได้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่ไม่เหมือนใครที่มาพร้อมกับความสนุกสนาน โดยเป็นจักรยานไฟฟ้าที่มีความเร็วอีกรุ่นจากแบรนด์ Monowheel และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เท่ากับ DYU A5 อยู่ที่ 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่ารุ่น C6 และแบรนด์อื่น ๆ ในบทความนี้
DYU d3f ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 250 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ในระยะทางสูงสุด 40 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และในส่วนของยางสูบลมแบบเส้นเดียวขนาด 24 นิ้ว ยังช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลและสะดวกสบาย
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้คือการออกแบบให้สามารถพกพาได้ ด้วยตัวเฟรมโค้งมนที่สวยงามตรงกลางและที่จับสำหรับพกพาที่เชื่อมติดกับตัวเฟรม กับน้ำหนักเพียง 17 กิโลกรัม จะช่วยให้คุณสามารถพกพาได้ง่ายและหลังไม่หักเมื่อต้องแบกเหมือนกับรุ่นอื่นอย่างแน่นอน
โดยรวมแล้ว Monowheel DYU d3f นับว่าเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับความรวดเร็วระหว่างขับขี่ ทั้งยังเป็นรุ่นที่มีน้ำหนักเบาและสามารถพกพาได้สะดวกในการเดินทางอีกด้วย
ข้อดี:
- เปิดไฟสัญญาณและไฟเบรกได้
- ดีไซน์แบบล้อเดียวที่ดูน่าสนุกอย่างเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวกสำหรับจัดเก็บและขนย้าย
- ปรับระดับความสูงของที่นั่งตามความสบายของผู้ขับขี่ได้
ข้อเสีย:
- ดีไซน์อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
2. Monowheel DYU C6
Credit: monowheel.bike
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 450 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว
- ระยะทางสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 25 กม./ชม
- น้ำหนัก: ระยะทางที่วิ่งได้ 40 กม.
- ขนาดยาง: น้ำหนัก 14 กก.
Monowheel DYU C6 เป็นรุ่นพรีเมียมที่มาพร้อมกับคุณสมบัติมากมายอันทันสมัยและยอดเยี่ยมตามที่จักรยานไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ควรจะมี ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและสง่างามจากการใช้ตัวเฟรมที่เห็นได้ทั่วไปในจักรยานสำหรับผู้หญิง ซึ่งจักรยานรุ่นนี้น่าจะกำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มลูกค้าผู้หญิงเป็นหลัก ในส่วนของการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ ระบบกันสะเทือนล้อหลัง และไฟเบรกยังช่วยยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ทั้งหมดอีกด้วย
Monowheel DYU C6 ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 350 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ในระยะทาง 35 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในส่วนของยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว จะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล และระบบกันสะเทือนล้อหลังที่ซับแรงกระแทกจะช่วยให้ผู้ขี่รู้สึกสะดวกสบาย
หนึ่งในคุณสมบัติเฉพาะของ Monowheel DYU C6 คือการเชื่อมต่อบลูทูธที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและตรวจสอบจักรยานของตนเองผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ โดยแอปพลิเคชันนี้ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการโจรกรรมที่จะช่วยยกระดับความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ จักรยานรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับไฟเบรกที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยมองเห็นของผู้ขับขี่อีกด้วย
โดยภาพรวมของ Monowheel DYU C6 นับว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้หญิงที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้งและการขับขี่ในสวนสาธารณะหรือบนท้องถนน อย่างไรก็ตาม เราอาจจะแนะนำตัวเลือกอื่นหากต้องการใช้ในการเดินทาง เนื่องจากจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้ไม่สามารถพับเก็บได้
ข้อดี:
- ดีไซน์โดดเด่นเหมาะสำหรับผู้หญิง
- ระบบกันสะเทือนล้อหลังช่วยเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่
- การเชื่อมต่อด้วยบลูทูธช่วยให้ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันและมีคุณสมบัติในการป้องกันการโจรกรรม
- ไฟเบรกช่วยยกระดับความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่
ข้อเสีย:
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนขรุขระ
- ไม่เหมาะกับการเดินทาง เพราะพับไม่ได้
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ชาย
3. EM จักรยานพับไฟฟ้า รุ่น EM2
Credit: em-bike.com
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 250 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 25 กม./ชม
- ระยะทางสูงสุด: ระยะทางที่วิ่งได้ 30-40 กม.
- น้ำหนัก: น้ำหนัก 19 กก.
- ขนาดยาง: ยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว
EM จักรยานพับไฟฟ้าจากแบรนด์ EM รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบปานกลางและผู้ที่มองหารุ่นที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพื่อใช้ในการเดินทางไปทำงานหรือการเดินทางระยะสั้นเป็นหลัก โดยจักรยานพับไฟฟ้ารุ่นนี้ไม่เร็วไปกว่ารุ่นต่าง ๆ ของ Monowheel แต่มาพร้อมกับราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อยและสามารถวิ่งในระยะทางที่น่าประทับใจราว 40 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แม้ว่าความเร็วสูงสุดที่ทำได้จะต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ ในราคาที่เท่ากัน
ดีไซน์สำหรับการพับเก็บก็ทำออกมาได้สะดวกไม่น้อย เพราะไม่ใช่การพับขึ้นแต่เป็นการพับเก็บจากด้านข้าง ซึ่งเราคิดว่ากลไกการพับในลักษณะนี้มีความปลอดภัยกว่ามากและช่วยเลี่ยงโอกาสที่จะถูกหนีบนิ้วระหว่างใช้งาน ในส่วนของแบตเตอรี่ติดตั้งและจัดเก็บอยู่ด้านหลังอานจักรยานที่สามารถชาร์จได้ง่าย มาพร้อมกับกล่องล็อกเพื่อเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันการโจรกรรมสำหรับจักรยานไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินทางในกรณีที่จำเป็นต้องจอดทิ้งเอาไว้ข้างนอกตลอดทั้งวัน
คุณลักษณะอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ของรุ่น EM2 คือไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ที่ติดมากับตัวจักรยานที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ได้ ดังนั้นผู้ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนและคนเดินถนนสามารถมองเห็นคุณได้อย่างชัดเจน
ข้อดี:
- ยางสูบลมที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล
- ดิสก์เบรกล้อหน้าและล้อหลังช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- นวัตกรรมการพับที่ช่วยให้จัดเก็บและขนส่งได้อย่างง่ายดาย
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ในตัวช่วยยกระดับความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย:
- ไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดในท้องตลาด
- ควรจัดสายไฟให้เป็นระเบียบมากขึ้น
4. ZSUN Mini E-Bike
Credit: lazada.co.th
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 250 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 25 กม./ชม
- ระยะทางสูงสุด: ระยะทางที่วิ่งได้ 30 กม.
- น้ำหนัก: น้ำหนัก 30 กก.
- ขนาดยาง: ยางสูบลมขนาด 14 นิ้ว
ZSUN Mini E-Bike เป็นจักรยานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่สามารถพับเก็บได้ จึงกลายเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการเดินทางและใช้งานในบ้าน ซึ่งในส่วนของกลไกการพับนั้นมีความเรียบง่ายและใช้งานง่ายมาก ระบบช่วยปั่นก็ยังเป็นตัวช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่อีกด้วย
ZSUN Mini E-Bike ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 250 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และวิ่งในระยะทางสูงสุดได้ 30 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยทางผู้ผลิตบริษัทกล่าวอ้างว่าสามารถทำความเร็วได้ 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง และวิ่งได้ไกล 60 กิโลเมตร แต่จริง ๆ ฟังดูแล้วค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เมื่อเปรียบเทียบค่าความเร็วและระยะทางที่วิ่งได้ของจักรยานไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาในราคานี้กับแบรนด์อื่น ๆ จะเห็นได้ว่าขีดความสามารถที่แบรนด์อื่นแจ้งมีความเป็นไปได้จริงมากกว่า แต่ในช่วงราคาที่ต่ำกว่า 10,000 บาท รุ่นนี้ก็คือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวสำหรับมือใหม่และผู้ที่ต้องการลองใช้เพื่อเดินทางโดยไม่จำเป็นต้องทุ่มทุนซื้อ
ในส่วนของยางแบบสูบลมขนาด 12 นิ้ว จะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย และระบบช่วยปั่นก็ยังช่วยให้สามารถขี่ขึ้นเขาและขี่ระยะทางไกลได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ ZSUN Mini E-Bike คือการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและเคลื่อนย้ายในพื้นที่ขนาดเล็ก นอกจากนี้ จักรยานรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ในตัวที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ด้วย
ข้อดี:
- น้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย
- ยางแบบสูบลมช่วยให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล
- ระบบช่วยปั่นเป็นตัวช่วยในการปรับปรุงประสบการณ์การขับขี่
- ดีไซน์ของการพับช่วยให้จัดเก็บและขนส่งได้ง่าย
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ในตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่
ข้อเสีย:
- จำกัดความเร็วสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น
- ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล
- ไม่มีคุณสมบัติขั้นสูงของจักรยานไฟฟ้าในราคาแพง
5. Monowheel DYU A5
Credit: monowheel.bike
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 400 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว
- ระยะทางสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 32 กม./ชม
- น้ำหนัก: ระยะทางที่วิ่งได้ 40 กม.
- ขนาดยาง: น้ำหนัก 14 กก.
Monowheel DYU A5 เป็นจักรยานไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อการพกพา สมรรถภาพ และความปลอดภัย โดยรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่า DYU C6 เกือบ 5 กิโลกรัม แต่สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเทียบกับรุ่น C6 ที่ความเร็ว 24 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะเห็นว่าจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นมีน้ำหนักเบาและรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงไม่แนะนำรุ่นนี้ให้ผู้ขับขี่มือใหม่
Monowheel DYU A5 ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 400 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ในระยะทาง 20-40 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ส่วนของยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว จะช่วยให้นั่งขับขี่ได้ด้วยความรู้สึกนุ่มนวล รวมทั้งระบบกันสะเทือนล้อหลังที่ช่วยเพิ่มความสบายมากขึ้นเป็นพิเศษ
Monowheel DYU A5 ยังมาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ได้มากขึ้นในสภาวะแสงน้อย โดยสามารถเปิดและปิดไฟผ่านสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่บนแฮนด์จับได้อย่างง่ายดาย นับว่าเป็นดีไซน์ที่พัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
โดยภาพรวมของ Monowheel DYU A5 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบจักรยานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนได้เร็วกว่า และเคยมีประสบการณ์ในการขี่จักรยานไฟฟ้ามาบ้างแล้ว
ข้อดี:
- น้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย
- ไฟหน้าและไฟท้ายช่วยยกระดับความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่
- ดีไซน์ที่พับเก็บได้ทำให้ง่ายในการจัดเก็บและขนย้าย
ข้อเสีย:
- ราคาแพง
- ไม่มีคุณสมบัติขั้นสูงของจักรยานไฟฟ้าในราคาแพง
6. HIMIWAY จักรยานไฟฟ้าพับได้
Credit: himiwaybike.com
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สะดวกมากขึ้นอีกขั้นกับจักรยานพับได้ แบตเตอรี่ทำจากลิเธียม ใช้เวลาชาร์จเพียงน้อยนิด เพียงแค่ 5-8 ชั่วโมง มาพร้อมกับโหมดขับขี่มากถึง 3 โหมด คือ โหมดปั่นไม่ใช้ไฟฟ้า โหมดปั่น+โหมดไฟฟ้า และโหมดใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ดิสก์เบรกคู่หน้า-หลังเพิ่มความปลอดภัย สามารถพับได้ 3 ระดับ แข็งแรง ทนทาน พกพาได้สะดวกสบาย
ข้อดี
- พับได้ 3 ระดับ
- ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่น้อย
- มีโช้กอัพลดแรงกระแทกขณะขับขี่
7. Xiaomi Baicycle S1
Credit: mobile2go.com
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 250 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 25 กม./ชม
- ระยะทางสูงสุด: ระยะทางที่วิ่งได้ 26 กม.
- น้ำหนัก: น้ำหนัก 8 กก.
- ขนาดยาง: ยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว
Xiaomi Baicycle S1 เป็นการพยายามทำจักรยานไฟฟ้าขายของแบรนด์ Xiaomi ซึ่งเราก็ชอบเลย แม้ระยะทางที่สามารถวิ่งได้จะไม่มากนักโดยอยู่ที่ 26 กิโลเมตรเท่านั้นจากการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ส่วนอื่น ๆ ที่เหลือก็น่าประทับใจหมด ตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงคุณสมบัติต่าง ๆ
ข้อควรคำนึงที่สำคัญของจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้คือระยะทางที่วิ่งได้ที่ 26 กิโลเมตร โดยขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้ขับขี่ที่ไม่เกิน 60 กิโลกรัม ดังนั้นหากบรรทุกคน 2 คนหรือคนร่างใหญ่ ระยะทางที่วิ่งได้ก็จะลดลง โดยรุ่นนี้จะรับน้ำหนักสูงสุดได้น้อยกว่า 100 กิโลกรัม แต่เราคาดว่าคนที่มีน้ำหนักถึงขีดจำกัดนั้นจะขับขี่ได้ในระยะทางสูงสุดที่ประมาณ 18-20 กิโลเมตร
ในส่วนของจุดเด่น เราชื่นชอบดีไซน์ที่ทันสมัยและดูมีสไตล์โดยการใช้เฟรมสีขาว ซึ่งค่อนข้างพบเห็นได้ยากในจักรยานไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ เพราะโดยทั่วไปผู้ผลิตมักจะเลือกใช้โทนสีเข้มมากกว่าเพื่อปกปิดร่องรอยของสิ่งสกปรก ดังนั้นคุณอาจจะต้องทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อให้จักรยานไฟฟ้าของคุณดูใหม่อยู่เสมอ
Xiaomi Baicycle S1 ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 250 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากมายไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่านที่ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนบนเนินเขาที่ลาดชันในมุม 15 องศาได้ หลักอานจักรยานที่สามารถปรับระดับความสูงให้พอเหมาะกับตัวของคุณได้ และในส่วนของดิสก์เบรกล้อหน้าและล้อหลังที่ช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ข้อดี:
- สายไฟจักรยานเป็นระเบียบเรียบร้อย
- ราคาระดับกลาง
- เบรกหน้าและหลังดีเยี่ยม
- ดีไซน์สวยงามมาพร้อมกับหลักอานจักรยานที่ปรับระดับได้
ข้อเสีย:
- ระยะทางสูงสุดที่วิ่งได้สั้นกว่ารุ่นอื่น
- ดีไซน์พับไม่ได้จริง
8. EM จักรยานไฟฟ้า รุ่น EM BOLT
Credit: em-bike.com
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 500 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 30-40 กม./ชม
- ระยะทางสูงสุด: ระยะทางที่วิ่งได้ 45-60 กม.
- น้ำหนัก: น้ำหนัก 26 กก.
- ขนาดยาง: ยางล้อใหญ่ 20 นิ้ว
EM BOLT รถจักรยานไฟฟ้าจากแบรนด์ EM เป็นรุ่นพรีเมียมอีกรุ่นหนึ่งที่มีราคาพอ ๆ กับรุ่น DYU A5 ดังนั้นเราจึงหยิบยกมาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นความแตกต่าง ในส่วนของตัวเฟรมมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ดูเหมือนรถมอเตอร์ไซค์มากกว่าจักรยาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เราชอบเกี่ยวกับรุ่นนี้
จักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ทรงพลังขนาด 500 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่ารุ่นต่าง ๆ ของ Monowheel ที่กล่าวถึงในบทความของเรา อย่างไรก็ตาม ความเร็วสูงสุดและระยะทางที่วิ่งได้นั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้ขับขี่เป็นหลัก โดยสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม จึงนับว่าเป็นจุดเด่นอย่างมากเพราะคนทั่วไปมีน้ำหนักเฉลี่ยราว 40 – 80 กิโลกรัม ซึ่งยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักสูงสุดที่รองรับ ดังนั้นการวิ่งด้วยความเร็ว 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะทาง 50 กิโลเมตรจึงเป็นไปได้
ความทรงพลังของรถจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถวิ่งขึ้นเขาที่มีความชันได้มากถึง 30 องศา ซึ่งลาดชันกว่าที่รุ่น Baicycle S1 จากแบรนด์ Xiaomi ทำได้ถึงสองเท่า นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่คุณภาพสูงที่สามารถชาร์จซ้ำได้มากกว่า 900 ครั้งก่อนที่พลังงานจะเริ่มลดลง
รถจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้นับว่าเป็นรุ่นที่สมบุกสมบันมากทีเดียว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการจักรยานไฟฟ้าที่ทรงพลัง
ข้อดี:
- แบตเตอรี่คุณภาพสูง
- มีความเร็วสูงสุดและระยะทางสูงสุดที่เหนือชั้น
- ดีไซน์ทรงพลังเหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์
- เอาชนะคู่แข่งในด้านความทรงพลังได้เกือบทั้งหมด
ข้อเสีย:
- ไม่เหมาะสำหรับการเดินทาง น้ำหนักเยอะ และพับไม่ได้
- บางคนอาจจะไม่ชอบดีไซน์ที่เหมือนรถมอเตอร์ไซค์
- ราคาแพง
9. JIESUQI จักรยานไฟฟ้า
Credit: shopee.co.th
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 250 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 20-35 กม./ชม
- ระยะทางสูงสุด: ระยะทางที่วิ่งได้ 30 กม.
- น้ำหนัก: น้ำหนัก 18 กก.
- ขนาดยาง: ยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว
จักรยานไฟฟ้า JIESUQI ใช้เฟรมทั่วไปที่เคยเห็นจากแบรนด์อื่น ๆ อย่างเช่น Z-SUN ซึ่งมินิไบค์หรือรถจักรยานขนาดเล็กรุ่นนี้เป็นจักรยานไฟฟ้าที่มีดีไซน์เท่มากทีเดียว โดยมีคุณสมบัติยอดเยี่ยมที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Monowheel และ Xiaomi ได้
จักรยานไฟฟ้า JIESUQI ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 250 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 30 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในส่วนของยางสูบลมขนาด 26 นิ้ว ก็ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่น และระบบช่วยปั่นยังช่วยให้ขับขึ้นเขาได้อย่างง่ายดายและวิ่งได้ไกลมากขึ้นอีกด้วย
กลไกการพับเก็บของรุ่นนี้ทำออกมาได้ดีมาก และด้วยขนาดที่กะทัดรัดจึงช่วยให้จัดเก็บในท้ายรถหรือในพื้นที่ขนาดเล็กได้ง่าย สีสันของจักรยานไฟฟ้าก็สวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งเราชื่นชอบสีแดงที่เติมแต่งเข้าไปในส่วนที่จักรยานส่วนใหญ่มักจะออกแบบด้วยสีดำราบเรียบ
ส่วนของความเร็วนั้นคาดเดาได้ค่อนข้างยาก เพราะการตั้งค่าความเร็วขั้นต่ำจากโรงงานอยู่ที่ 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ความจริงคือสามารถเร่งความเร็วได้สูงถึง 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยขึ้นอยู่กับขนาดตัวของผู้ขับขี่เป็นหลัก แม้ว่าจะไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่าจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถรับน้ำหนักสูงสุดได้มากน้อยแค่ไหน แต่เราคาดว่าน้ำหนักสูงสุดที่รับได้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 120 กิโลกรัม เนื่องจากรุ่นนี้ออกแบบมาด้วย 2 ที่นั่ง จึงหมายความว่าออกแบบมาเพื่อการใช้งานสำหรับมากกว่า 1 คน
จักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้ประกอบไปด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียวและเป็นสิ่งที่คุณไม่ค่อยจะได้เห็นจากรุ่นหรือแบรนด์อื่นในท้องตลาด โดยรูปลักษณ์เหมาะสำหรับคู่รักและเพื่อนฝูงที่อยากจะขับขี่จักรยานไฟฟ้าไปด้วยกันอย่างสนุกสนาน
ข้อดี:
- ดีไซน์ 2 ที่นั่งไม่เหมือนใคร
- ดีไซน์ด้วยสีแดงดำสะดุดตา
- กลไกการพับยอดเยี่ยมทำให้มีขนาดกะทัดรัด
- ราคาเหมาะสมกับคุณสมบัติ
ข้อเสีย:
- ไม่มีการแจ้งน้ำหนักสูงสุดที่รับได้
- ความเร็วสูงสุดมีช่วงกว้างมาก
- ระยะทางจำกัดสำหรับการเดินทางไกล
- ไม่มีคุณสมบัติขั้นสูงของจักรยานไฟฟ้าในราคาแพง
10. จักรยานไฟฟ้า G-Force G14
Credit: thailand-gforce.weebly.com
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
- แบตเตอรี่: มอเตอร์ 400 วัตต์
- ความเร็วสูงสุด: ความเร็วสูงสุด 25 กม./ชม
- ระยะทางสูงสุด: ระยะทางที่วิ่งได้ 40 กม
- น้ำหนัก: น้ำหนัก 20 กก
- ขนาดยาง: ยางขนาด 26 นิ้ว
จักรยานไฟฟ้า G-Force G14 เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ลองหัดขี่ครั้งแรกและผู้ที่มีงบไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ที่ทรงพลัง แบตเตอรี่ระยะยาว และระบบกันสะเทือนขั้นสูงที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่โดยรวม
G-Force G14 ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 400 วัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และวิ่งในระยะทางสูงสุด 40 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในส่วนของยางแบบสูบลมขนาด 26 นิ้ว และระบบกันสะเทือนล้อหน้าและล้อหลังจะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย เช่นเดียวกันกับดิสก์เบรกระบบไฮดรอลิกที่จะช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ G-Force G14 ก็คือหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ที่มีความละเอียดสูง โดยจะแสดงระดับแบตเตอรี่ ความเร็ว และข้อมูลสำคัญต่าง ๆ นอกจากนี้จักรยานรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ในตัวที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่อีกด้วย
โดยสรุปแล้ว จักรยานไฟฟ้า G-Force G14 นับว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางในเมืองและต้องการจักรยานไฟฟ้าที่ใช้งานในระยะยาวหลายปีโดยที่พลังงานจากแบตเตอรี่ยังคงสภาพเดิม
ข้อดี:
- วิ่งในระยะไกลเหมาะสำหรับการเดินทางที่ยาวนานขึ้น
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยอดเยี่ยมด้วยการชาร์จมากกว่า 2,500 ครั้งก่อนที่แบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพ
- มีหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ความละเอียดสูงในการแสดงข้อมูลสำคัญต่าง ๆ
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ในตัวที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยของผู้ขับขี่
ข้อเสีย:
- ไม่ใช่จักรยานที่วิ่งได้เร็วนัก
- ไม่แน่ใจเกี่ยวกับคุณภาพการบริการลูกค้าเพราะไม่ใช่แบรนด์ดังในประเทศไทย
11. Adiman จักรยานไฟฟ้า
Credit: lazada.co.th
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
การใช้งานแบตเตอรี่: 30 กิโลเมตร
จักรยานไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับคุณ ช่วยให้คุณประหยัดพลังงานในการปั่น มาพร้อมกับแบตเตอรี่พกพาที่สามารถถอดออกได้ แฮนด์จับและคันเหยียบสามารถพับได้ เพิ่มความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีไฟท้ายเสริมความปลอดภัยขณะขับขี่ในที่มืด
จักรยานไฟฟ้าคันนี้นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางแล้ว ยังมาพร้อมกับตะกร้าขนาดใหญ่ และสามารถนั่งได้ 3 คน คือ คนขับ คนซ้อน และเด็ก ด้วยความสามารถในการรองรับน้ำหนักได้มากถึง 250 กิโลกรัม จึงถือเป็นจักรยานไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีความแข็งแรงทนทาน เบรกแบบคู่ สามารถเบรกได้ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่
คุณสมบัติพิเศษ
- แบตเตอรี่สามารถถอดออกได้ และสามารถพกพาได้
- ตัวแฮนด์จับและคันเหยียบสามารถพับได้
- สามารถนั่งได้ 3 คน และรองรับน้ำหนักได้มาก
12. INMOTION P2 2019 จักรยานไฟฟ้าพับได้
Credit: myinmotion.com
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
จักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย แข็งแรง ทนทาน แต่น้ำหนักเบา มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ตัวยางเป็นแบบเติมลม พร้อมดอกยางที่เพิ่มระดับการเกาะถนนได้ดีกว่า อีกทั้งยังสามารถวิ่งบนพื้นผิวที่ขรุขระได้เป็นอย่างดี มีระบบล็อกกันขโมย สะดวกสบายสุด ๆ ด้วยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเช็คสถานะแบตเตอรี่ ระยะทาง หรือแม้แต่การกำหนดความเร็วสูงสุด การปรับแต่งโหมดการขับขี่ และการเช็คข้อมูลการขับขี่ได้อย่างสะดวกง่ายดาย
ข้อดี
- เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้
- มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- สามารถพับได้
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกจักรยานไฟฟ้า
ตำแหน่งของมอเตอร์
1) ดุมล้อหน้า, 2) ดุมล้อหลัง, 3) มอเตอร์ติดตั้งตรงกลาง
โดยทั่วไปมอเตอร์ของจักรยานไฟฟ้าจะติดตั้งอยู่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง นั่นคือ ตรงกลางจักรยาน ดุมล้อหลัง และดุมล้อหน้า
ระบบเครื่องยนต์ส่วนใหญ่จะมีมอเตอร์ติดตั้งตรงกลางบริเวณกะโหลกจักรยานและจ่ายกระแสไฟผ่านโซ่ลูกกลิ้ง ซึ่งนับว่าเป็นตำแหน่งการวางที่ดีเพราะทำให้มวลส่วนเกินลดน้อยลงและการวางในจุดกึ่งกลางเฟรมจะไม่ส่งผลต่อความเสถียรและการควบคุมของจักรยาน
การติดตั้งมอเตอร์ที่บริเวณดุมล้อหลังก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะทำให้มวลส่วนเกินลดน้อยลงและเนื่องจากน้ำหนักของผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะถ่ายลงล้อหลัง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการควบคุมและการยึดเกาะพื้นถนนมากจนเกินไปจากน้ำหนักและกำลังส่งที่เพิ่มขึ้น
แบบสุดท้ายคือ มอเตอร์อาจจะติดตั้งบริเวณดุมล้อหน้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะส่งผลให้ใช้งานยากเล็กน้อยเนื่องจากชุดมอเตอร์อาจส่งผลต่อแกนบังคับเลี้ยว และส่วนใหญ่ล้อหน้าจะมีน้ำหนักไม่มาก การติดตั้งในตำแหน่งดังกล่าวจึงอาจจะส่งผลกระทบต่อการยึดเกาะได้ โดยทั่วไปการติดตั้งมอเตอร์บริเวณดุมล้อหน้ามักใช้สำหรับจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้และรถจักรยานไฮบริด
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้า
จักรยานไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จได้ เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ที่ใช้กับยานพาหนะไฟฟ้าประเภทอื่น (เช่น จักรยานไฟฟ้าล้อเดียว และจักรยานไฟฟ้าสามล้อ) ที่มีน้ำหนักเบาและทรงพลังพร้อมกับคุณสมบัติการชาร์จที่รวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่จะชาร์จจนเต็มภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
โดยทั่วไปจักรยานไฟฟ้าที่มีราคาสูงขึ้นจะได้แบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้น ดังนั้นระยะทางที่วิ่งได้จากการชาร์จก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
โดยปกติแล้วแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้จากปลั๊กไฟติดผนังแบบมาตรฐาน ไม่ว่าจะชาร์จรถจักรยานผ่านพอร์ตหรือต่อเข้ากับแบตเตอรี่โดยตรง ดังนั้นการใช้กุญแจคล้องกับชุดแบตเตอรี่แบบถอดได้จึงเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป
การล็อกแบตเตอรี่
ในปัจจุบันจักรยานไฟฟ้ามีตัวเลือกมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ผลิตหลายแบรนด์ได้ออกแบบแบตเตอรี่ด้วยเทคนิคอันชาญฉลาดเพื่อทำให้จักรยานดูมีสไตล์มากขึ้น โดยส่วนใหญ่แบตเตอรี่จะล็อกติดกับจักรยานและมาพร้อมกับกุญแจที่ช่วยให้ปลดล็อกแล้วยกแบตเตอรี่ออกมาได้ ซึ่งการออกแบบในลักษณะดังกล่าวมีจุดประสงค์ดังนี้
- สามารถถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวจักรยานเพื่อชาร์จได้
- การล็อกแบตเตอรี่อาจช่วยป้องกันการโจรกรรมได้
- จักรยานไฟฟ้าที่ถอดแบตเตอรี่ออกจะปลอดภัยกว่าเมื่อใช้แร็คจัดเก็บจักรยาน
- จักรยานไฟฟ้าที่ถอดแบตเตอรี่ออกมีน้ำหนักเบากว่าในการยกขึ้นลงบันได
ระยะทางของจักรยานไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้
ระยะทางที่วิ่งได้ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ สถานที่ และวิธีการขับของคุณ รวมไปถึงความจุของแบตเตอรี่ จักรยานไฟฟ้าบางรุ่นอาจมีแบตเตอรี่หลายก้อนซึ่งสามารถวิ่งในระยะทางที่มากกว่า 75+ ไมล์ (120+ กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่สำหรับจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ที่ออกแบบมาให้พกพาและพับเก็บได้ง่ายขึ้นเพื่อใช้เดินทางในเมืองที่มีระยะสั้นกว่าอาจจะวิ่งได้ 20 ไมล์ (32 กิโลเมตร) หรือน้อยกว่านั้น
- โดยทั่วไปคุณสามารถปรับเป็นโหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดช่วยปั่นระดับต่ำได้ แม้ว่าคุณจะต้องออกแรงบนคันเหยียบมากขึ้นในโหมดนี้ แต่จะช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
- ในทางกลับกัน การตั้งค่าโหมดช่วยปั่นระดับสูง ๆ ก็จะช่วยพาคุณเคลื่อนตัวบนเนินและเร่งความเร็วได้ง่ายขึ้นในสภาวะหยุด/เดินรถ แต่โหมดนี้จะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าเดิม
ทำความเข้าใจการทำงานของเซ็นเซอร์ของจักรยานไฟฟ้า
จักรยานไฟฟ้าประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลายตัวเพื่อใช้ในการควบคุมเอาต์พุตหรือกำลังส่งของมอเตอร์ ประการแรกคือมีเซ็นเซอร์วัดความเร็วเพื่อช่วยตรวจจับและลดความเร็วสูงสุดให้เป็นไปตามกฎหมาย
รวมทั้งมีเซ็นเซอร์แรงบิดที่ช่วยตรวจสอบระดับกำลังส่งที่เหมาะสมกับแรงเหยียบของคุณและควบคุมการทำงานของจักรยานไฟฟ้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับการใช้งานของคุณ และระบบเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนมากขึ้นอาจเพิ่มตัวเซ็นเซอร์มากขึ้นเพื่อควบคุมเอาต์พุตในโหมดช่วยเหลืออัจฉริยะ (Smart Assist Mode)
นอกจากนี้ยังมีจอแสดงแบตเตอรี่และระดับการทำงานของมอเตอร์พร้อมกับปุ่มสำหรับเลือกโหมดการทำงาน โดยหน้าจอแสดงผลส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบ LED ที่ติดตั้งบนแฮนด์จับจักรยาน และหน้าจอส่วนนี้อาจแสดงข้อมูลความเร็ว ระยะทาง และระยะทางที่สามารถวิ่งได้
จักรยานไฟฟ้าจำนวนมากมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้งานร่วมกัน โดยที่มีฟังก์ชันการทำงานแตกต่างกันไป แต่แอปพลิเคชันที่ซับซ้อนมากขึ้นจะสามารถแสดงข้อมูลสถานะแบตเตอรี่ได้ ช่วยให้สามารถปรับระดับการทำงานของมอเตอร์ได้ และอาจรวมไปถึงการวางแผนเส้นทางในการเดินทางและการนำทางด้วย GPS รวมถึงการแบ่งปันหรือแชร์การเดินทางของคุณอีกด้วย
หน้ายางล้อรถที่กว้างขึ้น
จักรยานไฟฟ้าโดยทั่วไปสามารถรักษาความเร็วได้สูงกว่าจักรยานธรรมดา ดังนั้นการขับขี่จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมเป็นพิเศษ โดยหน้ายางล้อรถที่กว้างขึ้นจะช่วยให้ยึดเกาะได้ดีขึ้นและสามารถขับเคลื่อนออกจากทางเท้าได้อย่างอิสระโดยมีข้อเสียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในส่วนของตะเกียบยึดล้อหน้าที่ซับแรงสะเทือนจะช่วยให้ควบคุมจักรยานบนถนนที่ขรุขระได้เป็นอย่างดี และดิสก์เบรกที่มีคุณภาพดีก็มีความจำเป็นสำหรับการชะลอความเร็วของจักรยานหนัก ๆ ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเช่นกัน ส่วนประกอบนี้จึงคุ้มค่าที่จะลงทุน
ระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะ
จักรยานไฟฟ้าบางรุ่นมาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะที่จะเปิดขึ้นเมื่อคุณสตาร์ทเครื่องยนต์ แม้ว่าระบบไฟนี้จะเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม แต่ใช่ว่าจักรยานทุกรุ่นจะมีการติดตั้งระบบดังกล่าวและก็ไม่เสียหายอะไรนักหากจักรยานของคุณจะไม่มีระบบไฟนี้ เนื่องจากมีไฟจักรยานคุณภาพดี ๆ ในท้องตลาดจำนวนมาก และการติดตั้งไฟจักรยานก็สามารถทำเองได้อย่างง่ายดาย
วิธีการดูแลรักษาจักรยานไฟฟ้า ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ
การดูแลรักษา ก็เป็นเหมือนการยืดอายุการใช้งานจักรยานของเราให้อยู่ได้ไปนาน ๆ ซึ่งการดูแลรักษาจักรยานไฟฟ้านั้นไม่ยากอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ และเราก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดูแลมาฝาก จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า
เช็คสภาพลมยางอย่างสม่ำเสมอ
หมั่นตรวจสอบและเช็คสภาพลมยางอย่างสม่ำเสมอ ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง การดูแลรักษาล้อและลมยางจะช่วยยืดอายุการใช้งานมอเตอร์ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เพราะลมยางที่อยู่ในสภาพดี จะช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับตัวจักรยาน วงล้อ ซี่ลวด และแกนมอเตอร์ได้
ตรวจเช็คระบบเบรกให้อยู่ในสภาพดี
เช็คระบบเบรกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม หากเบรกค้าง หรือผ้าเบรกมีช่องว่างอยู่ชิดติดับล้อมากเกินไปจนเสียดสีกันอยู่ตลอดเวลา จะทำให้มอเตอร์ทำงานหนักขึ้นโดยไม่จำเป็น ลองบิดและสังเกตหรือฟังเสียงว่าผ้าเบรกมีการเสียดสีกับวงล้อหรือไม่
ห้ามทิ้งแบตเตอรี่ไว้กลางแดด
ความร้อนจากแสงแดดจะทำให้ประสิทธิภาพในการเก็บประจุไฟฟ้าลดลง อีกทั้งยังทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพโดยไม่จำเป็น ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงอีกด้วย
ห้ามฉีดน้ำอัดเข้าไปในช่องสายไฟ
มอเตอร์ของจักรยานนั้นสามารถลุยฝนได้ แต่การฉีดน้ำอัดเข้าไปที่ช่องสายไฟ อาจจะมีโอกาสทำให้น้ำเข้าไปตามช่องว่างต่าง ๆ ของตัวซีลของมอเตอร์ ทำให้ตัวมอเตอร์เสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าเดิม
อย่าใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง
การใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือชาร์จไฟเมื่อใช้แบตเตอรี่เหลือสักประมาณ 40% จะช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุยาวนานที่สุด
ดัชนีคำศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับจักรยานไฟฟ้า
หากคุณสับสนเกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะที่ใช้กับจักรยานไฟฟ้า อย่างเช่น ระดับการทำงานของมอเตอร์ (Assist Level) จักรยานไฟฟ้าที่มีระบบช่วยปั่น (EAPC) และวัตต์ (Watt) เป็นต้น ก็อย่าได้กังวลไป เพราะเราได้รวบรวมคลังคำศัพท์เฉพาะทั้งหมดเอาไว้ให้คุณในส่วนนี้แล้ว
ระดับการทำงานของมอเตอร์ (Assist Level): ระดับการทำงานของมอเตอร์เป็นตัวช่วยในการขับขี่ โดยทั่วไปจักรยานไฟฟ้าส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยการทำงานของมอเตอร์หลายระดับให้คุณสามารถสับเปลี่ยนไปมาในระหว่างที่ปั่นจักรยานไปตามภูมิประเทศลักษณะต่าง ๆ ได้ และจักรยานไฟฟ้าบางรุ่นสามารถปรับเปลี่ยนระดับขึ้นและลงได้โดยอัตโนมัติไปตามภูมิประเทศหรือเพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ ซึ่งกำลังที่มากขึ้นจะหมายถึงระยะทางที่น้อยลง
วัตต์ (Watt): เอาต์พุตหรือกำลังไฟฟ้าสำหรับมอเตอร์จักรยานไฟฟ้า โดยทั่วไปจะมีหน่วยวัดเป็นวัตต์ ค่านี้เป็นตัวบ่งบอกถึงปริมาณพลังงานสูงสุดที่สามารถผลิตได้
วัตต์ชั่วโมง (Watt Hour): ความจุของแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้ามีหน่วยวัดเป็นวัตต์ชั่วโมง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือแบตเตอรี่สามารถส่งออกวัตต์ได้มากแค่ไหนและใช้เวลานานเท่าไหร่ ดังนั้นหากมอเตอร์ขนาด 250 วัตต์ ได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 250Wh และทำงานอย่างเต็มกำลัง แบตเตอรี่จะหมดภายในเวลา 1 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงมอเตอร์ส่วนใหญ่จะไม่ทำงานเต็มกำลัง แบตเตอรี่จึงมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
แรงบิด (Torque): แรงบิดเป็นตัวเลขที่สำคัญไม่แพ้กันโดยเฉพาะสำหรับจักรยานเสือภูเขาไฟฟ้า (eMTB) ค่านี้เป็นการวัดแรงหมุนของมอเตอร์ ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเพิ่มกำลังส่งเมื่อขับเคลื่อนบนเนินเขา
โหมดเดิน (Walk Mode): โหมดเดินมีประโยชน์มากหากคุณจำเป็นจะต้องเข็นจักรยานไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่มีน้ำหนักมาก ซึ่งโหมดเดินจะเปิดให้มอเตอร์ขับเคลื่อนตัวจักรยานไปพร้อมกับการเดินของคุณ
บทสรุป
รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม หันมาใช้จักรยานไฟฟ้ากันดีกว่าค่ะ เพราะไม่ต้องปั่นให้เมื่อย แถมยังสามารถเดินทางได้ค่อนข้างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งระยะใกล้และไกล ไม่ว่าจะปั่นไปรับลูกที่โรงเรียน ปั่นไปจ่ายตลาด ปั่นไปซื้อของที่เซเว่น รับรองสะดวกสบายอย่างแน่นอน
รีวิวจักรยานยอดนิยม:
- จักรยานเสือภูเขาที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปีนี้
- จักรยานไฮบริดที่ดีที่สุดในการขี่ตอนนี้
- จักรยานพับด้านบนสำหรับการเดินทาง
ต้องการอะไรเร็วขึ้นไหม
- ดูว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี – ดูหน้ารีวิวของเราที่นี่