นาฬิกาวัดชีพจร นาฬิกาจับการเต้นของหัวใจที่ดีที่สุด สามารถซื้อออนไลน์ได้ในปี 2023 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละรุ่นในบทความ
ไม่ว่าคุณจะต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการวิ่งในแต่ละสัปดาห์ หรือพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกซ้อมไตรกีฬาของคุณ การเลือกนาฬิกาวัดชีพจร หรือ heart rate monitor ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณภาพ ก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ผลลัพธ์มากขึ้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ คุณต้องเลือกอุปกรณ์ชิ้นนี้ของคุณอย่างรอบคอบ เลือกดูว่าจะใช้เป็นสายรัดหน้าอกที่ใช้งานได้โดยไม่พึ่งอุปกรณ์เสริม หรือจะเป็นนาฬิกาอเนกประสงค์ที่คุณสามารถสวมใส่ได้ตลอดเวลา?
ข้อมูลที่รวบรวมจากเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัลในอุปกรณ์ที่สวมใส่ข้อมือนั้น จะมีความแม่นยำน้อยกว่าสายรัดหน้าอกเล็กน้อย นั่นเป็นเพราะเซ็นเซอร์ของจอภาพบริเวณทรวงอกได้ทำหน้าที่วัดชีพจรไฟฟ้าใกล้กับหัวใจ ในขณะที่จอภาพที่ข้อมือใช้การวัดด้วย LED เพื่อหักเหแสงจากเลือดที่ไหลผ่านข้อมือแทน
- Polar H10
- #1
- Fitbit Inspire 2
- #2
- Garmin HRM-Tri
- #3
ดังนั้นคำถามสำคัญที่คุณจะต้องถามตัวเองคือ คุณต้องการความแม่นยำระดับเกือบสมบูรณ์แบบของสายรัดหน้าอก หรือการวัดที่แม่นยำน้อยกว่าเล็กน้อยของนาฬิกาที่เพิ่มความสะดวกสบายให้คุณได้
เพื่อให้คุณทราบว่านาฬิกาวัดชีพจรรุ่นใด จะสามารถช่วยยกระดับการฝึกของคุณได้ เราได้ลองทดสอบ นาฬิกาวัดความดัน รุ่นที่ดีที่สุด ทั้งหมดสิบสองรุ่น ซึ่งรุ่นที่เราเลือก เหมาะทั้งสำหรับ ผู้ที่ชอบการฝึกซ้อมแบบหนัก ผู้เล่นกีฬาในช่วงสุดสัปดาห์ ผู้ใช้ที่ไม่ซีเรียสมากนัก รวมถึงผู้ที่วางแผนจะไปว่ายน้ำหรือดำน้ำด้วย
- รีวิว Sports Watch ที่ดีที่สุด
- อุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายที่ดีที่สุดที่คุณซื้อได้ในปีนี้
รุ่นไหนเป็น นาฬิกาวัดคลื่นหัวใจ ที่ดีที่สุด?
หากคุณกำลังมองหานาฬิกาวัดชีพจรที่ดีที่สุดในตอนนี้ รุ่นที่เราประทับใจมากที่สุด ตกเป็นของสายคาดหน้าอก Polar H10 (ราคาประมาณ 2,800 บาท) เป็นอุปกรณ์ที่รวมความแม่นยำระดับสุดยอด เข้ากับราคาประหยัด ความสะดวกสบาย และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษ ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ฝึกกีฬาระดับกลางและระดับจริงจัง ที่ต้องการการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจย่างไม่สะดุด ในการวิ่ง การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำและกีฬาอื่น ๆ
หากคุณมีระดับการฝึกอบรมใกล้เคียงกัน แต่ต้องการนาฬิกาวัดชีพจรที่สามารถสวมใส่บนข้อมือของคุณได้ รุ่นที่เหมาะสมก็น่าจะเป็น Garmin Forerunner 945 (ราคาประมาณ 22,000 บาท) เป็นนาฬิกากีฬาตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ดีที่สุดของเรา
สำหรับผู้ที่ต้องการนาฬิกาวัดชีพจรที่เชื่อถือได้ในด้านนี้โดยเฉพาะ และไม่จำเป็นต้องอยู่บนหน้าอกหรือข้อมือของคุณ อุปกรณ์รุ่น Polar Verity Sense (ราคาประมาณ 3,400 บาท) คือตัวเลือกที่คุณควรพิจารณา รุ่นนี้เป็นนาฬิกาวัดชีพจรที่หลากหลายที่สุด: เหมาะสำหรับการออกกำลังกายในยิม และยังใช้สวมบนแว่นตาว่ายน้ำเพื่อตรวจสอบการฝึกซ้อมของคุณในน้ำได้ด้วย
ตัวเลือกที่โดดเด่นอื่น ๆ ก็มีมากมาย ทั้งสายรัดหน้าอกจาก Garmin เช่น HRM Dual และ HRM Tri ซึ่งรองรับกิจกรรมเฉพาะมากกว่ากิจกรรมทั่วไป
รีวิว นาฬิกาวัดคลื่นหัวใจ | สายคาดหน้าอก สายรัด และแบบนาฬิกา
1. Polar H10 chest strap
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
Polar’s H10 มีความแม่นยำ สวมใส่สบาย และใช้งานได้ยาวนาน
ประเภทเซ็นเซอร์วัดชีพจร: Electrode pad | อายุแบตเตอรี่: 400 ชั่วโมง | น้ำหนัก: 21 กรัม (ไม่รวมสาย)
สายคาดหน้าอก Polar H10 (ราคาประมาณ 2,800 บาท) มีคุณสมบัติทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับนาฬิกาวัดชีพจรระดับคุณภาพสูง รุ่นนี้ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ที่แม่นยำที่สุดที่เราได้ทำการทดสอบเท่านั้น แต่ยังลดปัญหาการหยุดวัดผล หรือการแสดงผลข้อมูลที่มากหรือน้อยเกินไป ในระหว่างการทดสอบการวิ่ง การปั่นจักรยานในร่ม การฝึกความแข็งแรง และการออกกำลังกายเป็นช่วง เป็นสายรัดอกที่สวมใส่สบายที่สุดในบรรดาทั้งสามรุ่นอีกด้วย
เรื่องนี้อาจฟังดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ที่จริงแล้วการมีสายรัดปัดแกว่งไปมาอาจจะขัดขวางจังหวะการออกกำลังกายของคุณได้ คุณคงไม่ต้องการหยุดปรับสายรัดของคุณให้แน่นทุก 4 นาที รุ่นนี้จึงมีตัวล็อคแบบหัวเข็มขัดของ Polar ซึ่งปลอดภัยกว่าตัวเชื่อมแบบห่วงและตะขอเล็กน้อย ซึ่งเป็นแบบที่คุณอาจเห็นบนสายรัดจากแบรนด์อื่น
คุณลักษณะที่สะดวกที่สุดของอุปกรณ์ชิ้นนี้ คือหน่วยความจำในตัว สามารถจัดเก็บข้อมูลสำหรับการออกกำลังกายหนึ่งรอบ แต่ Polar ไม่ได้ระบุเวลาสูงสุดของรอบที่คุณใช้ได้จนกว่าหน่วยความจำอาจจะหมด แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องพกโทรศัพท์ติดตัวไปด้วยเมื่อออกกำลังกาย เพียงใช้งานในแอป Polar Beat จากนั้นก็เชื่อมต่อข้อมูลเมื่อคุณกลับบ้าน
การเชื่อมต่อ ANT + คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ ไม่เพียงเฉพาะผ่านระบบบลูทูธเท่านั้น หากคุณมีเทรนเนอร์เทอร์โบอยู่แล้ว คุณยังสามารถเชื่อมต่อทั้งนาฬิกานี้และนาฬิกา GPS ในรอบเดียวกันได้ สำหรับนักว่ายน้ำและผู้ที่ชื่นชอบไตรกีฬา การออกแบบที่ป้องกันการว่ายน้ำและการส่งสัญญาณ 5kHz ของรุ่นนี้ (ซึ่งจำเป็นต่อการส่งข้อมูลจากใต้น้ำ) ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่วางแผนว่ายน้ำในสระ
คุณไม่จำเป็นต้องชาร์จ H10 เหมือนนาฬิกาทั่วไป Polar จะประเมินว่าคุณจะใช้งานได้ประมาณ 400 ชั่วโมงก่อนที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ CR2025 ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาที่ใฝ่ฝันอยากแข่งโอลิมปิก และต้องฝึกซ้อมบ่อย เราก็มั่นใจว่าคุณสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอย่างน้อยหนึ่งปีแบบไม่ต้องหาอุปกรณ์อื่นมาแทนสายรัดหน้าอกนี้
ข้อดี: แม่นยำมาก; สวมใส่สบาย; อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีเยี่ยม
ข้อเสีย: ไม่มีหน่วยวัดการวิ่งหรือการขี่จักรยานโดยเฉพาะ
2. Fitbit Inspire 2
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
บันทึกข้อมูลสุขภาพประจำวันได้ดีที่สุด
Fitbit เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการเปลี่ยนแปลงในอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย ที่ปรับตั้งแต่การนับจำนวนก้าว ไปจนถึงอัตราการเต้นของหัวใจโดย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีในเกือบทุกรุ่นของแบรนด์ รวมถึงการเสริมนาฬิกาวัดชีพจรแบบออปติคอลเข้าไปด้วย คุณสมบัติที่ดีที่สุดทั้งหมดของ Fitbit มีการเชื่อมโยงกับ HRM โดยรับข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจที่มีการติดตามอยู่ตลอดเวลา และใช้สรุปเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกายของคุณ
คุณสามารถดูอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักผ่อนได้ จากในแอปที่เป็นพันธมิตรของแบรนด์ ข้อมูลนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าคุณแข็งแรงกว่าเดิมหรือไม่ โดยตัวเลขที่ได้ รวมถึงคะแนนการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอของคุณ ควรมีค่าลดลงจากเดิม คะแนนที่ได้นี้เทียบเท่ากับการวัดค่า VO2 max ของ Fitbit และยังเป็นสถิติที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถภาพหัวใจและหลอดเลือดโดยทั่วไปของคุณ ซึ่งในส่วนนี้ตัวเลขควรมีค่าเพิ่มขึ้น ระบบ HRM ยังป้อนข้อมูลเข้าไปในการติดตามการนอนหลับของ Fitbit และใช้สำหรับการให้คะแนนการนอนหลับและการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอของคุณ ตัวเลขของคุณจะถูกเปรียบเทียบกับผู้ใช้ Fitbit คนอื่น ๆ ที่มีอายุและเพศเดียวกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถดูได้ว่าพัฒนาการของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
ในปี 2020 Fitbit ได้เปิดตัวระบบ Active Zone Minutes ติดตามพัฒนาการของคุณอย่างชัดเจน ไปสู่เป้าหมาย ที่ใช้เวลาออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ด้วยคาร์ดิโอระดับปานกลาง
เวลาที่ใช้ในโซนอัตราการเต้นของหัวใจสูง เช่น ขณะกำลังวิ่ง เวลาที่ได้จะนับเป็นสองเท่า แต่ Fitbits ก็ยังบันทึกข้อมูลโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่อัตราการเต้นของหัวใจเคลื่อนเข้าสู่โซนที่สูงขึ้น และเพิ่มข้อมูลนั้นไว้ในระบบ เช่นการเดินไปยังร้านค้า นอกจากนี้ยังแบ่ง 150 นาทีในสัปดาห์ เป็น 22 นาทีต่อวัน ช่วยให้รู้สึกว่าออกกำลังกายได้ตามเป้ามากขึ้น
เราแนะนำ Inspire 2 เนื่องจากเป็น Fitbit ที่ราคาถูกที่สุด พร้อม Active Zone Minutes คุ้มค่าที่ราคาต่ำกว่า 5,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นนักออกกำลังกายที่มีความมุ่งมั่น คุณจะได้รับบริการที่ดีกว่าด้วย Fitbit Charge 4 (7,500 บาท) ซึ่งมีตัวเครื่องที่ใหญ่กว่าและสายรัดที่หนาขึ้น ซึ่งพบว่ามีแนวโน้มการอ่านที่แม่นยำยิ่งขึ้นเมื่อคุณออกกำลังกายเรียกเหงื่อ
ข้อดี: ราคาย่อมเยา, เทคโนโลยีอัตราการเต้นของหัวใจที่เชื่อถือได้, น้ำหนักเบาที่ข้อมือ
ข้อเสีย: คุณสมบัติไม่มากเท่ากับรุ่นอื่นของ Garmin หรือ Apple
3. Garmin HRM-Tri
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สายรัดข้อมือรัดชีพจรน้ำหนักเบาที่ดีที่สุด
มีอุปกรณ์กีฬาที่เป็นสายรัดข้อมือจำนวนมากที่อ้างว่าสามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำเมื่อใช้งานในน้ำ แต่หลายเรือนไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เมื่อวัดตามประสิทธิภาพที่แท้จริงได้ ในขณะที่รุ่น HRM-Tri สามารถทำได้จริง
สายรัด HRM Tri จาก Garmin เป็นเครื่องมือระดับมืออาชีพสำหรับนักไตรกีฬา สายรัดวัดอัตราการเต้นของหัวใจรุ่นนี้ มีขนาดเล็กและเบาเป็นพิเศษ (49 กรัม) ที่ช่วยเพิ่มระบบการขี่จักรยานและการวิ่งที่ชาญฉลาด ให้กับฟังก์ชั่นสระว่ายน้ำของ HRM Swim
รุ่นนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่โค้งมนที่สุดจากสามรุ่นในสไตล์เดียวกัน ด้วยมาตรวัดความเร่งในตัว ที่ให้ข้อมูลจังหวะการสั่นในแนวตั้งและเวลาสัมผัสพื้น (เช่น ระบบวิ่ง HRM ของ Garmin) รวมถึงการจัดเก็บสถิติ HR ขณะอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ Garmin ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าไม่มีตะเข็บที่เห็นได้ชัด และขอบทั้งหมดมีความนุ่มและโค้งมน เพื่อป้องกันการถูหรือปัญหาการหลุดลอกของชุดดำน้ำ
ข้อดี: น้ำหนักเบามาก, กันน้ำเต็มตัว, เหมาะสำหรับไตรกีฬา
ข้อเสีย: เป็นอุปกรณ์ Garmin จึงมีราคาแพง
4. Garmin HRM Pro
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สายรัดหน้าอกยอดเยี่ยมสำหรับการวิ่งและกีฬาที่เล่นเป็นทีม
ประเภทเซ็นเซอร์วัดชีพจร: Electrode pad | อายุแบตเตอรี่: 12 เดือน | น้ำหนัก: 59 กรัม
HRM Pro ของ Garmin (ราคาประมาณ 4,700 บาท) เป็นสายรัดหน้าอกอีกแบบที่คุณวางใจได้ ในการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำ เราได้นำอุปกรณ์นี้ไปทดสอบกับการขี่จักรยานในร่ม เครื่องออกกำลังกาย Rowing Machine การออกกำลังกายแบบHIIT ที่บ้าน และให้ข้อมูลที่เรารู้สึกว่าสามารถวางใจได้
การสนับสนุน ANT + และบลูทูธ ทำให้มีการเชื่อมต่อที่สำคัญอย่างครอบคลุม ทำงานร่วมกับแอปและแพลตฟอร์ม เช่น Zwift และจะเล่นได้ดีกับนาฬิกา Garmin และคอมพิวเตอร์ สามารถใช้กับนาฬิกา Fenix, Forerunner และ Vivoactive รุ่นล่าสุดได้อย่างไม่มีปัญหาในการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังกันน้ำได้ถึง 50 เมตร ทำให้สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจในสระว่ายน้ำหรือในแหล่งน้ำได้ดีกว่านาฬิกาทั่วไป
สายรัดรุ่นนี้ที่มีให้เลือกเพียงขนาดเดียว และยังต้องใช้ไขควงมือถือเมื่อคุณต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เลยเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี เนื่องจากใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เซลล์แบบเหรียญที่คุณพบได้ในนาฬิกาแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ Garmin ยังให้คุณตรวจสอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้จากภายในแอป Connect ที่ใช้ร่วมกัน เพื่อแจ้งเตือนให้คุณทราบเมื่อถึงเวลาพลังงานหมด
สำหรับนักวิ่งและผู้ที่มีนาฬิกาที่เชื่อมต่อใช้งานร่วมกันได้ Pro สามารถกำหนดหน่วยวัดการวิ่งขั้นสูงให้คุณเห็นได้ จากการสั่นในแนวตั้งและเวลาสัมผัสพื้นดิน เพื่อให้คุณเจาะลึกลงไปในข้อมูลของการวิ่ง
ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลการออกกำลังกายของคุณบนจอภาพ เพื่อเชื่อมต่อกับแอปของ Garmin ถือเป็นอีกคุณสมบัติที่ดี และยังยกระดับเหนือขึ้นไปอีก ด้วยความสามารถในการติดตามสถิติกิจกรรมประจำวัน เช่น การนับจำนวนก้าวและจำนวนนาทีของการออกกำลังกายที่เข้มข้น การสวมใส่นาฬิกาอยู่นอกข้อจำกัดเดิม ทำให้เหมาะกับกีฬาที่เล่นกันเป็นทีมมากยิ่งขึ้น
รุ่นนี้เป็นหนึ่งในสายรัดหน้าอกที่มีราคาสูงกว่ารุ่นอื่น แต่ถ้าคุณต้องการสายรัดหน้าอกที่ให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ มีหน่วยวัดสำหรับการวิ่งเพิ่มเติมจากปกติ และเหมาะสมสำหรับกีฬาประเภททีม รุ่น HRM Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
ข้อดี: ข้อมูลแม่นยำ, มีหน่วยชี้วัดการวิ่งระดับสูง, ติดตามก้าวเดินและอัตราหัวใจตลอดวัน
ข้อเสีย: ต้องใช้เครื่องมือเปลี่ยนแบตเตอรี่
5. Wahoo Tickr X
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ยอดเยี่ยมสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มากมาย
ประเภทเซ็นเซอร์วัดชีพจร: Optical | อายุแบตเตอรี่: สูงสุด 500 ชั่วโมง | น้ำหนัก: 48 กรัม
Tickr X รุ่นดั้งเดิมเป็นสายรัดหน้าอกสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำ เหมาะสำหรับนักปั่นจักรยานและนักวิ่ง ส่วน Wahoo Tickr X ใหม่ (ราคาประมาณ 2,800 บาท) จะเหมาะสมกว่าสำหรับการเดินเท้าหรือขี่จักรยาน
เซ็นเซอร์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีระดับลดลง และถูกนำมาใช้รวมกับสายรัดมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าใช้รัดหน้าอกอย่างแน่นหนาและไม่ขยับเขยื้อนระหว่างเคลื่อนไหว ไฟ LED ที่เพิ่มเข้ามาทำให้รู้ข้อมูลได้ง่ายขึ้นมากเมื่อตัวอุปกรณ์กำลังอ่านอัตราการเต้นของหัวใจ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่าน ANT + หรือบลูทูธได้สำเร็จ
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดึงดูดใจอย่างมากสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยหลังจากที่ขี่จักรยานในร่ม ให้คุณจับคู่กับอุปกรณ์หลายเครื่อง และนำเสนอการทำงานร่วมกับ Peloton และ Apple Watch ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีการติดตามจังหวะสำหรับเพิ่มข้อมูลการปั่นจักรยานที่เป็นประสิทธิภาพพิเศษเมื่อจับคู่กับแอปของ Wahoo
คุณสมบัติอีกมากมายในรุ่นนี้ยังเหมาะสำหรับนักวิ่ง ด้วยความสามารถในการตรวจสอบหน่วยวัดการวิ่งขั้นสูง เช่น เวลาสัมผัสพื้น จังหวะ และการแกว่งในแนวตั้ง คุณสามารถส่งข้อมูลนั้นไปยังนาฬิกาที่เข้ากันได้หลังจากการวัด เพื่อให้เข้าใจข้อมูลที่เชื่อมโยงกับฟอร์มการวิ่งได้ดีขึ้น Wahoo ยังคงรักษาค่า “ความราบรื่นในการวิ่ง” เอาไว้ และสนับสนุนการใช้งานในโหมดลู่วิ่งในปัจจุบัน ทำให้ได้ข้อมูลการวิ่งในร่มที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย
แบตเตอรี่เซลล์แบบ Coin Cell ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับอายุการใช้งาน ที่มีมากถึงประมาณ 500 ชั่วโมง และมีพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องที่ดีขึ้นกว่า 50 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการทิ้งโทรศัพท์หรือนาฬิกาไว้ที่ที่พัก
การออกแบบที่คล่องตัวมากขึ้น ทำให้ตัวอุปกรณ์ดูดีขึ้นและสวมใส่ได้อย่างไม่ยุ่งยาก ในการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่บ้าน คุณสามารถจับคู่กับแอปอย่าง Fiit และ Strava ได้อย่างแม่นยำ
หากการปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมที่คุณเลือก และคุณชอบข้อมูลสถิติเพิ่มเติม Tickr X รุ่นใหม่ก็เป็นรุ่นที่คุณควรพิจารณา นักวิ่งและทุกคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายแบบ HIIT เป็นประจำ จะมีเวลามากพอสำหรับสายรัดหน้าอกที่สามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำและสะดวกสบาย
ข้อดี: เบาบาง, สวมใส่สบาย, มีหน่วยวัดการวิ่ง, เชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย
ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับการว่ายน้ำ
6. Garmin HRM Dual
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สายรัดคู่สำหรับวัดอัตราชีพจรที่มีพร้อมแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนาน
การเชื่อมต่อ: Bluetooth และ ANT+ | ประเภทแบตเตอรี่: Coin cell
นอกจากการเชื่อมต่อ ANT + ที่ Garmin เป็นเจ้าของ ทางแบรนด์ก็ได้สร้างอุปกรณ์ที่สามารถส่งผ่านข้อมูลทางบลูทูธได้อย่างรุ่น HRM dual รุ่นนี้เป็นนาฬิกาวัดชีพจรแบบถอดออกได้ ใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจของคุณเท่านั้น ไม่มีหน่วยความจำอุปกรณ์ และไม่มีกลไกสำหรับการวิ่งหรือว่ายน้ำ
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่นับว่ารุ่นนี้ไม่มีเซ็นเซอร์พิเศษและคุณสมบัติการติดตามอื่น ๆ ก็ถือว่าราคาลดลงเป็นราคาที่เหมาะสมอย่างมาก ทาง Garmin กล่าวว่าแบตเตอรี่ CR2032 จะมีอายุการใช้งานประมาณสามปี รุ่นนี้จึงเป็นทางเลือกราคาประหยัดที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Garmin HRM Pro รุ่นใหม่และเต็มคุณสมบัติมากขึ้น
ข้อดี: ราคาดีมาก, แบตเตอรี่ใช้งานได้ 3.5 ปี, สายรัดเป็นแบบคู่
7. Polar H9
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ทางเลือกราคาประหยัดที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ชอบ Polar H10
รุ่น H9 เป็นรุ่นที่มาแทน H7 รุ่นเก่า และยังมีราคาถูกกว่ารุ่น H10 หากคุณต้องการอุปกรณ์สายรัดหน้าอกที่มีราคาถูกมากกว่าประมาณ 4,300 บาท
ความแตกต่างระหว่าง H9 และ H10ที่สำคัญนั้นมีอยู่ไม่กี่อย่าง ในรุ่นนี้ไม่มีสายรัด Pro อย่างรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้น แต่ยังใช้สายรัดจากรุ่น H7 ที่ไม่ได้ผลิตออกมาแล้ว ในการทดลองของเรา ความสะดวกสบายในการสวมใส่เป็นปัญหาที่สำคัญ เราอยากให้สายรัดมีความกระชับในการสวมใส่มากกว่านี้เล็กน้อย
รุ่นนี้ไม่มีความสามารถในการจัดเก็บการออกกำลังกาย หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธสองเครื่องในเวลาเดียวกัน หากคุณสามารถใช้งานได้โดยปราศจากคุณสมบัติเหล่านี้ คุณก็ยังมีนาฬิกาวัดชีพจรที่ให้ผลลัพธ์สำคัญได้
การใช้ระบบ ECG ติดตามหัวใจแบบเดียวกัน ทำให้ได้ความแม่นยำที่ดีที่สุด ในเครื่องยังรองรับ ANT + การเชื่อมต่อบลูทูธ และทำงานร่วมกับโฮสต์ของแอปภายนอก สามารถเชื่อมต่อได้กับนาฬิกา Garmin, Polar และ Suunto ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังมีการกันน้ำระดับ 30 เมตร เหมาะสำหรับการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจในการว่ายน้ำ
หากคุณให้ความสำคัญกับการฝึกตามอัตราการเต้นของหัวใจ แอป Beat ที่เป็นคู่หูของ Polar นั้นเป็นแอปที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับการใช้งานนี้ ช่วยให้คุณสามารถกำหนดหน่วยวัดและข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญได้ ซึ่งเราใช้มันเพื่อการวิ่งหลายครั้ง (ทั้งในร่มและกลางแจ้ง) ถือเป็นวิธีที่แม่นยำและน่าเชื่อถือที่สุดในการรับข้อมูลที่คุณไว้วางใจได้เช่นเดียวกับในรุ่น H10
8. Garmin Forerunner 945
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
นาฬิกาวัดชีพจรสำหรับการเล่นกีฬาที่ดีที่สุด
ประเภทเซ็นเซอร์วัดชีพจร: Optical | อายุแบตเตอรี่: 36 ชั่วโมง (เมื่อใช้ GPS) 14 วัน (เมื่อใช้เป็น smartwatch) | น้ำหนัก: 50 กรัม
หากคุณเป็นเทรนเนอร์ตัวยงที่มองหาเครื่องวัดการเต้นของหัวใจ Garmin Forerunner 945 (ราคาประมาณ 25,000 บาท) รุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นที่คุณต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ
นาฬิกาที่เน้นการใช้งานสำหรับไตรกีฬา ได้ใช้อัลกอริธึม Elevate ของ Garmin ซึ่งเป็นนาฬิกาวัดชีพจรบนข้อมือที่แม่นยำที่สุดในการทดสอบของเรา แม้ว่าอุปกรณ์ไม่สามารถรายงานความผันผวนของอัตราการเต้นของหัวใจได้มากนัก และไม่ได้เร็วเท่ากับสายรัด แต่โดยทั่วไปแล้วมีข้อมูลตรงกันในระดับที่ดีมาก
Forerunner ช่วยให้คุณฝึกในโซนอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างง่ายดาย ระบบติดตามการเต้นของหัวใจในรุ่นนี้เป็นมากกว่าข้อมูลจังหวะการเต้นต่อนาที ส่งข้อมูลผ่านการแจ้งเตือน ตลอดจนการถ่ายทอดข้อมูลนั้นไปยังอุปกรณ์อื่นโดยใช้ ANT+ สามารถใช้สำหรับการว่ายน้ำ เนื่องจากการออกแบบให้สามารถกันน้ำได้ เชื่อมต่อกับสายรัดหน้าอก Garmin เพื่อรับข้อมูลแสดงตัวเลขอัตราการเต้นของหัวใจที่เชื่อถือได้จากการใช้งานระหว่างที่คุณอยู่ใต้น้ำ
นอกการฝึกของคุณแล้ว ข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวใจจะถูกใช้สำหรับการวัดอื่น ๆ ด้วย ระบบ Garmin’s Training Effect (ใช้เพื่อแนะนำคุณว่าควรฝึกและพักผ่อนเมื่อใด) ค่าความแปรปรวนของอัตราการเต้นหัวใจ ค่า VO2 Max และค่าประมาณอื่น ๆ จะขึ้นอยู่กับเซ็นเซอร์ออปติคัลในอุปกรณ์ ช่วยให้คุณพัฒนาภาพรวมที่ชัดเจนกว่าที่คุณได้รับจากสายรัดเพียงอย่างเดียว
คุณสมบัติที่เหลือในเครื่องนี้ รวมถึงการเล่นแบบออฟไลน์สำหรับ Spotify, การติดตามด้วย GPS, การตรวจสอบการนอนหลับ, ระบบชำระเงิน Garmin Pay และความสามารถในการติดตามการออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ หลายรายการ
โดยปกติแล้ว ฟังก์ชันการใช้งานจำนวนมาก มักจะมาพร้อมกับราคาที่สูง แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อยเพื่อความแม่นยำ
ข้อดี: แม่นยำยอดเยี่ยมด้วยเซ็นเซอร์ Optical, คุณสมบัติใช้งานมากมาย, อายุแบตเตอรี่ยาวนาน
ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างแพง
9. Apple Watch Series 6
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดสำหรับตรจสอบสุขภาพของหัวใจ
ประเภทเซ็นเซอร์วัดชีพจร: Optical และ ECG | อายุแบตเตอรี่: 18 ชั่วโมง | น้ำหนัก: 47 กรัม (40 มิลลิเมตร)
คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Apple Watch Series 6 (ราคาประมาณ 16,400 บาท) อาจเป็นเซ็นเซอร์ออกซิเจนในเลือดตัวใหม่ แต่ความสามารถในการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อจุดประสงค์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย ก็ยังคงเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่น่าประทับใจที่สุด สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้อาจเป็นอุปกรณ์เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจบนข้อมือที่ดีที่สุด ที่เราได้ทดสอบแล้วว่าสามารถทำเช่นนั้นได้
ซีรีส์ 6 สามารถจัดการกับอัตราการเต้นของหัวใจที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันได้ดีกว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งอย่างต่อเนื่องและหนักขึ้น การปั่นจักรยานรอบในร่ม และการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่มีความเข้มข้นสูง ทำให้การออกกำลังกายในบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเปิดตัวระดับการวัดคาร์ดิโอฟิตเนสแบบใหม่ ซึ่งนำข้อมูลมาจากคะแนน VO2 Max ตามอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อประเมินระดับความฟิตในปัจจุบันของคุณได้ดีขึ้น
นอกจากการออกกำลังกายแล้ว นาฬิกาเรือนนี้ได้รับการตั้งค่าให้จับตาดูหัวใจของคุณอย่างใกล้ชิด เพื่อจุดประสงค์ด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน คุณยังคงมีเซ็นเซอร์ ECG ซึ่งได้รับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับที่เหมาะสม ช่วยในการตรวจหาสัญญาณของปัญหาสุขภาพหัวใจที่ร้ายแรง หากคุณรู้สึกว่าแพลตฟอร์ม Apple’s Health ให้บริการไม่ดี คุณยังมีแอปมากมายในอุปกรณ์ที่ใช้ได้ เพื่อให้เข้าใจข้อมูลสุขภาพนี้ได้ดียิ่งขึ้น และถ้าหากคุณยังไม่วางใจให้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ของ Apple ทำงานบนอุปกรณ์ คุณก็ยังสามารถเชื่อมต่อหน้าจอภาพจากสายรัดหน้าอกกับแอปที่เข้ากันได้
คุณสมบัติอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ การรองรับการแจ้งเตือนที่ยอดเยี่ยม จอแสดงผลคุณภาพดี และรูปแบบสายรัดที่มีสไตล์มากมาย แม้ว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังไม่ยาวนานเท่าที่ควร แต่ทักษะการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจที่น่าประทับใจเพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่โดดเด่นสำหรับการติดตามหัวใจของคุณ
ข้อดี: พัฒนาความแม่นยำของการวัดอัตราการเต้นของหัวใจมากขึ้น, รองรับแอปสำหรับสุขภาพ, ตรวจภาพด้วยคุณภาพระดับทางการแพทย์
ข้อเสีย: ใช้แบตเตอรี่ได้นาน 18 ชั่วโมง, สำหรับผู้ใช้ iPhone
10. Polar Verity Sense
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกายในยิม
ประเภทเซ็นเซอร์วัดชีพจร: Optical | อายุแบตเตอรี่: มากถึง 20 ชั่วโมง | น้ำหนัก: 12 กรัม (40 มิลลิเมตร)
Verity Sense (ราคาประมาณ 3,400 บาท) เป็นนาฬิกาวัดชีพจรรุ่นที่สองของ Polar ใช้ด้วยการสวมแขนให้สูงขึ้นหรือหนีบเข้ากับแว่นตา มอบการสวมใส่ที่สะดวกสบายและบันทึกข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น
โดยพื้นฐานแล้วอุปกรณ์มีการใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และการออกแบบเดียวกับที่ใช้กับจอภาพ OH1 จากนั้นจึงนำเข้ามารวมเข้ากับสายรัดคุณภาพสูงและแท่นวาง เพื่อให้แน่ใจว่าเซ็นเซอร์จะไม่พลิกกลับในขณะที่คุณเริ่มออกกำลังกาย มีการสลับโหมดต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้นรวมกว่าสามโหมด ทำให้คุณมีตัวเลือกในการส่งข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจไปยังอุปกรณ์อื่น เช่น นาฬิกา ที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวมากกว่า 600 ชั่วโมงหรือเปลี่ยนเป็นโหมดว่ายน้ำ
สายรัดสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ เหมาะสำหรับเวลาที่มีเหงื่อออกและมีแท่นรองเซ็นเซอร์ มีการเพิ่มเสาอากาศบลูทูธ ทำให้พอดีกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และอุปกรณ์การออกกำลังกาย มีการเชื่อมต่อ ANT + และบลูทูธ ให้คุณจับคู่กับอุปกรณ์บลูทูธได้ทั้งสองเครื่องในเวลาเดียวกัน
สำหรับการวิ่งกลางแจ้ง การพายเรือในร่ม และการทดสอบการออกกำลังกายที่บ้าน อุปกรณ์รุ่นนี้ยึดติดได้ดีกับสายรัดหน้าอกมากกว่า Garmin HRM Pro มีความแม่นยำที่เหนือกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึกที่มีความเข้มข้นสูง การสวมขณะใส่เสื้อแขนยาวอาจเป็นเรื่องที่น่ารำคาญเล็กน้อย แต่ก็ยังเหมาะสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้งหากคุณรู้สึกว่าสายรัดอกไม่สบายตัว
ไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์นี้เพื่อส่งข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจไปยังอุปกรณ์อื่น หรือจะใช้งานด้วยตัวเอง Verity Sense ก็เป็นทางเลือกที่มั่นคงและมี OH1 มากพอที่จะทำให้เป็นปลอกแขน Polar HR ที่คุ้มค่าได้
ข้อดี: สายรัดสวมใส่สบาย, ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจแม่นยำ, มีหน่วยความจำในตัวมาก
ข้อเสีย: ดูสถานะแบตเตอรี่ได้ยาก, ปรับใช้ยาก
11. Polar Vantage V2
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
นาฬิกากีฬาที่ตรวจสอบข้อมูลหัวใจเพื่อข้อมูลเชิงลึกสำหรับการเทรนกีฬา
ประเภทเซ็นเซอร์วัดชีพจร: Optical | อายุแบตเตอรี่: มากถึง 40 ชั่วโมง | น้ำหนัก: 52 กรัม (40 มิลลิเมตร)
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Polar อยู่ที่การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ความแม่นยำที่ส่งผ่านจากหน้าอกลงไปที่ข้อมือ
Vantage V2 (ราคาประมาณ 19,000 บาท) คือรุ่นต่อจาก Vantage เป็นนาฬิกาสปอร์ตระดับยอดเยี่ยมจากประเทศฟินแลนด์ ที่สร้างขึ้นสำหรับนักกีฬาที่ต้องการใช้ฝึกอบรมและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยประสิทธิภาพ คุณสมบัติ เช่น เครื่องมือ Training Load และ Recovery Pro และการทดสอบประสิทธิภาพการวิ่งและการออกกำลังกาย จะถูกขับเคลื่อนโดยข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลในการติดตามการนอนหลับอย่างละเอียด ซึ่งถือเป็นคู่แข่งกับ Fitbit สำหรับข้อมูลเชิงลึกและความแม่นยำ
การติดตามการนอนหลับในรุ่นนี้ อาศัยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Precision Prime ที่ใช้การรวมกันของเซ็นเซอร์ที่ใช้แสง ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่องและระหว่างการออกกำลังกายด้วยระดับความน่าเชื่อถือที่ดีมาก พร้อมการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาต่าง ๆ ลดลง เช่น การเคลื่อนไหวของข้อมือ เพื่อปรับปรุงความแม่นยำให้ดีขึ้น อุปกรณ์นี้ไม่ใช่รุ่นที่สมบูรณ์แบบ และมีช่วงเวลาที่อัตราการเต้นของหัวใจอาจพุ่งสูงขึ้นเป็นระยะ แต่ก็ยังเป็นนาฬิกากีฬาที่ดีกว่าหลายรุ่น
คุณสมบัติบางอย่างใน Vantage V2 ยังคงต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อจอภาพสายรัดหน้าอกของ Polar อย่างมาก และคุณจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมดังกล่าวเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ ภายในยังมีเครื่องมือฝึกอบรมมากมายที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ในตัว เหมาะสมกับการทำงาน เช่น การตรวจสอบการนอนหลับขั้นสูง และการตรวจสอบสุขภาพอย่างต่อเนื่องในระหว่างวัน
ปัญหาสำคัญในการออกแบบจาก Vantage V ดั้งเดิมนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว และยังมีสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นโหมดการเติมน้ำมันอัจฉริยะของ Vantage V2 สำหรับนักกีฬาที่ต้องการความอึดในการฝึก หรือจะเป็นคู่มือการฝึกอบรมส่วนบุคคลของ FitSpark ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทุกคน นาฬิกา Vantage ของ Polar จึง กลายเป็นนาฬิกากีฬาที่ชาญฉลาดที่สุดที่คุณเลือกสวมใส่ได้
ข้อดี: น้ำหนักเบา, ดีไซน์จากไททาเนียม, มีเครื่องมือวิเคราะห์มาก, ระบบติดตามการนอนหลับที่แม่นยำ
ข้อเสีย: คุณสมบัติบางอย่างต้องเชื่อมกับหน้าจอสายรัดหน้าอก, แอปค่อนข้างเยอะ, หน้าจอสัมผัสไม่โดดเด่นมาก
12. Polar Ignite
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
รุ่นที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกซ้อมพร้อมคำแนะนำ
การออกแบบที่เพรียวบางของ Ignite ช่วยให้คุณสวมใส่อุปกรณ์พอดีกับข้อมือของคุณได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้มีการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำ แม้ในระหว่างกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวมาก สิ่งที่ Polar ทำกับข้อมูลที่ได้รับนั้น ทำให้ Ignite เป็นอุปกรณ์อีกรุ่นที่โดดเด่น
การทำงานของอุปกรณ์นี้เริ่มต้นด้วยแผนการฝึกกิจกรรมวิ่งที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์และแอป Polar Flow ซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงความแข็งแรงและความเร็วของร่างกายคุณ มีการออกกำลังกายตามอัตราการเต้นของหัวใจที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เพื่อให้คุณสามารถทำตามได้
ในช่วงเวลากลางคืน คือช่วงที่ Ignite สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณสามารถใช้นาฬิกาวัดชีพจรรุ่นนี้เพื่อติดตามอัตราและความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจได้ ข้อมูลนี้เป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ว่าร่างกายของคุณมีความเครียดมากน้อยเพียงใด หรือบันทึกว่าคุณฟื้นตัวได้ดีเพียงใดในระหว่างการนอนหลับ ในเช้าวันรุ่งขึ้นคุณจะได้รับคะแนนว่าคุณภาพการนอนหลับดีแค่ไหน และระบบประสาทอัตโนมัติของคุณฟื้นตัวได้ดีเพียงใด ทั้งหมดนี้นำไปสู่คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายตามความพร้อมที่แท้จริงของคุณในการฝึกในวันนั้น
นอกเหนือจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้ว Ignite ยังเป็นนาฬิกากีฬาที่มีความทนทาน และหนึ่งในนาฬิกาที่ดีที่สุดในราคาต่ำกว่า 8,600 บาท หากคุณต้องการทราบข้อมูลเชิงลึกว่าคุณสามารถใช้ข้อมูลจากอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อกำหนดรูปแบบการฝึกได้อย่างไรบ้าง รุ่นนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย
วิธีเลือกซื้อนาฬิกาวัดชีพจร
- การแสดงผลแบบ ECG หรือ LED
สายรัดหน้าอกอัตราการเต้นของหัวใจแบบคลาสสิกใช้เซ็นเซอร์กดลงบนผิวหนังของคุณเพื่อวัดแรงกระตุ้นทางไฟฟ้าที่ควบคุมการหดตัวและการขยายตัวของกล้ามเนื้อในหัวใจ (ECG) ส่วนเซ็นเซอร์ออปติคัลจะส่องแสงผ่านผิวหนังของคุณ (LED) และวัดความแปรปรวนของการไหลเวียนของเลือด
สายรัดหน้าอกแบบ ECG แบบคลาสสิกยังคงมอบความแม่นยำสูงสุด แม้จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมาก
การใช้เซ็นเซอร์ออปติคัลในการตรวจวัด จำเป็นต้องให้อุปกรณ์สัมผัสกับผิวหนังของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการอ่านค่าที่ถูกต้อง แต่การกระแทก กระโดด หรือแม้แต่ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อจากการจับแฮนด์บาร์ของคุณ อาจทำให้การวัดผลของเซ็นเซอร์คลาดเคลื่อนได้ เซ็นเซอร์ออปติคัลจะมาพร้อมกับคำแนะนำในการสวมใส่ที่แม่นยำ ในขณะที่คุณสัมผัสตัวเครื่อง อาจมีการสั่นอย่างต่อเนื่องบนแขนของคุณขณะที่ใช้บนเส้นทางขรุขระ และมีผิวหนังที่ชุ่มไปด้วยครีมกันแดด อุปกรณ์จึงอาจจะเลื่อนไหล ทำให้ความแม่นยำน้อยลงได้
จากประสบการณ์ของเรา สายรัดหน้าอกเป็นอุปกรณ์ที่ให้ความแม่นยำแบบจุดต่อจุดได้ดีกว่ามาก อย่างไรก็ตาม เซ็นเซอร์ออปติคัลยังค่อนข้างดีในการกำหนดแนวโน้มของอัตราการเต้นของหัวใจ
สมาร์ทวอทช์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มีเซ็นเซอร์ออปติคัลในตัว และบางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สวมศีรษะเพื่อใช้เป็นเซ็นเซอร์ได้อีกด้วย คุณสามารถดูได้จากบทความสรุปสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดสำหรับการขี่จักรยานของเรา
- การเชื่อมต่อ
เซ็นเซอร์จังหวะ และนาฬิกาวัดชีพจรสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มี ANT + หรือบลูทูธได้ เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์ความเร็ว ตัวเลือกส่วนใหญ่ในขณะนี้สามารถทำได้ทั้งสองอย่าง รุ่นที่เหมาะกับคุณจึงขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่คุณต้องการจะเชื่อมต่อ
ระบบรองรับ GPS ส่วนใหญ่จะรองรับ ANT + หรือบลูทูธ ได้ด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่เชื่อมต่อได้ทั้งสองแบบ หากคุณต้องการประหยัดเงินบางส่วน ให้เลือกสายรัดวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่เชื่อมต่อเพียงแบบเดียว (และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นรุ่นถูกต้อง)
หากคุณต้องการใช้อุปกรณ์ติดตามขณะขี่จักรยานกลางแจ้ง และใช้ประโยชน์จากแอปสำหรับฝึกกี่ฬา เช่น Zwift, TrainerRoad หรือ The Sufferfest บนเทรนเนอร์เทอร์โบ ให้พิจารณาเซ็นเซอร์สายคู่ ด้วยนาฬิกาวัดชีพจรแบบนี้ คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ตที่เปิดใช้งาน ANT + ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับ ANT + หรือเซ็นเซอร์ตัวที่สอง
ข้อควรพิจารณาอีกประการหนึ่งคืออุปกรณ์บลูทูธบางตัวสามารถใช้สื่อสารกับอุปกรณ์อื่นได้ครั้งละหนึ่งเครื่องเท่านั้น บางเครื่องมีการเชื่อมต่อบลูทูธพร้อมกันหลายเครื่อง แต่ ANT + สามารถออกอากาศได้ไม่จำกัดจำนวน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้ Zwift แต่บันทึกการขับขี่บนอุปกรณ์หรือนาฬิกา การเชื่อมต่อเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง
- ข้อควรพิจารณาอื่น ๆ
ถ้าคุณเป็นนักไตรกีฬาที่ต้องการรวมการวิ่งหรือการว่ายน้ำเข้ากับการฝึกของคุณ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจบางประเภทจะมีตัวชี้วัดสำหรับการวิ่ง เช่น การสั่นในแนวตั้งและจังหวะ ในขณะที่เซ็นเซอร์ประเภทอื่น ๆ กันน้ำได้ หรือสามารถสวมใส่ในสระว่ายน้ำได้ แต่จะบันทึกข้อมูลเพียงบางส่วนเท่านั้น
หากคุณกำลังมองหาสายรัด ก็จะต้องมีการบำรุงรักษาเล็กน้อย โดยปกติเซ็นเซอร์จะหนีบติดเข้ากับสายรัดด้วยสายโลหะคู่หนึ่ง ซึ่งจะต้องสัมผัสกับเหงื่อค่อนข้างมากตลอดอายุการใช้งาน บางครั้งอาจจะเจอกับการกัดกร่อน คุณสามารถยืดอายุการใช้งานของสายรัดวัดอัตราการเต้นหัวใจของคุณได้ด้วยการทำความสะอาดเป็นประจำ (บางรุ่นสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ ในขณะที่รุ่นอื่นจะต้องดูคำแนะนำจากป้าย) การใช้จาระบีเล็กน้อยก็ช่วยได้ หากคุณเป็นที่เหงื่อออกมาก
สายรัดบางเส้นจะคงความยาวสายที่คุณเลือกได้ตลอดการใช้งาน ในขณะที่บางเส้นมีแนวโน้มที่จะหลวมมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป สำหรับเรา ถือว่าสายรัดของ Garmin เป็นสายที่ดีที่สุดในจุดนี้และยังสามารถปรับได้ง่ายเมื่อจำเป็น สายรัดของ Wahoo ก็สามารถยึดได้อย่างแน่นหนาเช่นกัน ในการปรับความยาวเริ่มต้นคุณอาจต้องใช้เคล็ดลับเล็กน้อย