รองเท้าวิ่ง ได้กลายมาเป็นหนึ่งในไอเทมที่หลาย ๆ คนต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รักสุขภาพและชื่นชอบการวิ่งออกกำลังกาย รองเท้าวิ่งเป็นสิ่งที่ช่วยห่อหุ้มเท้าและรองรับน้ำหนักขณะเคลื่อนไหวออกวิ่ง รองเท้าวิ่งที่ดีจะต้องช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันอาการบาดเจ็บต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะวิ่ง แต่เมื่อลองได้ดูตัวเลือกรองเท้าวิ่งในท้องตลาดที่แข่งขันกันด้วยการตลาดดึงดูดความสนใจผู้บริโภค เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารองเท้าวิ่งคู่ไหนดี และหนึ่งในสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อรองเท้าวิ่ง คือ น้ำหนักรองเท้าวิ่งนั่นเอง
น้ำหนักรองเท้าวิ่ง เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อ รองเท้าวิ่งที่ดีควรมีน้ำหนักเบา มีความกระชับ รองรับกับข้อเท้าและรูปเท้าได้ดี นอกจากนี้ น้ำหนักของรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมจะช่วยซัพพอร์ตทุกการวิ่งและการเคลื่อนไหวให้สบายและเป็นธรรมชาติ รองรับกับสรีระร่างกายได้มากที่สุด
ประเภทของรองเท้าวิ่ง
ก่อนที่จะรู้ว่าน้ำหนักรองเท้าวิ่งไม่ว่าจะเป็นชองผู้ชายหรือ รองเท้าวิ่งผู้หญิง ต้องหนักเท่าไหร่ถึงจะพอดี เราต้องมาทำความรู้จักกับประเภทของรองเท้าวิ่งกันก่อน โดยรองเท้าวิ่งนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ (ซึ่งในประเภทหลักนี้ยังแบ่งออกแยกย่อยได้เป็น 5 ประเภทย่อย) โดยประเภทของรองเท้าวิ่งหลัก ๆ มีดังนี้
1. รองเท้าวิ่งถนน (Road running shoes)
รองเท้าวิ่งถนนนั้นสามารถแบ่งแยกย่อยออกเป็น 3 ประเภท คือ รองเท้าวิ่งทุกวัน รองเท้าวิ่งสำหรับซ้อม และรองเท้าวิ่งสำหรับแข่ง โดยน้ำหนักรองเท้าวิ่งของรองเท้าวิ่งแต่ละประเภท มีดังนี้
- รองเท้าวิ่งทุกวัน ควรมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ข้างละประมาณ 280 กรัม เป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับใส่สิ่งออกกำลังกายในทุก ๆ วัน รองเท้าจะมีความนุ่มปานกลางไปจนถึงนุ่มมาก แต่ไม่แนะนำให้ใส่รองเท้าประเภทนี้ใส่วิ่งในระยะไกล
- รองเท้าวิ่งสำหรับซ้อม เป็นรองเท้าที่ควรมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณข้างละ 200-270 กรัม เหมาะสำหรับซ้อมวิ่งเพื่อทำความเร็ว เพราะรองเท้าทีความนุ่มสูง
- รองเท้าวิ่งสำหรับแข่ง จะมีน้ำหนักที่ข้างละประมาณ 150-230 กรัม รองเท้ามักถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้ดี อีกทั้งยังสามารถเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม มีทั้งแบบพื้นบางที่เหมาะกับระยะทางวิ่ง 5-10 กิโลเมตร และแบบพื้นหนาที่เหมาะกับระยะทางวิ่ 21-42 กิโลเมตร
2. รองเท้าวิ่งเทรล หรือรองเท้าเดินป่า (Trail shoes)
เป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักอยู่ที่ข้างละประมาณ 250-400 กรัม เป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สวมใส่สำหรับวิ่งบนพื้นที่มีความขรุขระ มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบพื้นบางที่เหมาะสำหรับการวิ่งในทางทุรกันดาร หรือแบบทรงคล้ายบูทที่มีความหนาที่เหมาะกับการเดินบนป่าบนเขาและช่วยปกป้องเท้าได้เป็นอย่างดี
3. รองเท้าตะปู (Spikes shoes)
รองเท้าตะปูหรือรองเท้า spikes เป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเฉลี่ยข้างละไม่เกิน 150 กรัม ถือว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบามากที่สุดในบรรดารองเท้าวิ่งทุก ๆ ประเภท ที่บริเวณหน้าเท้าจะมีเหล็กแหลม ๆ เพื่อใช้ในการยึดเกาะพื้นผิวขณะวิ่ง เป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวิ่งทำความเร็วในระยะทางสั้น ๆ
วิธีการเลือกรองเท้าวิ่งเบื้องต้น
สำหรับมือใหม่ผู้ชื่นชอบการวิ่ง การเลือกรองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่นั้นอาจจะดูเป็นอะไรที่ท้าทายเป็นอย่างมากในยุคนี้ เพราะในท้องตลาดมีตัวเลือกมากมายจนไม่สามารถเลือกได้ถูก การพิจารณาจากน้ำหนักรองเท้าวิ่งก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้สามารถได้รองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ได้
รองเท้าวิ่งต่างประเภทกัน มักจะมีน้ำหนักที่แตกต่างกันออกไปตามแต่จุดประสงค์การใช้ โดยรองเท้าประเภทต่าง ๆ ควรมีน้ำหนักดังต่อไปนี้
- รองเท้าวิ่งถนน ควรมีน้ำหนักอยู่ที่ 150-280 กรัมต่อข้าง
- รองเท้าวิ่งเทรล หรือรองเท้าเดินป่า ควรมีน้ำหนักอยู่ที่ 250-400 กรัมต่อข้าง
- รองเท้าตะปู ควรมีน้ำหนักอยู่ที่ 150 กรัมต่อข้าง
รองเท้าวิ่งที่ดีควรมีน้ำหนักเบาและสามารถรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี การที่รองเท้าวิ่งมีน้ำหนักเบาจะช่วยให้สามารถลดความหน่วงขณะวิ่งและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหากต้องเพิ่มความเร็ว แต่ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยเรื่องน้ำหนักที่ควรจะมีความเบาแล้ว ยังควรมีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี สามารถรองรับแรงกระแทกได้ และเหมาะสมกับรูปเท้าขณะสวมใส่
ทำไมรองเท้าวิ่งที่ดีควรมีน้ำหนักเบา
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่ารองเท้าวิ่งที่ดีควรมีน้ำหนักเบา ลองนึกภาพตามดูว่ารองเท้าที่เราใส่วิ่งนั้นมีความหนัก จะทำให้เราวิ่งได้ช้ามากแค่ไหนที่ต้องลากรองเท้าหนัก ๆ เหล่านั้นไปด้วยตลอดทาง แถมยังต้องใช้พลังงานที่ควรใช้ไปกับการวิ่งสูญเสียให้กับรองเท้าหนัก ๆ คู่นั้น
ความเป็นมาของน้ำหนักรองเท้าวิ่ง ยิ่งเบา ยิ่งดี จริงหรือ?
รองเท้าวิ่ง ควรมีน้ำหนักเบา จริง ๆ แล้วมันมีความเป็นมาว่าทำไมรองเท้าวิ่งไม่ควรมีน้ำหนักมากจนเกินไป แน่นอนว่างานนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยงานวิจัยอะไรมากนัก เพียงแค่ทดลองด้วยตัวเองง่าย ๆ ว่าหากเราลองวิ่งในรองเท้าที่มีน้ำหนัก เราจะวิ่งช้าลง และจะสูญเสียพลังงานไปกับงานยกรองเท้าหนัก ๆ ขณะวิ่งไปด้วย
และหากเมื่อย้อนกลับไปในปี 1980 มีงานการศึกษาเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยได้ข้อสรุปว่าทุก ๆ การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักรองเท้า 100 กรัม จะทำให้นักวิ่งต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นถึง 1% แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีการศึกษาวิจัยเชิงลึกที่จะมาสนับสนุนทฤษฎีแนวคิดนี้ได้อย่างชัดเจน และนี่เอง ถือว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ทีมวิจัยที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ Rodger Kram แห่งมหาวิทยาลัย Colorado Boulder ให้ความสนใจและทำการทดสอบ
ผลงานการวิจัยนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Medicine & Science in Sports & Exercise ของสหรัฐอเมริกาในปี 2016 ภายใต้ชื่อ Altered Running Economy Directly Translates to Altered Distance-Running Performance (การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการวิ่ง ส่งผลโดยตรงต่อการวิ่งระยะไกล)
หลักฐานยืนยันว่าน้ำหนักรองเท้าวิ่ง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการวิ่ง
ภาคต่อจากความสนใจในการศึกษาวิจัยนี้ ทำให้ได้ผลวิจัยออกมาว่า “เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น 100 กรัม จะทำให้นักวิ่งสูญเสีบประสิทธิภาพในการวิ่งลงถึง 1.11% อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการวิ่งเพิ่มขึ้นถึง 0.78%”
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ด้วย นั่นก็คือคำถามที่ว่า “การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักรองเท้าวิ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการวิ่งด้วยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความเร็วที่นักวิ่งใช้วิ่งด้วย?” คำตอบคือ “ใช่ ความเร็วที่ใช้ก็มีผลต่อการศึกษาวิจัยด้วย” แต่คำถามนี้ได้รับคำตอบจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า “น้ำหนักรองเท้าวิ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการวิ่งน้อยลงเมื่อมีความเร็วเพิ่มขึ้น” ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือ นักวิ่งที่วิ่งช้าจะได้รับผลกระทบจากน้ำหนักของรองเท้าวิ่งมากกว่านั่นเอง
เหตุผลที่รองเท้าวิ่งควรมีน้ำหนักเบา
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ รองเท้าวิ่ง ยิ่งมีน้ำหนักเบา ยิ่งดีต่อการวิ่งมากกว่า เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์โดยทั่ว ๆ ไป รองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบาจะมอบประสิทธิภาพการวิ่งที่ดีกว่าและให้ความรู้สึกเบาสบาย การแบกน้ำหนักของรองเท้าที่น้อยลงยังส่งผลให้มีการใช้พลังงานขณะเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ตลอดจนรูปแบบของชีวกลศาสตร์ในการเคลื่อนไหวขณะวิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งและประหยัดพลังงานในการก้าวเท้าขณะเคลื่อนไหว และข้อดีของรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบา คือ
- สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในรองเท้าขณะสวมใส่ได้ดี
- ระบายความชื้นได้ง่ายกว่า
- มีความยืดหยุ่น ทนทาน
- ไม่ค่อยสะสมกลิ่นอับมากเท่ารองเท้าที่มีน้ำหนักมาก
น้ำหนักรองเท้าวิ่ง ขึ้นอยู่กับอะไร
น้ำหนักของรองเท้าวิ่งขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าทันสมัย ทำให้สามารถผลิตคิดค้นวัสดุที่ช่วยให้สามารถผลิตรองเท้าวิ่งได้ในน้ำหนักที่เบากว่ารองเท้าวิ่งในยุคก่อน ๆ มาก เพราะนอกจากจะมอบความเบาสบายขณะสวมใส่วิ่งแล้ว ยังมีความแข็งแรงทนทาน
วัสดุที่นิยมนำมาผลิตรองเท้าวิ่ง คือ โฟม EVA ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรองรับแรงขณะวิ่งและสามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีในแนวดิ่งมากกว่าวัสดุอื่น ๆ
เนื้อหารองเท้าวิ่งเพิ่มเติม:
รองเท้าวิ่งดีต่อเท้าคุณจริงหรือ
รองเท้าใส่เดินหรือรองเท้าวิ่ง ต่างกันอย่างไร