หน้าสารบัญ
การรักษาสิวนั้นมีวิธีการรักษาที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การรักษาสิวอย่างเหมาะสมกับสภาพผิวและประเภทของสิวนั้นจะช่วยให้สิวหายได้รวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้น
หากใครเคยลองใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่จำหน่ายตามร้านขายยาหรือร้านขายเครื่องสำอางมาสักพักแล้วแต่ยังไม่เห็นผล เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาหรือผลิตภัณฑ์รักษาสิว เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างตรงกับผิวและปัญหาอย่างตรงจุด การดูแลรักษาผิวจากปัญหาสิวโดยทั่ว ๆ ไปมักจะเป็นการดูแลเรื่องความสะอาด หมั่นล้างหน้าและเช็ดเครื่องสำอางออกอย่างหมดจดในทุก ๆ วันก่อนเข้านาน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงสิ่งสกปรกอุดตันในชั้นผิวหนัง นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวและรอยสิวที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้รอยสิวต่าง ๆ ดูจางลงได้
การรักษาสิวมีหลากหลายวิธี ดังนี้
- อ่านวิธีลบรอยสิวด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้
- ครีมแต้มสิว ยี่ห้อไหนดี อ่านหน้ารีวิวของเราที่นี่
การรักษาสิวด้วยการใช้ยาทาภายนอก
ผลิตภัณฑ์หรือยาทาสิวโดยทั่ว ๆ ไปมักจะมีสารต่อต้านการอักเสบ และสารอื่น ๆ ที่ช่วยรักษาสิว โดยสารต่าง ๆ ที่นิยมนำมาใช้เพื่อรักษาสิว มีดังนี้
- เรตินอยด์ หรือกรดวิตามินเอ เป็นยาที่มีกรดเรติโนอิกหรือเทรติโนอิน ใช้ได้ดีสำหรับสิวในระดับปานกลาง มักมาในรูปแบบครีม เจล หรือโลชั่น สารในกลุ่มนี้แนะนำให้ใช้ในตอนเย็น โดยเริ่มจากสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จากนั้นก็สามารถใช้ได้ทุกวันเมื่อผิวเริ่มคุ้นเคยกับตัวยาแล้ว สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการป้องกันการอุดตันของรูขุมขน แต่ขอเตือนว่าอย่าใช้เทรติโนอินพร้อมกับเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้ ข้อควรระวังคือสารเหล่านี้ทำให้ผิวแห้ง ไวต่อแดด จึงทำให้ผิวหมองคล้ำได้
- ยาปฏิชีวนะ มีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ลดรอยแดงและการอักเสบ ในช่วง 2-3 เดือนแรกของการรักษาสิว สามารถใช้ร่วมกับเรตินอยด์ได้ โดยใช้ยาปฏิชีวนะในตอนเช้าและเรตินอยด์ในตอนเย็น
- กรดอะเซลาอิกและกรดซาลิไซลิก กรดอะเซลาอิกเป็นกรดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ผลิตโดยยีสต์ มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ครีมหรือเจลทาสิวที่มีกรดอะเซลาอิก 20% มีประสิทธิภาพเท่ากับการรักษาสิวทั่วไปเมื่อใช้วันละ 2 ครั้ง กรดอะซีไลอิกเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์และขณะให้นมบุตร มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันรูขุมขนอุดตัน และสามารถใช้ได้ทั้งแบบล้างออกและแบบทาทิ้งไว้บนผิว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้จัดการการกับสิวที่มีการเปลี่ยนสีได้ แต่ก็มีผลข้างเคียงด้วยเช่นเดียวกัน ได้แก่ รอยแดงบนผิวหนังและอาจเกิดการระคายเคืองได้
- แดพโซนเจล 5% ทาบนผิวหนังวันละ 2 ครั้ง แนะนำสำหรับสิวอักเสบโดยเฉพาะ แต่อาจมีผลข้างเคียง ได้แก่ อาจเกิดอาการผิวแดงและแห้งกร้าน
การรักษาสิวด้วยการกินยา
นอกจากยาทาสิวแล้ว ก็มียากินที่สามารถช่วยรักษาสิวได้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยยากินที่นิยมนำมาใช้ในการรักษาสิว มีดังนี้
- ยาปฏิชีวนะ เหมาะสำหรับสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง ใรคุณสมบัติในการลดแบคทีเรียในร่างกาย ควรใช้ยาปฏิชีวนะในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อป้องกันการดื้อยา และควรใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ เช่น เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ เพื่อลดความเสี่ยงในการดื้อยาปฏิชีวนะ ผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาสิว คือ อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด
- ยาคุมกำเนิดแบบผสม ยาคุมกำเนิดแบบผสมได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสำหรับการรักษาสิวในสตรีที่ต้องการใช้ยาเพื่อคุมกำเนิดควบคู่กันไปด้วย หลังการใช้ยาอาจไม่เห็นผลลัพธ์ในทันที ดังนั้น การใช้ยารักษาสิวอื่น ๆ ร่วมกับการรักษาในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกอาจช่วยได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยาคุมกำเนิด คือ น้ำหนักเพิ่ม มีอาการเจ็บหน้าอก และคลื่นไส้ เป็นต้น
โทนเนอร์แต้มสิวยี่ห้อไหนดี ดูที่นี่ในหน้ารีวิวของเรา
การเข้าคอร์สรักษาสิวต่าง ๆ
สำหรับบางคน การรักษาสิวด้วยการทำเข้าคอร์สต่าง ๆ สามารถช่วยลดปัญหาสิวได้ โดยการเข้าคอร์สรักษาสิวสามารถใช้ทำเดี่ยว ๆ หรือทำร่วมกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ก็ได้
- การทำเลเซอร์ เป็นการบำบัดสิวด้วยแสงหลากหลายรูปแบบ สามารถใช้ได้ผลกับปัญหาสิวได้เป็นอย่างดี แต่ส่วนใหญ่จะต้องไปพบแพทย์ตามนัดหลายครั้ง การรักษาสิววิธีนี้จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสม รวมไปถึงแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์ และปริมาณรังสีอย่างแม่นยำ
- การลอกผิวหนัง วิธีการนี้เป็นวิธีการใช้สารเคมีซ้ำ ๆ กับผิว เช่น กรดซาลิไซลิก กรดไกลโคลิก หรือกรดเรติโนอิก การรักษาวิธีนี้เหมาะกับการใช้สำหรับการรักษาสิวที่ไม่รุนแรง แต่มักจำเป็นต้องมีการรักษาซ้ำเรื่อย ๆ
- การดูดสิว เป็นการใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อกำจัดสิวหัวขาวและสิวหัวดำ (comedos) หรือซีสต์ที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยยาเฉพาะที่ เทคนิคนี้จะช่วยลดสิวไเ้ แต่อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้เช่นกัน
- การฉีดสเตียรอยด์ เหมาะกับแผลเป็นรอยสิวก้อนกลม ๆ ซึ่งรอยสิวแบบนี้สามารถรักษาได้โดยการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไป ถือเป็นวิธีที่รวดเร็วและเจ็บตัวน้อย แต่มีผลข้างเคียง คือ ทำให้ผิวหนังบางและเปลี่ยนสีในบริเวณที่ทำการรักษา
- อยากทราบวิธีใช้ครีมแต้มสิว เรียนรู้ที่นี่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
แหล่งที่มา: mayoclinic, NHS