Fitbit Versa 3 (ราคาประมาณ 8,000 บาท) เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับกลางที่มีคุณสมบัติน่าสนใจมากมาย พร้อมการติดตามการออกกำลังกายขั้นสูง และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เชื่อถือได้
อุปกรณ์ในตระกูล Versa ของ Fitbit นั้นมีความน่าเชื่อถือมาก รุ่นที่สามของตระกูลอย่าง Fitbit Versa 3 จึงเป็นหนึ่งในสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุด จากการปรับปรุงซอฟต์แวร์ที่มีประโยชน์ และการปรับแต่งการออกแบบ กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Apple Watch SE และอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายที่มีความโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
การอัพเกรดที่โดดเด่นของ Fitbit Versa 3 คือ GPS ในตัว แม้ว่าคุณจะทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน Versa ก็ยังสามารถติดตามตำแหน่งของคุณได้ในระหว่างการออกกำลังกายกลางแจ้ง จอแสดงผลที่โค้งมนและใหญ่ขึ้นก็เป็นสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน สิ่งที่ผู้ใช้อาจจะไม่ค่อยชื่นชอบมากนัก คือราคาประมาณ 8,000 บาท ซึ่งแพงกว่า Fitbit Versa 2 ที่มีราคาประมาณ 6,000 บาท ทำให้รุ่นนี้ไม่ได้อยู่ในการจัดอันดับ smartwatch ราคาถูกที่ดีที่สุดของเรา
แต่คุณสมบัติพรีเมียมที่เพิ่มเข้ามานั้นดีจริงไหม? การตรวจสอบ Fitbit Versa 3 ในรีวิวนี้ จะเป็นคำตอบให้คุณว่าสมาร์ทวอทช์ระดับกลางของแบรนด์ที่เชี่ยวชาญในการผลิตอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายนั้นคุ้มค่ากับการลงทุนรึปล่า
Fitbit Versa 3 ราคา และการวางจำหน่าย
Fitbit Versa 3 มีราคา 8,000 บาท และมีจำหน่ายบน Fitbit.com และร้านค้าปลีกมากมาย
สีของรุ่น Versa 3 มีสามสีให้เลือก ได้แก่: สีดำอะลูมิเนียม สีชมพูทองอะลูมิเนียม และสีทองอะลูมิเนียม สายรัดของ Versa 3 ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้กับสายอื่นๆ มีทั้งสายแบบทอและแบบหนัง มีจำหน่ายที่ราคาประมาณ 1,000 บาท
- ดูนาฬิกา Garmin รุ่นที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปีนี้
รีวิว Fitbit Versa 3: การออกแบบและการแสดงผล
Fitbit Versa 3 มีรูปร่างเป็นวงกลมคล้ายกับรุ่น Versa สองรุ่นก่อนหน้านี้ แต่มีขอบที่นุ่มนวลกว่าเล็กน้อย และสลับปุ่มทางกายภาพจากรุ่น Fitbit Versa 2 ให้เป็นแบบสัมผัสทางด้านซ้าย ทีมงานของเราไม่เคยทดสอบ Fitbit ที่มีการออกแบบปุ่มเช่นนี้มาก่อน จึงต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าใช้งานได้ดีกว่าปุ่มของรุ่นเก่า
การใช้ Versa 3 ช่วยเพิ่มความสบายในชีวิตประจำวันด้วย เราชอบความรู้สึกที่สมาร์ตวอทช์วางชิดกับข้อมือ และมีความบางเช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ บางรุ่นที่เราได้ทดสอบในปีนี้ หากคุณชอบรูปลักษณ์และความรู้สึกของนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ การเลือกซื้อนาฬิกาสปอร์ตที่ดีที่สุดอาจจะเหมาะกับคุณมากกว่า
- นาฬิกาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ดีที่สุดที่แม่นยำจริงๆ
การเปลี่ยนแปลงการออกแบบที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างบนจอแสดงผลของ Versa 3 คือหน้าจอสัมผัสแบบสี ขนาด 336 x 336 พิกเซล ถือเป็นการปรับปรุงจาก 300 x 300 พิกเซลใน Versa 2 เพียงเล็กน้อย และเพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 1.58 นิ้ว ใหญ่กว่าหน้าจอ 1.39 นิ้วของ Versa 2 พร้อมกับโหมดเปิดการใช้งานตลอดเวลา เรายังประทับใจกับการวัดระดับการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้นมาในรุ่นนี้ด้วย
รีวิว Fitbit Versa 3: คุณสมบัติการติดตามกิจกรรม
รากฐานของ Fitbit คือคุณสมบัติการติดตามกิจกรรม จึงไม่แปลกใจเลยที่ Versa 3 จะเป็นอุปกรณ์คู่หูด้านสุขภาพที่มีความสามารถมากมาย แม้ว่าจะมีการทำงานหลายอย่างที่คุณคาดหวังจากผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตามการออกกำลังกาย เช่น การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจสอบออกซิเจนในเลือด (SpO2) การอ่านค่า VO2 max การติดตามการออกกำลังกาย การติดตามการนอนหลับ แต่ก็ยังขาดคุณสมบัติบางอย่างที่เราได้นำเสนอในรีวิว Fitbit Sense
Fitbit Sense ที่มีราคาประมาณ 10,000 บาท ถือเป็นอุปกรณ์ Fitbit ที่ดีที่สุด เนื่องจากมีการตรวจสอบ ECG ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) เพื่อตรวจสภาวะการทำงานของหัวใจห้องบน พร้อมกับเครื่องมือบริหารความเครียด เครื่องอ่านอุณหภูมิผิว และการแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงและต่ำ หากข้อมูลเหล่านี้สำคัญกับคุณในการดูแลสุขภาพ คุณอาจพบว่า Sense นั้นเป็นตัวเลือกคุ้มค่า แต่ถ้าคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติพื้นฐานยอดเยี่ยม รุ่น Versa 3 ก็มีความโดดเด่นในตัวเองเช่นกัน
- อ่านรีวิว Fitbit Charge 4 ฉบับเต็มของเรา
นอกจากนี้ Versa 3 ยังมีคุณสมบัติการออกกำลังกายที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เป็นคุณสมบัติที่เราชื่นชอบ นั่นคือ Active Zone Minutes คุณสมบัติ Active Zone Minutes มีการเปิดตัวครั้งแรกกับ Charge 4 ช่วยตรวจสอบเวลาที่คุณใช้ในการเผาผลาญไขมัน คาร์ดิโอ หรือโซนอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดขณะออกกำลังกาย เป้าหมายของคุณคือการได้รับ 150 Active Zone Minutes ในแต่ละสัปดาห์ ตามคำแนะนำขององค์กรอนามัยโลก (WHO) ดังนั้น การออกกำลังกายเป็นเวลา 30 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็สามารถเติมเต็มได้โดยไม่เหนื่อยมาก
ทีมงานของเราที่ทดสอบอุปกรณ์มักจะเลือกการออกกำลังกายภายในแอป Peloton และใช้จักรยานปั่น เพื่อออกกำลังกายในสภาพอากาศที่เย็นสบายกว่าและอยู่ภายใต้มาตรการความปลอดภัย หากต้องการคำแนะนำด้านฟิตเนส คุณสามารถสมัคร Fitbit Premium ได้ (300 บาท/เดือน หรือ 2,400 บาท/ปี) เป็นบริการฝึกสอนที่บ้าน ผสานรวมกับ Fitbit Versa 3 ของคุณได้อย่างลงตัว ระบบ Fitbit Premium เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการวัดการนอนหลับและสุขภาพขั้นสูง
เมื่อผู้ทดสอบของเราออกไปผจญภัยข้างนอก GPS ในตัวของ Fitbit Versa 3 ก็มีประโยชน์มากในการดูจังหวะและระยะทาง สำหรับการเดิน/จ็อกกิ้ง/วิ่ง ที่วัดค่าตามเวลาจริงที่ใช้ คุณสามารถทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้านได้เมื่อทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่รุ่น Versa รุ่นก่อน ๆ ไม่ได้มีการอำนวยความสะดวกแบบนี้ แม้ว่า GPS จะกินแบตเตอรี่ แต่ก็มีความจำเป็นสำหรับผู้ติดตามการออกกำลังกายที่ให้ความสำคัญกับความแม่นยำของข้อมูล ระยะทางที่บันทึกบน Versa 3 นั้นต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อเปรียบเทียบกับ Apple Watch แต่ก็มีความแตกต่างไม่มากนัก
รีวิว Fitbit Versa 3: การติดตามการนอนหลับ
เช่นเดียวกับการติดตามกิจกรรม Fitbit ยังมีชื่อเสียงจากเครื่องมือติดตามการนอนหลับในวงการอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายที่ดีที่สุด เมื่อสวม Versa 3 เข้านอน อุปกรณ์จะคอยดูเวลาที่คุณหลับในแต่ละคืน บวกกับระยะเวลาการนอนในแต่ละระดับ นอกจากนี้ยังตรวจสอบความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดขณะนอนหลับ ดังนั้นจะมีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของระดับ SpO2 ในร่างกายที่บ่งชี้ถึงปัญหาเรื่องการหายใจ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นต้น
จากข้อมูลที่ได้นี้ Fitbit จะให้คะแนนการนอนหลับรายวันในระหว่าง 0-100 ในตอนเช้าคะแนนของผู้ทดสอบมักจะตกลงมาในระดับประมาณ 80 กว่า ๆ ส่วนคืนที่นอนกระสับกระส่ายมาก และมีเวลานอนประมาณไม่ถึงสองชั่วโมง จะมีคะแนนเพียง 40 คะแนนเท่านั้น
รีวิว Fitbit Versa 3: คุณสมบัติสมาร์ทวอทช์
ในฐานะสมาร์ตวอทช์ ถือว่า Versa 3 เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถ แต่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร นอกจาก Alexa แล้ว Versa 3 ยังรองรับ Google Assistant ด้วย ทำให้เป็นสมาร์ทวอทช์ตัวแรกที่สามารถเข้าถึงผู้ช่วยเสมือนทั้งสองได้ แต่มีข้อแม้คือคุณจะใช้งานได้ทีละอย่างเท่านั้น ผู้ทดสอบของเราลองใช้ทั้งสองอย่างในการทดสอบอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ดีที่สุดในแต่ละวัน ดังนั้นจึงถือว่าสามารถควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
ลำโพงและไมโครโฟนในตัวของ Fitbit Versa 3 มีความสามารถในการรับสายโทรศัพท์โดยตรงจากข้อมือของคุณ แต่จำกัดเฉพาะผู้ใช้ที่ใช้โทรศัพท์ Android เท่านั้น ทีมงานของเราที่ใช้ iPhone 12 Pro Max จึงไม่ได้ทดสอบคุณสมบัตินี้
เราชอบการเข้าถึงระบบชำระเงิน Fitbit Pay รวมถึงความพร้อมใช้งานของแอปภายนอกอย่าง Starbucks, Yelp, Walgreens, The New York Times และอื่นๆ ห้องสมุดแอปของ Fitbit มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังต้องปรับปรุงอีกมากเมื่อเทียบกับ watchOS App store ของ Apple
Versa 3 นั้นยังทำงานได้ค่อนข้างล่าช้าเมื่อเทียบกับ Apple Watch SE เราลองอ่านรีวิวออนไลน์เพื่อดูว่าผู้ทดสอบและผู้ใช้คนอื่น ๆ รู้สึกว่าเปิดแอปได้ช้าและสลับการใช้งานช้าแบบที่เรารู้สึกหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่ามีอีกหลายคนที่คิดแบบเดียวกัน และอยากให้ Versa 3 ปรับปรุงการตอบสนองให้ดีขึ้น แม้ว่าความล่าช้านี้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าคุณคุ้นเคยกับการทำงานที่รวดเร็วของสมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นแล้ว การใช้ Versa 3 อาจทำให้คุณผิดหวังได้
รีวิว Fitbit Versa 3: อายุการใช้งานแบตเตอรี่
Fitbit ให้ข้อมูลว่า Versa 3 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 6 วัน ซึ่งถือว่าดีขึ้นกว่า Versa 2 ที่ใช้ได้ประมาณ 4 – 5 วัน แน่นอนว่าการเปิดใช้งานการแสดงผลตลอดเวลาของ Versa และการใช้ GPS จะทำให้แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม Versa 2 ควรใช้ได้นานประมาณ 12 ชั่วโมงร่วมกับการติดตามตำแหน่งของผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระดับกลางอย่าง Apple Watch SE และสมาร์ทวอทช์ระดับบนอย่าง Apple Watch Series 6 และ Samsung Galaxy Watch 3
เราสามารถใช้ Versa 3 ได้นานเกือบ 7 วัน โดยมีการชาร์จแบตเตอรี่เมื่อมีพลังงานเหลือไม่ถึง 20% หลังจากใช้งานเป็นระยะเวลา 5-6 วัน แต่ส่วนที่ดีที่สุดของแบตเตอรี่ในอุปกรณ์นี้ คือคุณสามารถชาร์จกลับมาถึง 100% ด้วยการชาร์จอย่างรวดเร็วของ Fitbit ผ่านที่ชาร์จแม่เหล็กได้ในเวลาเพียง 60 นาที
รีวิว Fitbit Versa 3: บทสรุป
แม้เราจะอ้างได้ว่า Fitbit Sense ที่มีความสามารถด้านการดูแลสุขภาพอย่างยอดเยี่ยมนั้นคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 3,000 กว่าบาท แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็จะพบว่า Versa 3 มีทุกสิ่งที่คุณต้องการจากสมาร์ทวอทช์ที่เน้นการออกกำลังกายอยู่แล้ว ถ้าคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนจาก Versa 2 เป็นรุ่นนี้ดีไหม เรามองว่าไม่จำเป็นขนาดนั้น แต่การเพิ่ม Active Zone Minutes, จอแสดงผลที่มีความละเอียดสูง, การออกแบบที่โฉบเฉี่ยว, การชาร์จที่รวดเร็ว และการมี GPS ในตัว ก็ทำให้ Versa 3 มีวิวัฒนาการของอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม
ถ้าเปรียบเทียบการใช้งานของรุ่นนี้กับ Apple Watch SE ว่ารุ่นไหนดีกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้สมาร์ทวอทช์ของคุณ”ชาญฉลาด”มากแค่ไหน ในขณะที่ Versa 3 มีข้อได้เปรียบในแง่ของการติดตามกิจกรรม แต่ก็มีแอปให้เลือกน้อยกว่า ไม่มีการสนับสนุนการโทรสำหรับ iPhone และยังมีประสิทธิภาพที่ล่าช้ากว่าด้วย
แต่ถ้ามองข้ามข้อด้อยเหล่านั้น Versa ก็เป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมในกลุ่มสมาร์ทวอทช์ระดับกลาง และเป็นอุปกรณ์ที่ควรค่าต่อการพิจารณา หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์สวมใส่ที่ทำงานได้อย่างครอบคลุม ภายในงบประมาณไม่เกิน 8,000 บาท