หลังจากใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ทดลองใช้สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของ Google นั่นคือ Pixel 6 (วางจำหน่ายคู่กับ Pixel 6 Pro) ทางเราสามารถพูดได้เลยว่ามันทรงพลัง สวยงาม และราคาถูกมาก โดยมีราคาต่ำกว่า 35,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่า ในราคานี้ใคร ๆ ก็อยากจับจองเป็นสมาร์ทโฟนแอนดอรยด์รุ่นต่อไปอย่างแน่นอน
Pixel 6 มีคุณสมบัติแบบคลาสสิกของสมาร์ทโฟนจากค่าย Google ไม่ว่าจะเป็นกล้องอันทรงพลัง การออกแบบที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น UI ที่ยอดเยี่ยม และฟีเจอร์พิเศษเฉพาะจาก Pixel มากมาย เช่นเดียวกับฟีเจอร์สำหรับการโทรโดยเฉพาะ และเมื่อจับคู่กับฮาร์ดแวร์ที่มีความแข็งแกร่ง เช่น ชิป Tensor ตัวใหม่ของทาง Google สมาร์ทโฟนก็จะติดตามทุกสิ่งที่คุณทำได้อย่างง่ายดายในแต่ละวัน
- Google Pixel 6
- #1
- Google Pixel 6 Pro
- #2
- Google Pixel 7
- #3
รีวิว Google Pixel 6 คุ้มค่าน่าลงทุนหรือไม่?
คุณสมบัติตัวเครื่องจากการรีวิว
- ระบบประมวลผล: Google Tensor
- RAM: 8 GB LPDDR5
- หน้าจอ: 6.4 นิ้ว FHD+ (2400×1080) OLED, 20:9 aspect ratio, อัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 90Hz
- พื้นที่จัดเก็บ: 128 GB UFS 3.1
- การเชื่อมต่อ: USB-C 3.1 Gen 1
- แบตเตอรี่: 4,614 mAh, 24 ชั่วโมง+ (มากถึง 48 ชั่วโมง ในโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุด และ Qi-certified)
- เซนเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือ: ใต้จอแสดงผล
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: Wi-Fi 6E (802.11ax), Bluetooth 5.2
- มาตรฐาน IP: IP68
- เซนเซอร์: มาตรวัดความใกล้เคียง ตัวตรวจวัดแสงแวดล้อม มาตรความเร่ง ไจโรมิเตอร์ แมกนิโตมิเตอร์ บารอมิเตอร์
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12
- ขนาด: 6.2 x 2.9 x 0.4 นิ้ว
- น้ำหนัก: 7.3 ออนซ์
การออกแบบและตัวเครื่อง
ตามที่คุณคาดหวัง กลุ่มผลิตภัณฑ์จาก Pixel นั้น Google ยังคงรักษาความเรียบง่ายแต่ทันสมัย (และไม่เหมือนใคร) ไว้ได้อย่างครบครัน ด้วย Pixel 6 ที่ไม่ได้มีอะไรฉูดฉาดมากนัก แต่ในขณะเดียวกันกลับมีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อย่างแถบกล้องด้านหลังที่เรียกความสนใจจากผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าแถบกล้องนี้จะค่อนข้างโดดเด่น แต่ก็มีฮาร์ดแวร์กล้องทั้งหมดของ Google อยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังทำให้สมาร์ทโฟนวางราบบนโต๊ะได้โดยไม่โยกเยกหรือเคลื่อนที่เหมือนที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลาย ๆ รุ่นเป็นจนน่ารำคาญ
ขนาดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กำลังพอดี เราคาดหวังว่ามันจะใหญ่กว่านี้มาก แต่จริง ๆ แล้ว มันให้ความรู้สึกที่ดีเมื่ออยู่ในมือ ตัวเครื่องมีกระจกครอบ Gorilla Glass Victus ที่ป้องกันรอยขีดข่วน และด้านหลัง Gorilla Glass 6 แบบไร้ขอบ พร้อมกรอบโลหะผสมแบบสัมผัส ให้ความรู้สึกงดงาม ทันสมัย และดูพรีเมียม… แต่ข้อเสียของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ คือ มันลื่นเกินไป ดังนั้น อย่าลืมใส่เคสด้วยล่ะ!
หนึ่งในคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน Pixel 6 คือ Quick Tap ซึ่งอยู่ในเมนูท่าทางสัมผัสของระบบ เมื่อเปิดใช้งานแล้ว คุณสามารถแตะ 2 ครั้งที่ด้านหลังของอุปกรณ์ใต้แถบกล้อง ก็จะสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้ เช่น ถ่ายภาพหน้าจอ การเข้าถึงผู้ช่วยดิจิทัล เล่นหรือหยุดสื่อมีเดียชั่วคราว หรือแสดงการแจ้งเตือนต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ ทางเราชื่นชอบคุณสมบัติการแตะ 2 ครั้ง เพื่อล็อกหน้าจอโทรศัพท์ของ Samsung รุ่นก่อนที่เราเคยใช้ ดังนั้น เราจึงพบว่าแอปพลิเคชันที่ผสานรวมกับ Quick Tap นี้ ทำให้เรารู้สึกว่าชอบที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ต่อไปได้ในสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นนี้
Google ยังได้เปลี่ยนไปใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือแบบออปติคัลที่ใต้จอแสดงผล จึงไม่มีเซนเซอร์ลายนิ้วมือด้านหลังอันเป็นที่รักไป ซึ่งบางครั้งมันอ่านลายนิ้วมือได้แทบจะในทันที และบางครั้งมันก็ค้างประมาณ 1-2 วินาที จนเกือบหลอกให้เราคิดว่ามันยังไม่ได้เริ่มการสแกน และทำให้รู้สึกค่อนข้างน่าหงุดหงิด เพราะปกติคนเราต้องสแกนนิ้วเป็นร้อย ๆ ครั้ง ในการเข้าใช้งานโทรศัพท์ในแต่ละวัน ดังนั้น ระบบการสแกนนิ้วจึงควรต้องทำงานได้สม่ำเสมอและรวดเร็วทุกครั้ง
ทางเรารู้สึกไม่ชอบแสงจ้าที่เครื่องอ่านใช้เพื่อทำให้ลายนิ้วมือสว่างขึ้น หากคุณพยายามปลดล็อกสมาร์ทโฟนในช่วงกลางดึกและไม่ได้วางนิ้วให้ตรงกับเซนเซอร์ คุณอาจตาบอดได้ เพราะแสงนั้นมันสว่างจ้าเหลือเกิน
รีวิวนี้ของ Pixel 6 จะไม่สมบูรณ์เลย หากไม่พูดถึงชิป Tensor ของ Google เพราะมันน่าประทับใจและเพิ่มพลังบางอย่างให้กับสมาร์ทโฟนได้อย่างไม่น่าเชื่อ Pixel รักษาคำสัญญาได้ดีเสมอ เพราะ Pixel ไม่เคยทำงานช้าอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ นั้นถูกพัฒนาให้เร็วขึ้นด้วย ในตอนนี้ ชิป Tensor ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ากระบวนการจำนวนมากของ Google เช่น การป้อนตามคำบอก การแปล และการประมวลผลรูปภาพ ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างจริงจังมากขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร? Pixel 6 ให้ความรู้สึกทรงพลังและมีความสามารถมากกว่าที่คาดไว้จากสมาร์ทโฟนในรุ่นราคาประมาณ 20,000 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ได้เลย และที่สำคัญที่สุดคือรวดเร็วมาก ๆ
หน้าจอแสดงผล
Google ให้ Pixel 6 รุ่นมาตรฐานมีจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว ที่ดูสวยงาม พร้อมอัตราการรีเฟรช 90Hz และให้จอแสดงผล 120Hz สำหรับในรุ่น 6 Pro ซึ่งไม่ได้เห็นความแตกต่างกันมากนัก เว้นแต่ว่าคุณชอบเล่นเกม (หรือเลื่อนดูแอปหรือโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว)
แน่นอนว่าถ้าหน้าจอแสดงผลอยู่ระหว่าง 60Hz ถึง 120Hz (หรือแม้แต่ระหว่าง 60Hz ถึง 90Hz) อัตราการรีเฟรชที่ยิ่งสูงก็จะยิ่งดี ระหว่าง 90Hz ถึง 120Hz ถือว่าดีแล้วหรือยัง? ค่าต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ย ถึงแม้ว่าอัตราการรีเฟรชที่สูงฟังดูเหมือนจะดีกว่าและอาจเหมาะกับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่างรุ่น 6 Pro มากกว่า แต่การประหยัดต้นทุนของหน้าจอ การรีเฟรชที่ต่ำกว่านั้นถือเป็นการประนีประนอมที่ถือว่ายอมรับได้
Google ยังเลือกใช้จอแสดงผลแบบแบนสำหรับ Pixel 6 แทนที่จะใช้จอแสดงผลแบบโค้งมนแบบของ 6 Pro ทางเราแน่ใจว่าบางคนอาจจะชอบจอแสดงผลแบบโค้ง แต่เรากลับคิดว่ามันเป็นกลไกที่คนส่วนใหญ่เลิกใช้กันแล้ว รูปลักษณ์และความรู้สึกของจอแบนบนสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ยอดเยี่ยมมาก และเป็นเรื่องดีที่ Google ตัดสินใจเลือกใช้ตัวเลือกนี้
นอกจากนี้ การแสดงผลแบบเต็มหน้าจอยังดูดีและสดใสอยู่เสมอ และยังคงนำสีที่เป็นธรรมชาติและไม่อิ่มตัวของ Google มานำเสนอ แต่ข้อบกพร่องที่น่าสังเกตเพียงอย่างเดียวของจอแสดงผลของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือมันไม่สว่างมาก และความสว่างที่ปรับได้ (ปัจจุบัน) นั้นแย่มาก ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนกลางแจ้งหรือในที่แดดจัด แต่ส่วนตัวแล้ว เราไม่ชอบใช้สมาร์ทโฟนกลางแจ้ง จึงไม่มีปัญหานี้
กล้องถ่ายรูป
Pixel 6 มีกล้องที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีอยู่ แต่ทางเราไม่จำเป็นต้องพูดว่าฮาร์ดแวร์ที่ยอดเยี่ยมของกล้องบนสมาร์ทโฟนต่างหากที่เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่น
กล้องมุมกว้าง 50MP Octa PD Quad Bayer หลัก และกล้องมุมกว้างพิเศษ 12MP ทั้งคู่ตอบโจทย์ทุกความคาดหวังได้เป็นอย่างดี เช่น มุมมองภาพที่กว้าง เซนเซอร์ LDAF การซูม Super Res 7x ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล การแก้ไขเลนส์ และอื่น ๆ ทั้งหมดรวมอยู่ในนี้ และผลลัพธ์ที่ได้คือภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งบรรจุความแม่นยำของสีที่ยอดเยี่ยมของ Google และรูปลักษณ์ที่ตัดกันแบบคลาสสิก
ในขณะเดียวกัน กล้องหน้าโฟกัสคงที่ 8MP นั้นดีพอสำหรับการถ่ายเซลฟี คุยวิดีโอคอล และอื่น ๆ การออกแบบรูเจาะยังให้ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นก่อน ๆ ที่ใช้อยู่เล็กน้อย แต่ทางเราก็ไม่ได้สังเกตเห็นมันในการใช้งานประจำวันมากนัก กล้องทั้งหมดที่บรรจุมาในเครื่องนั้นทรงพลังเพียงพอและมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าที่เคย ช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยม
คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์เจ๋ง ๆ มากมายได้ เช่น การเคลื่อนไหว เบลอ หรือโฟกัสเบลอ ไปจนถึงช็อตจากโหมดแนวตั้ง นอกจากนี้ ยังควบคุมการเปิดรับแสงแบบคู่ที่ให้คุณปรับแต่งเงาและความสว่างแยกกันได้ Google ยังทำงานเพื่อปรับปรุงความแม่นยำของสีสำหรับการถ่ายภาพบุคคลเพื่อให้แสดงความแตกต่างของโทนสีผิวต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่จำเป็นอย่างยิ่ง และควรจะได้รับการปรับปรุงในกล้องทุกตัว
โดยรวมแล้ว Google ให้ความสำคัญกับกล้องเป็นอย่างมาก อย่างที่เราคาดไว้ แม้จะเน้นที่ซอฟต์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์ ที่กล่าวว่าฮาร์ดแวร์กล้องสำหรับสมาร์ทโฟนนั้นยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
แบตเตอรี่
Google ระบุว่าแบตเตอรี่ 4,614 mAh ที่รองรับ Qi ของ Pixel 6 นั้นใช้งานได้ยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตราบใดที่คุณไม่ได้ใช้งานหนักมาก) และเราพบว่ามันใช้ได้จริง ด้วยการใช้งานเป็นประจำ ซึ่งสำหรับเรานั้น ทั้งการแชทและส่งข้อความทั้งวัน เช็คโซเชียลมีเดีย อ่านและเขียนอีเมล โทรวิดีโอคอลเป็นครั้งคราว ดูวิดีโอบน YouTube หรือ TikTok และเล่นเกมเบา ๆ ซึ่งในช่วงท้ายของวันจะมีแบตเตอรี่เหลืออย่างน้อย 30%
เราคิดว่านั่นน่าจะเพียงพอสำหรับผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสลับมาใช้โหมดประหยัดพลังงานขั้นสุด (Extreme Battery Saver) ของ Google ซึ่งช่วยให้สมาร์ทโฟนใช้งานได้นานถึง 48 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
อายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นแข็งแกร่งด้วยการใช้งานโดยเฉลี่ย แต่อาจจะแย่กว่านั้นหากคุณเปิดใช้งาน Always On แต่โดยรวมแล้ว Google ได้ปรับปรุงเวลาแบตเตอรี่จึงช่วยให้สแตนด์บายได้ดีขึ้น ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมมากหากคุณไม่ต้องการอยู่ใกล้ที่ชาร์จแบบไร้สาย
ซอฟต์แวร์และการใช้งาน
ซอฟต์แวร์เป็นสิ่งที่ Pixels โดดเด่นมาโดยตลอด ไม่เพียงแต่คุณจะเข้าถึง Android เวอร์ชันใหม่และฟีเจอร์ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Pixel ได้ก่อนหน้านี้ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับ Android 12 เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ ด้วย Pixel 6 คุณจะได้รับประสบการณ์การใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ที่ดีที่สุดบนสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นสิ่งที่สวยงามราบรื่นอย่างแท้จริง
Android 12 เป็นการอัปเดตโดยรวมที่น่าพึงพอใจ และที่เด่นที่สุดในนั้นคือการอัปเดต Material You ที่โดดเด่น ภาษาการออกแบบ Android ที่อัปเดตของ Google เป็นก้าวที่มั่นคงจากการออกแบบ (ภาษาการออกแบบขนาดใหญ่สำหรับ Google) ตอนนี้ นอกจากจะมีไอคอนและการ์ดที่ดูเหมือนออกแบบมาเป็นอย่างดี ไม่ใช่ไอคอน 2D แบบเรียบ ๆ การอัปเดตใหม่นี้ทำให้ทุกอย่างดูน่าเบื่อน้อยลง
‘Material You’ นำเสนอธีมสีที่สอดคล้องกันทั่วทั้ง UI ซึ่งจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของสิ่งต่าง ๆ ตามความต้องการของคุณโดยอัตโนมัติ มีวอลล์เปเปอร์สีน้ำเงิน วิดเจ็ตต่าง ๆ เมนู และแม้แต่แอปพลิเคชันบางแอป เช่น Google Messages ก็เป็นสีน้ำเงินด้วยเช่นกัน และเมื่อคุณเบื่อวอลล์เปเปอร์ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นรูปพระอาทิตย์ตกที่สดใสได้อย่างง่ายดาย โดย UI จะปรับให้เข้ากับสีของวอลล์เปเปอร์นั้น ๆ แบบไดนามิก โดยที่คุณไม่ต้องยกนิ้วให้เมื่อย ฟังดูง่าย แต่เป็นเพียงตัวเลือกที่รอบคอบอีกทางหนึ่งที่ช่วยทำให้ Pixel เป็นสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้เน้นแค่ปริมาณ แต่ยังต้องเน้นไปที่คุณภาพที่ดีด้วย
แน่นอนว่า Pixel 6 ยังมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะของ Pixel ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย สิ่งที่ดีที่สุดที่เราชื่นชอบ คือ การจดจำเสียง สมาร์ทโฟนสามารถจดจำเพลงได้ในเวลาไม่กี่วินาทีแม้อยู่ในร้านอาหารหรือบาร์ที่มีเสียงดัง และที่น่าประทับใจ คือ แม้จะมีเสียงทีวีพูดถึงเพลงนั้น ๆ ระบบการแปลงข้อความเป็นคำพูดก็ทำงานได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ และทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลาที่คุณต้องการแปลหรือสั่งงานด้วยเสียงในทันที นอกจากนี้ Pixel ยังมีฟีเจอร์การโทรที่ทรงพลังหรือฟีเจอร์กล้องที่ได้พูดถึงไปแล้วด้านบน
โดยรวมแล้ว ซอฟต์แวร์ของ Pixel 6 มีคุณสมบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมายที่ทำให้ทั้งโทรศัพท์และชีวิตของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ซอฟต์แวร์ของ Google บนฮาร์ดแวร์ของ Google เป็นอะไรที่ทำงานได้เป็นอย่างดี สิ่งต่าง ๆ จึงเชื่อมต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่ใครก็ตามที่เคยเป็นเจ้าของ Pixel จะรู้ดี และ Android 12 ก็ยังทำงานได้ดีบน Pixel 6 อีกด้วย
สรุปความคิดเห็น
Pixel 6 ของ Google นั้นน่าประทับใจมาก สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ออกแบบมาอย่างดี และด้วยชิป Tensor อันทรงพลังของ Google มันจึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ เป็นเรื่องดีที่ได้เห็น Google พัฒนาซอฟต์แวร์กล้องของสมาร์ทโฟนให้เข้ากับฮาร์ดแวร์กล้องที่เป็นตัวหลัก และทางเราก็ไม่สงสัยเลยว่าเครื่องมือ Magic Eraser คือสิ่งที่เราจะพูดถึงในอีกหลายปีต่อจากนี้
แม้ว่าเราจะหวังว่าเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลจะเร็วขึ้น ทำงานได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้น และไม่ต้องพึ่งพาเซนเซอร์ออปติคัลที่สว่างจนทำให้ตาพร่า แต่ก็แม่นยำทุกครั้งขณะที่ใช้งาน ทางเราประทับใจมาโดยตลอดกับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ สมาร์ทโฟน
เซนเซอร์ลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลอาจดีขึ้นและเร็วขึ้น ซึ่งอาจสะเทือนวงการสมาร์ทโฟนสเปกระดับพรีเมียมได้ และตัวจอแสดงผลเองก็อาจสว่างขึ้น แต่โดยรวมแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะไม่ชอบ Pixel 6 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากสิ่งอื่น ๆ ที่มีให้ในราคาที่เหมาะสม เพราะมันใช้งานได้จริง และนี่คือ Android ที่คุณอาจกำลังมองหาอยู่ก็เป็นได้