ProReview เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร อ่านเพิ่มเติม
รีวิว Ipad Pro 12.9 นิ้ว 2021
Pro Review » อิเล็กทรอนิกส์ » รีวิว iPad Pro 12.9 นิ้ว 2021

รีวิว iPad Pro 12.9 นิ้ว 2021

คะแนนจาก Pro Review

★★★★★
★★★★★

สำหรับสายเปย์ iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) น่าจะเรียกได้ว่าเป็น iPad ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาซึ่งมาพร้อมกับราคาแพงหูฉีก แต่ก็ต้องยอมให้กับความดีงามของชิป M1 จอ LED ขนาดจิ๋วและการรองรับการเชื่อมต่อ 5G ที่ทำให้ iPad รุ่นนี้กลายเป็นสุดยอดแท็บเลตทรงพลังแห่งปี 2021 และครองตำแหน่งท็อป 5 มาจนถึงทุกวันนี้

ข้อดี

  • จอแสดงผล XDR สว่างเป็นที่น่าพอใจ
  • ชิปประมวลผล M1 สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับระบบปฏิบัติการ iPadOS
  • คุณสมบัติ Center Stage เจ๋งใช้ได้
  • มีช่องต่อ Thunderbolt 3 และ USB 4
  • ในที่สุดก็รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G

ข้อเสีย

  • จอแสดงผลจะดูดีที่สุดเฉพาะเวลาเปิดไฟล์ HDR
  • ราคาค่อนข้างสูงถ้าซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มอีก

iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) คือ iPad ที่ดีที่สุด หน้าจอสว่างที่สุด และทำงานได้เร็วที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมา

iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) ทำงานได้รวดเร็วกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นที่เคยมีมา มาพร้อมโปรเซสเซอร์ M1 ที่เร็วที่สุดที่ใช้ใน Macbook รุ่นล่าสุดด้วย ทำให้ iPad รุ่นนี้พร้อมจะรับทุกศึกหนัก แม้กระทั่งการประมวลผลวิดีโอสำหรับมือโปร

หน้าจอ Liquid Retina XDR ของ iPad Pro ให้ภาพที่สวยงามและคมชัด ยากที่จะมีใครเทียบได้ โดยสว่างกว่าคู่แข่งถึง 200% ส่วนฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยให้การประชุมทางวิดีโอสะดวกขึ้น อย่าง Center Stage ก็น่าประทับใจ

รีวิวนี้จะพิสูจน์ว่า iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) จาก Apple รุ่นนี้คือสุดยอดแท็บเล็ตที่ดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน (ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับ Magic Keyboard ก็จะกลายเป็นหนึ่งในแล็ปท็อป 2-in-1 ที่ดีที่สุดด้วย) ทั้งนี้รุ่นนี้อาจเป็น iPad ที่เกินความจำเป็นและเกินกำลังสำหรับบางคน ในขณะที่ MacBook Air M1 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน

ข่าวดีก็คือ Apple ออก iPad มาให้เลือกมากมายหลายรุ่น ซึ่งแปลว่าคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินถึง 37,900 บาท (ราคาเริ่มต้นของ iPad Pro 2021 รุ่น 12.9 นิ้ว) ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์ส่วนใหญ่ของ iPad ที่คุณชื่นชอบได้แล้ว

แต่คุณควรลงทุนซื้อ iPad Pro 2021 รุ่น 12.9 นิ้ว เลยหรือไม่ มาหาคำตอบกัน

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): ราคาและวันที่วางจำหน่าย

รีวิว Ipad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) ราคาและวันที่วางจำหน่าย

  • วางจำหน่ายวันที่ 21 พฤษภาคม
  • ราคาแรงขึ้นมาก มาพร้อมอุปกรณ์เสริมเช่นเคย

iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว 2021 เริ่มต้นที่ 37,900 บาท ซึ่งทำให้ราคาสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 13,400 บาท ฉะนั้นถ้าคุณต้องการให้เครื่องทำงานได้รวดเร็วเหมือนกันแต่มาในขนาดหน้าจอที่เล็กลงได้ iPad Pro 2021 รุ่น 11 นิ้ว มาในราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า คือ 27,900 บาท แต่ถ้าอยากให้เชื่อมต่อ LTE ได้ก็จะต้องเพิ่มเงินอีก 5,000 บาท

นอกจากนี้ยังถ้าต้องการให้ครบเครื่องก็ต้องเพิ่ม Magic Keyboard (9,990 บาท) และ Apple Pencil รุ่นที่ 2 (4,490 บาท) รวมกันทั้งหมดก็ 52,380 บาท ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับการลงทุนซื้อแท็บเล็ตเครื่องนึง

ถ้าทั้งหมดนี้ฟังดูแพงไปจนทำให้ต้องขายไตล่ะก็ แนะนำให้ลองพิจารณา iPad Air 2020 ที่มีราคาเปิดตัวที่ 19,900 บาท เพราะถึงจะเป็นรุ่นที่รองลงมา แต่ก็มีทุกอย่างที่เราชื่นชอบใน iPad Pro เช่นกัน แต่มาในราคาไม่แพงมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าหน้าจอขนาด 10.9 นิ้วของมันดูเล็กกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกัน

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): หน้าจอ XDR

รีวิว Ipad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) หน้าจอ Xdr

  • ครองตำแหน่งหน้าจอที่สว่างที่สุดเอาไว้ได้
  • สว่างสูงสุดได้ถึง 1,588 นิต

แม้ว่าสเปกของ iPad Pro 2021 รุ่น 12.9 นิ้ว และ iPad Pro 2021 รุ่น 11 นิ้วจะแตกต่างกัน แต่เมื่อเราทดลองเปิดหนังเอาไว้ทั้งสองเครื่องแล้ววางเทียบกัน ทั้งสองรุ่นให้ภาพที่ยอดเยี่ยม คมชัด เราไม่เห็นถึงความแตกต่างอะไรมากมายอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรกเลย

ทั้งนี้คุณอาจจะยังไม่สามารถเห็นความสวยงามของจอ Liquid Retina XDR อย่างถึงที่สุดในทุกแฟลตฟอร์ม เพราะหน้าจอแบบนี้จะต้องรับชมคู่กับคอนเท็นต์แบบ HDR นั่นเอง

ในด้านความสว่างของ iPad Pro 2021 เราทำการทดสอบด้วยกัน 2 รอบ ครั้งแรกบนคอนเท็นต์ HDR และอีกครั้งด้วยคอนเท็นต์ที่ไม่ใช่ HDR อุปกรณ์ของเราวัดความสว่างได้เฉลี่ยที่ 563 นิต ในเนื้อหาที่ไม่ใช่ HDR ซึ่งใกล้เคียงกับคะแนนของ iPad Pro 2021 รุ่น 11 นิ้ว ที่ได้คะแนนนไป 571.3 นิต และ iPad Pro 2020 ที่ได้คะแนนไป 559 นิต

ส่วนด้านสีสัน iPad Pro 2021 ยังคล้ายกับ iPad Pro รุ่นก่อนหน้า โดยให้ช่วง sRGB 114.9% (รุ่น 11 นิ้วมีคะแนนใกล้เคียงกันที่ 113.1%) และมีสีสันมากกว่า iPad Air ที่ได้คะแนนไป 102.9% แต่จะต่ำกว่า iPad Pro 2020 (122.9%) อยู่เล็กน้อย

ทั้งนี้ Samsung ยังเป็นแท็บเล็ตที่มีสีสันมากกว่า โดย Galaxy Tab S7 Plus คะแนนพุ่งไปที่ 210.6% (Samsung มักจะทำได้ดีกว่าในด้านสีสันที่หลากหลาย) แต่ Apple ไม่น่าจะมองว่าเรื่องสีสันที่น้อยกว่านี้จะเป็นปัญหา เนื่องจาก Apple มักจะเลือกให้หน้าจอมีสีสันที่สมจริงมากกว่า และไม่ใส่ความอิ่มตัวมามากเกินจริง

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): ด้านประสิทธิภาพ

รีวิว Ipad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) ด้านประสิทธิภาพ

  • ชิป M1 ทำให้รุ่นนี้ทำงานได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • ชนะคู่แข่งได้ใส ๆ

ชิป Apple M1 ใน iPad Pro 2021 ทำงานได้รวดเร็วมาก ทุกอย่างราบรื่นลื่นไหลยิ่งกว่าเดิม เราทดลองเปิด Safari ไว้หลาย ๆ หน้า แต่ถึงจะเปิดหน้าใหม่ขึ้นมายังไงก็ยังแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว

จากนั้นเราก็เริ่มทดสอบการทำงานในโหมดมัลติทาสก์ โดยแบ่งหน้าจอกันระหว่าง Safari ที่เปิดค้างไว้ 13 หน้า ส่วนอีกด้านเป็นวิดีโอ YouTube ความละเอียด 1080p/60fps จากนั้นก็ดึงโฟลเดอร์ของงานศิลปะ HDR ที่มีความละเอียดสูงขึ้นมาผ่านการสไลด์โอเวอร์ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็ทำได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุดเลย

ในการทดสอบเกณฑ์มาตรฐาน Geekbench 5 ของ iPad Pro 2021 รุ่น 12.9 นิ้ว ทำคะแนนได้ 7,298 คะแนน (ใกล้เคียงกับ iPad Pro 2021 รุ่น 11 นิ้ว ที่ใช้ชิป M1 เหมือนกัน ที่ได้ไป 7,293 คะแนน) ซึ่งเป็นคะแนนที่เรียกได้ว่าก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นอย่าง iPad Air 2020 (A14 Bionic) ที่ได้ไป 4,262 และ iPad Pro 2020 ที่ได้ไป 4,720 ส่วน Galaxy Tab S7 Plus (Qualcomm Snapdragon 865+) ทำคะแนนได้น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่ 2,910 คะแนน

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): ดีไซน์

รีวิว Ipad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) ดีไซน์

  • หน้าตาเหมือนกับรุ่นก่อนเป๊ะ
  • มี Thunderbolt 3 / USB 4 สำหรับต่อพ่วงกับอุปกรณ์ภายนอก

สำหรับดีไซน์ของรุ่นนี้จะหน้าตาเหมือนกับ iPad Pro 2021 เป๊ะ โดยบอดี้จะทำจากอะลูมิเนียมกลึงหน้าตาสวยงาม พร้อมกรอบจอแคบ เรียกได้ว่าเกือบจะเหมือนกันเป๊ะ ๆ กับ iPad Pro และ iPad Air รุ่นปี 2020 เลยทีเดียว

รุ่นนี้มีด้วยกัน 2 สี คือ สีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ ซึ่งจัดว่ามีให้เลือกจำกัดไปในทันที่เมื่อเทียบกับ iPad Air 2020 ที่มีสีให้เลือกมากกว่าทั้งสีเขียว สีน้ำเงิน และสีโรสโกลด์ด้วย

หน้าจอขนาด 11.04 x 8.46 x 0.25 นิ้ว หนัก 1.5 ปอนด์ ทำให้ iPad Pro 2021 หนากว่ารุ่น 2020 (11.04 x 8.46 x 0.23 นิ้ว หนัก 1.4 ปอนด์) และ Galaxy Tab S7 Plus (11.22 x 7.28 x 0.22 นิ้ว หนัก 1.3 ปอนด์) เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถใส่ในกระเป๋าส่วนใหญ่ได้พอดี

Apple ยังคงใช้ปุ่มและรูปแบบพอร์ตเหมือนกันกับรุ่นก่อน คุณสามารถล็อคหน้าจอด้วยปุ่มบนสุด ที่เหลือเป็นปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง และสามารถเชื่อมต่อผ่าน USB-C ได้ด้วย

แต่มีอัพเกรดให้รองรับ Thunderbolt 3 และ USB 4 แล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกบ่อย ๆ หรือมือโปรที่ต้องใช้การถ่ายโอนข้อมูลที่เร็วขึ้นจากไดรฟ์ ส่วนหน้าจอที่ต่อเพิ่มสามารถรองรับจอภาพความละเอียดสูงถึง 6K เลย

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): กล้อง Center Stage และ FaceID

รีวิว Ipad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) กล้อง Center Stage และ Faceid

  • Center Stage ทำงานได้ดี
  • ถ่ายภาพได้คมชัด สีสันสดใส
  • ไม่มีที่อ่านลายนิ้วมือแล้ว

กล้องในแท็บเล็ตส่วนมากจะมีเอาไว้ไปงั้น ๆ ไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรเด่น ๆ มาก่อน แต่ iPad Pro 2021 เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ โดย iPad Pro 2021 เลือกใช้กล้อง TrueDepth ความละเอียด 12MP ที่ด้านหน้า เรียกได้ว่ามีความคมชัดเพียงพอสำหรับยุคที่เราต้องวิดีโอคอลกันตลอดเวลา และฟีเจอร์ Center Stage ก็ช่วยให้การประชุมเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เพราะใบหน้าของคุณจะอยู่ตรงกลางเฟรมตลอดเวลา แม้คุณจะเคลื่อนไหวไปมาระหว่างการคอล

ส่วนกล้องหลังมีกล้องไวด์ความละเอียด 12MP ที่ด้านหลัง กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 10 MP เมื่อทำงานร่วมกันก็ให้ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมกว่าก่อนมาก

รูปเซลฟี่ที่เราถ่ายมีรายละเอียดที่คมชัดมาก นอกจากนี้ยังถ่ายได้ในโหมดแนวตั้งได้ด้วย (เฉพาะที่กล้องหน้าเท่านั้น) ซึ่งทำได้ดีทีเดียวแม้จะเป็นแค่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในภาพก็ตาม

Apple ยังคงใช้ Face ID เพื่อปลดล็อกเครื่องหรือยืนยันตัวตนกับ Apple Pay และอื่น ๆ ผ่านเซ็นเซอร์ด้านหน้า ซึ่งเราก็หวังว่า iPad Pro จะมีเซ็นเซอร์ Touch ID ที่ปุ่มเปิดปิดมาให้ด้วยเหมือนใน iPad Air และ Samsung Galaxy Tab S7 Plus ที่มีทั้งการสแกนลายนิ้วมือและระบบการจดจำใบหน้าให้เลือกใช้

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): อายุการใช้งานแบตเตอรี่

รีวิว Ipad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) อายุการใช้งานแบตเตอรี่

  • ใช้งานได้ยาวนานกว่า Samsung’s Galaxy Tab S7 Plus
  • แต่รุ่น 11 นิ้ว ใช้งานได้ยาวนานกว่า

iPad Pro 2021 รุ่น 12.9 นิ้ว มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีเลยทีเดียว จากการทดสอบของเราแบตเตอรี่สามารถใช้ได้นาน 10 ชั่วโมง 48 นาที ตั้งแต่ชาร์จจนเต็มจนแบตหมด ซึ่งสูสีกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPad Air 2020 (10 ชั่วโมง 29 นาที) และชนะ iPad Pro 2020 (10 ชั่วโมง 16 นาที) อยู่เกินครึ่งชั่วโมง ยิ่งเมื่อเทียบกับ Galaxy Tab S7 Plus (8 ชั่วโมง 51 นาที) ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ใช้งานได้นานจริง ๆ

ส่วน iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว ที่มีขนาดเล็กกว่า สามารถใช้งานได้นานกว่าที่ 13 ชั่วโมง 42 นาที ในการทดสอบแบบเดียวกัน ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะรุ่น 11 นิ้ว ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากเท่ารุ่น 12.9 นิ้ว ในการทำให้ทั้งหน้าจอสว่างนั่นเอง

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): Magic Keyboard และ Apple Pencil

รีวิว Ipad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) Magic Keyboard และ Apple Pencil

  • Magic Keyboard มาในสีขาวที่งดงาม
  • ถ้าใส่ Magic Keyboards ของปีที่แล้วจะฟิตเป๊ะ

Magic Keyboard สำหรับ iPad (9,990 บาท) ยังเป็นผู้นำตลาดเคสคีย์บอร์ดสำหรับแท็บเล็ตที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ ที่สำคัญ Magic Keyboard ในปีนี้มีเพียงสีใหม่สีเดียวคือ สีขาว ซึ่งเมื่อวางคู่กันกับรุ่นก่อนที่มีสีดำ มันก็ดูดีจนน่าประหลาดใจ

นอกจากนี้ถ้าได้ลองใช้ Magic Keyboard รุ่นก่อน ๆ มาแล้ว คุณจะพบว่าในรุ่นใหม่ที่ใช้คู่กับ iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) มีขนาดเท่ากันเลย

ส่วน Apple Pencil 2 (4,490 บาท) ยังคงเป็นปากกาที่ใช้งานได้ดี แข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง มาพร้อมการชาร์จที่ทำได้อย่างง่ายดาย

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): iPadOS

รีวิว Apple Ipad Gen 9 (2021) Ipados 15

  • มือโปรคู่ควรกับระบบปฏิบัติการที่มีความสามารถมากขนาดนี้
  • หน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว ใหญ่พอให้ใช้งานแอปพลิเคชันพร้อมกันได้มากกว่า 3 แอป

ส่วนตัวเราสงสัยจริง ๆ ว่า iPadOS 15 มีไว้เพื่ออะไรกันแน่ เพราะ iPad Pro 2021 สามารถใช้แทนแล็ปท็อปได้แล้วจริง ๆ มันมีหน้าจอที่น่าทึ่งมาก โปรเซสเซอร์ M1 ก็ใช้เหมือนกันกับใน MacBooks รุ่นล่าสุด และการออกแบบที่เหมือนกับแล็ปท็อปแบบ 2-in-1 ที่ถอดออกได้ (ต้องซื้อแป้นพิมพ์เพิ่ม) ทำให้รุ่นนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย

สำหรับเราการที่ยังใช้ iPadOS ถือเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งของรุ่นนี้ เพราะแอปใน iOS จะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้จริง ๆ แน่นอนว่าคุณสามารถใช้แอปพลิเคชันพอดคาสต์เพื่อบันทึกเสียงได้ แต่จะดีกว่าไหมถ้า Skype และ FaceTime สามารถทำงานร่วมกับ Voice Memo ได้จริง ๆ

ประโยชน์ของการที่มี iPadOS อย่างเดียวที่เรามองเห็นคือมันมีประโยชน์กับเกมเมอร์ที่สตรีมเกม เพราะสามารถถ่ายทอดสดเกมใน iPad ที่ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม

แอปพลิเคชันต่าง ๆ สามารถทำงานแบบแบ่งหน้าจอได้ดี ด้วยมุมมองแบบแยกส่วนและแบบสไลด์โอเวอร์ แต่ถ้าในอนาคต iPad Pro จะเข้ามาแทนที่ Macbook แล้วล่ะก็ คงจะดีกว่าถ้าสามารถทำให้แอปพลิเคชันทำงานร่วมกันได้อย่างคล่องตัวมากขึ้นเหมือนใน Macbook

 

รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว): สรุปการรีวิว

จากที่เราได้รีวิว iPad Pro 2021 (12.9 นิ้ว) มาทั้งหมดนี้ สรุปได้ว่าในรุ่นนี้ Apple ได้ก้าวล้ำหน้าคู่แข่งไปไกลในด้านของประสิทธิภาพและคุณภาพของจอแสดงผล ทำให้ iPad รุ่นนี้ทำงานได้อย่าง Pro สมชื่อมากกว่ารุ่นก่อน ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้คนเลือกซื้อ iPad Pro ก็เพราะเป็น iPad ที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการอะไรที่มากกว่า iPad รุ่นธรรมดา ที่ยังมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่ด้วย

แต่ตั้งแต่เปิดตัว iPad Pro 2020 นั้น Apple ได้เปลี่ยนไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมีตัวเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการหน้าจอ HDR ที่สว่างเป็นพิเศษ นั่นคือ iPad Air 4 2020 ซึ่งเป็น iPad ระดับกลางที่ทำงานได้สมบูรณ์แบบ รองรับทั้ง Magic Keyboard และ Apple Pencil 2 ในราคาเพียง 24,400 บาท แม้จะยังทำงานได้ไม่เร็วเท่าและยังไม่มีฟังก์ชัน Face ID ก็ตาม

และสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพก่อนเรื่องอื่น ก็น่าจะลองพิจารณา iPad Pro 2021 รุ่น 11 นิ้ว ซึ่งมีระดับความเร็วที่พอพอกัน ในราคาที่ถูกกว่าถึง 10,000 บาท

หากคุณสับสนระหว่างรุ่นต่าง ๆ อ่านบทความเปรียบเทียบ iPad ของเรา คุณควรซื้อ iPad รุ่นไหน? iPad, iPad mini, iPad Air หรือ iPad Pro

  • กิตติพงษ์ โยธาภักดี
    นักเขียนเทคโนโลยี

    ณัฐ เป็นกูรูด้านเทคโนโลยีและไอทีประจำ Pro Review โดยอยู่ในวงการไอทีมานานกว่า 10 ปี โดยสร้างเนื้อหา ข่าวสาร และบทวิจารณ์สินค้าสำหรับเว็บไซต์เทคโนโลยีหลายแห่งในประเทศไทย จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอกภาษาอังกฤษ ทำให้เขาติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทั่วโลกและติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ และข่าวล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทดลองใช้สินค้าไอทีก่อนที่จะวางจำหน่าย ทำให้บทความของเขาเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด