อะไรที่ดีอยู่แล้วจะดียิ่งขึ้นไปอีก
เหมือน Apple จะค้นพบสูตรสำเร็จของสมาร์ทโฟนแล้วจริง ๆ เพราะรุ่นนี้มีการอัปเกรดคุณภาพของกล้องและฟีเจอร์ Dynamic Island ขึ้นมาเยอะมาก ซึ่งเข้ามาจัดการกับรอยบากที่กวนใจผู้ใช้มา 5 ปีแล้วตั้งแต่มีการเปิดตัวใน iPhone X
เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า iPhone 14 Pro เป็นมือถือที่ดีที่สุดที่เราเคยใช้มา แต่ก็จะมีผิดหวังเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่บ้าง แต่หากคุณเพิ่มเงินอีก 3,000 บาท ก็จะได้ iPhone 14 Pro Max ซึ่งมีคุณสมบัติครบรอบด้าน รวมถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นด้วย
ถือว่า iPhone 14 Pro ทำทุกอย่างได้ดีอย่างไม่มีที่ติ เริ่มตั้งแต่ตัวเครื่องที่พกพาง่ายขึ้นไปจนถึงประสิทธิภาพความแรงสูง และความสามารถด้านกล้อง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ที่คุณคาดหวังไว้ แต่นั่นก็เป็นเพราะ iPhone 13 Pro ทำทุกอย่างมาถูกทางแล้ว
ซีรีส์ Pro มาถึงจุดที่เรียกว่าทำได้ดีจนแทบไม่รู้จะเพิ่มอะไรแล้ว สิ่งที่เราได้ในปีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาแบบเดิม ๆ คือ กล้องที่ดีกว่าเดิม จอแสดงผลที่สว่างขึ้นและดีกว่าเดิม องค์ประกอบการออกแบบใหม่ และฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพมาก
- ดูรุ่น iPhone ที่ดีที่สุดที่มีให้ซื้อตอนนี้
- ดูโทรศัพท์มือถือยี่ห้อที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ตอนนี้
- Samsung Galaxy S23 Ultra
- #1
- iPhone 14 Pro Max
- #2
- OnePlus 11
- #3
รีวิว iPhone 14 Pro: ราคาและความพร้อมใช้งาน
iPhone 14 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 41,900 บาท สำหรับความจุพื้นฐาน 128GB
รุ่น 256GB มีราคา 45,900 บาท 512GB ราคา 54,900 บาท และ 1TB ราคาอยู่ที่ 63,900 บาท และสำหรับการใช้ฟีเจอร์เกี่ยวกับวิดีโอทั้งหมด คุณอาจต้องมีหน่วยความจำเสริม เพราะการจำกัดความละเอียดวิดีโอในวิดีโอ ProRes ที่ 1080p ยังมีอยู่สำหรับรุ่น 128GB
เราคิดว่า Galaxy S22 Plus เหนือกว่า iPhone 14 Pro เมื่อเทียบระหว่างราคากับสเปกที่ได้ ทั้งคู่มีราคาเริ่มต้นพอ ๆ กัน จอแสดงผลคุณภาพสูงเหมือนกัน มีกล้องที่ยอดเยี่ยม และระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพเหมือนกัน แต่มือถือ Android ไฮเอนด์ อื่น ๆ ล้วนราคาถูกว่า iPhone 14 Pro ตัวอย่างเช่น Pixel 6 Pro ราคาอยู่ที่ 33,880 บาท และ OnePlus 10 Pro ราคาอยู่ที่ 35,990 บาท
รีวิว iPhone 14 Pro: ดีไซน์
ในแง่หนึ่งรุ่นนี้รูปร่างหน้าตาคล้าย iPhone 13 Pro มาก เพียงแค่มีโมดูลกล้องที่ใหญ่กว่าเดิม ถ้ามองจากด้านหลังแทบจะแยกไม่ออกเลยว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน นอกเสียจากจะต้องสังเกตความแตกต่างที่เลนส์กล้องดี ๆ เท่านั้น
ในขณะที่ด้านหน้าของ iPhone รุ่นนี้ต่างจากรุ่นก่อนมาก ปัญหารอยบากด้านบนหน้าจอถูกแก้ไขด้วยฟีเจอร์ Dynamic Island ที่รูปร่างเหมือนแคปซูลยา ในที่สุดดีไซน์ที่ล้าสมัยของ iPhone ก็ได้รับการปรับปรุงเสียที แม้ว่าช่องที่ถูกเจาะจะยังมีขนาดใหญ่กว่ามือถือ Android ชั้นนำหลายรุ่น เพราะตำแหน่งนั้นเป็นที่ตั้งของ Face ID
Dynamic Island สามารถย่อขยายได้ตามกิจกรรมที่คุณทำ โดยการแสดงภาพเคลื่อนไหวสำหรับระบบการทำงานหลายอย่าง เช่น การปลดล็อก การเล่นเพลง ตัวจับเวลา และอื่น ๆ
มันสามารถกลายรูปร่างเป็นมีเดียเพลย์เยอร์ได้เมื่อคุณแตะ Dynamic Island ค้างไว้ขณะฟังเพลง ด้วยวิธีนี้คุณสามารถเข้าถึงแผงควบคุมเพลงได้โดยไม่ต้องดึง Notification Center ลงมา
iPhone 14 Pro มาพร้อมกรอบสแตนเลสตีลที่มีด้านหลังแบบกระจกผิวด้าน ซึ่งตอนนี้สามารถถอดออกเพื่อความสะดวกในการซ่อมได้แล้ว หน้าจอมี Ceramic Shield ของ Apple เคลือบอยู่ ทำให้มีความทนทานมากขึ้นเป็นพิเศษ
ถึงเราจะชอบดีไซน์ด้านหน้าแบบใหม่ของ iPhone 14 Pro แต่ด้านหลังของรุ่นนี้ไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ Apple ใช้เวลาสักพักในการปรับเปลี่ยนรูปแบบ แต่นี่ก็เป็นรุ่นที่ 3 แล้วที่มีทรงด้านหลังแบบเหลี่ยม ซึ่งเหมาะกับสรีระมือน้อยกว่าด้านหลังแบบโค้ง
รีวิว iPhone 14 Pro: จอแสดงผล
ปรกติแล้วโทรศัพท์มือถือของ Samsung และ Apple มักจะมีจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยมกว่าใคร iPhone 14 Pro ก็ยังรักษามาตรฐานนั้นไว้เหมือนที่ผ่านมา ที่จริงต้องบอกว่านี่เป็นจอมือถือที่ดีที่สุดที่เราเคยเจอมา มีตั้งแต่สีสันสดใสไปจนถึงความสว่างที่น่าเหลือเชื่อทั้งในร่มและกลางแจ้ง เราไม่เคยชอบการมองหน้าจอรุ่นไหนเท่า iPhone 14 Pro มาก่อนเลย
จอแสดงผลของ iPhone 14 Pro ได้รับการปรับปรุงขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ iPhone 13 Pro โดยเฉพาะในการสร้างสีและความแม่นยำ อย่างไรก็ตามค่าสูงสุดของความสว่างเมื่อวัดกลางแจ้งได้ไม่ถึง 2,000 นิต แม้เราจะใช้เครื่องวัดที่มีประสิทธิภาพมากแล้วก็ตาม
ปีนี้สิ่งที่กลับมาอีกครั้งคือหน้าจอ ProMotion 120Hz ที่สามารถลดอัตราการรีเฟรชลงได้ต่ำสุดถึง 1Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญเมื่อใช้งานโหมดเปิดหน้าจอตลอดเวลา
เราไม่สงสัยเลยว่าเมื่อ Samsung เปิดตัว Galaxy S23 ในช่วงต้นปี 2024 ก็น่าจะมีจอแสดงผลระดับเดียวกับ iPhone 14 Pro ได้ แต่สำหรับโทรศัพท์มือถือ Android แบรนด์อื่น ๆ คงยากที่จะทำได้ระดับนี้
รีวิว iPhone 14 Pro: กล้อง
Apple ตั้งใจอัปเกรดกล้องของ iPhone 14 Pro ครั้งใหญ่ในปีนี้ อย่างแรกเลยคือเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ใหม่ความละเอียด 48MP แม้จะไม่ใช่คุณสมบัติเฉพาะของโทรศัพท์ของ Apple แต่ iPhone 14 Pro สามารถถ่ายภาพ 12MP ที่เซ็นเซอร์จะปรับค่าให้เข้ากับภาพที่ถ่าย แต่ความละเอียดสูงถึง 4 เท่า เพราะการตั้งค่าของ quad pixel แต่ถ้าคุณต้องการภาพทั้ง 48MP ก็ทำได้ใน ProRAW ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก
กล้องเซ็นเซอร์อัลตร้าไวด์ 12MP ยังได้รับการปรับปรุงด้วยเซ็นเซอร์ใหม่ที่ใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่าของ iPhone 13 Pro เลนส์เทเลโฟโต้ยังคงซูมได้ 3 เท่า เราแอบหวังว่าจะเห็นการซูม 4 เท่าเหมือนกับของ Pixel 6 Pro แต่ Apple ใช้วิธีเพิ่มการซูมออปติคัล 2 เท่าในเซ็นเซอร์หลักแทน แปลว่าคุณจะมีตัวเลือกการซูม 4 แบบ คือ ซูมด้วยเลนส์อัลตร้าไวด์ 0.5 เท่า เลนส์หลัก 1 เท่า และ 2 เท่า และเลนส์เทเลโฟโต้ 3 เท่า
ฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone ปีนี้ก็คือ Photonic Engine ซึ่ง iPhone 14 ทุกรุ่นสามารถใช้ได้ มันคือการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์แบบใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงการถ่ายภาพในสภาวะที่มีแสงน้อยถึงปานกลาง โดยทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Deep Fusion ของ Apple ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของกระบวนการก่อนที่เฟรมจะถูกบีบอัด Photonic Engine จะช่วยดึงเอารายละเอียดของภาพออกมาแม้ในภาวะที่แสงน้อย
กล้องเซลฟี่ใน iPhone 14 Pro เองก็มีการปรับปรุงเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่มีออโต้โฟกัสซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เรารอมานาน นอกจากนี้ Apple ยังบอกว่ากล้อง TrueDepth มีรูรับแสงที่เร็วขึ้นจะทำให้ถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้สวยขึ้น ซึ่งเราได้ทำการทดสอบไว้ด้านล่าง กล้องหน้าเองก็มีใช้ระบบ Photonic Engine เช่นกัน
รีวิว iPhone 14 Pro: วิดีโอ
ปีนี้ Apple ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านวิดีโอในสมาร์ทโฟน ไม่เพียงแค่โหมด Cinematic ที่มีใน iPhone 13 จะยังอยู่ แต่ใน iPhone 14 Pro ยังสามารถบันทึกวิดีโอได้ถึง 4K ที่ 60 fps หรือ 4K ที่ 30 fps (iPhone 13 สามารถใช้งานในระดับ 4K ที่ 30 fps เท่านั้น) ใน ProRes (ในรุ่น 256GB ขึ้นไป)
และครั้งนี้มีการเปิดตัวโหมด Action ซึ่งเป็นฟีเจอร์ป้องกันการสั่นไหวสำหรับวิดีโอ โดย Apple อ้างว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีไม้กันสั่น เมื่อต้องถ่ายวิดีโอขณะเคลื่อนไหว โดยฟีเจอร์นี้จะมีประโยชน์ที่สุดเมื่อต้องถ่ายตัวแบบที่กำลังวิ่ง หรือตากล้องเองกำลังวิ่งอยู่
โหมด Action ใช้งานได้ถึง 2.8K ที่ 60 fps และสามารถใช้กับ Dolby Vision และ ProRes ได้ด้วย iPhone 14 Pro ยังมีการเปลี่ยนแปลงการซูมที่ลื่นไหลขึ้นในการถ่ายวิดีโอ รุ่นก่อนหน้านี้อาจมีการกระตุกบ้างเมื่อเปลี่ยนระดับการซูม แต่การซูมใน iPhone 14 Pro ดูดีขึ้นมากตามประสบการณ์การใช้งานของเรา
รีวิว iPhone 14 Pro: ประสิทธิภาพการทำงาน
iPhone 14 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิป A16 Bionic ชิปตัวใหม่ล่าสุดของ Apple Silicon เป็นเทคโนโลยีการผลิต 4 นาโนเมตรตัวใหม่ ซึ่งประกอบด้วย CPU แบบ 6-core, GPU แบบ 5-core และ Neural Engine แบบ 16-core ซึ่งพัฒนาขึ้นอย่างมากเทียบกับ A15 Bionic จาก iPhone 13 Pro ตัวอย่างเช่น ตัวประมวลผลจอแสดงผลแบบใหม่ ตัวประมวลผลสัญญาณภาพตัวใหม่ และการใช้พลังงานที่ประหยัดมากขึ้น
ในทางปฏิบัติ iPhone 14 Pro เป็นมือถือในฝันของคนที่ชอบโทรศัพท์พลังแรง เพราะมันทรงพลัง ใช้งานได้ทั้งวัน ซึ่งถือว่าเกินพอสำหรับการทำงานทั่วไปของคนส่วนใหญ่ การเล่นเกมก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะ iPhone 14 Pro สามารถรักษาอัตราเฟรมเรตที่ราบรื่นสม่ำเสมอได้ทุกเกมที่เราทำการทดสอบ A16 Bionic ยังโดดเด่นมากในการตัดต่อวิดีโอ แม้แต่กับฟุตเทจ 4K ProRes โดยคุณสามารถใส่เอฟเฟกต์และตัดต่อได้ทันทีโดยที่แทบไม่มีการกระตุกเลย
ถือว่าคู่แข่งอย่าง Android มีจุดที่เสียเปรียบเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ Snapdragon 8 Plus Gen 1 ก็ใกล้เคียงกับ Apple มากแล้ว อย่างน้อยก็เมื่อเทียบกับ Apple silicon ของปีที่แล้ว และเราก็ไม่คิดว่า Tensor รุ่นที่ 2 จาก Google จะตามทัน A16 Bionic ได้ แต่ Google ก็ไม่ได้ตั้งใจเป็นเบอร์หนึ่งในด้านประสิทธิภาพอยู่แล้ว เพราะ Tensor นั้นเป็นผู้นำในด้าน AI ในสมาร์ทโฟน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากว่า iPhone 14 Pro และ Pixel 7 Pro จะทำยังไงในด้านแอปพลิเคชั่นที่เน้นเรื่อง machine learning
เรื่องหนึ่งที่ iPhone 14 Pro ทำได้ไม่ค่อยน่าประทับใจนักคือความจุของเครื่อง รุ่นพื้นฐานมีความจุแค่ 128GB ถ้าต้องการเพิ่มความจุเป็น 256GB, 512GB หรือ 1TB คุณก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีก เมื่อพิจารณาว่าผู้ใช้ในปัจจุบันต้องการพื้นที่ในมือถือมากแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการถ่ายภาพความละเอียดสูง 48MP หรือวิดีโอ 4K ความจุแค่ 128GB จะน้อยเกินไป
รีวิว iPhone 14 Pro: อายุการใช้งานแบตเตอรี่และการชาร์จ
iPhone 13 Pro ทำให้เราประทับใจมากกับแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนาน ซึ่งในการทดสอบของเราอยู่ได้ถึง 11 ชั่วโมง 46 นาที ดังนั้นเราจึงตั้งความหวังไว้สูงมากกับ iPhone 14 Pro ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
แต่ว่าจากการทดสอบของเราเอง โดยเราจะตั้งความสว่างหน้าจอที่ 150 นิต และกำหนดให้มือถือโหลดหน้าเว็บซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด โดยใช้เน็ตจากมือถือ เราพบว่า iPhone 14 Pro ให้ผลที่ไม่ได้โดดเด่นนัก
ในการทดสอบของเรา iPhone 14 Pro หมดแบตเตอรี่เร็วกว่า iPhone 13 Pro ที่ 2 ชั่วโมงภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน เรายังไม่รู้ขนาดความจุแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ แต่มีข่าวลือว่า Apple เพิ่มขนาดให้กับ iPhone 14 Pro แต่ความจุแบตเตอรี่เฉลี่ยที่ประมาณ 10 ชั่วโมง ก็ไม่ได้แย่อะไร แค่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว หรือทำได้ไม่ดีเท่า iPhone 14 Pro Max
เรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 14 Pro ไม่ได้เป็นปัญหาเลย เพราะว่ามันสามารถใช้ถ่ายภาพได้เป็นชั่วโมง ๆ และหากไม่ได้ใช้งานอะไรเลยหลาย ๆ ชั่วโมงกว่าจะต้องชาร์จแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้งก็อยู่ได้เกือบ 2 วันเต็ม ๆ ซึ่งก็ไม่น้อยเลย
รีวิว iPhone 14 Pro: ซอฟต์แวร์
iPhone 14 Pro มาพร้อมกับ iOS 16 เราเคยอธิบายไปแล้วว่า iOS 16 ทำอะไรได้บ้างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นอย่าลืมลองอ่าน รีวิว iOS 16 ของเราได้ ถ้าคุณอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่าง ๆ
มี 2 อย่างที่เราชอบมากใน iOS 16 นั่นคือ การล็อกหน้าจอ และการเพิ่มประสิทธิภาพให้โหมดโฟกัส อย่างหลังนี้ทำให้เราตื่นเต้นเพราะเพิ่งได้ลองใช้โหมดโฟกัสที่ตอนนี้สามารถตั้งค่า ล็อกหน้าจอแบบกำหนดเอง ได้และตั้งค่าฟิลเตอร์โหมดโฟกัสเป็นแบบต่าง ๆ ได้ ซึ่งเราชอบมาก
Apple ได้ปลดล็อกการพักหน้าจอให้สามารถปรับแต่งได้เองหลายอย่าง คุณสามารถเพิ่มวิดเจ็ต เปลี่ยนรูปแบบนาฬิกา เลือกเอฟเฟกต์สำหรับแบ็กกราวด์ได้หลากหลาย และอื่น ๆ อีกมากมาย iOS 16 ให้คุณสร้างภาพพักหน้าจอได้หลายแบบ และยังสามารถเปลี่ยนไปมาได้ด้วย
อีกอย่างที่มาใหม่ในปีนี้คือ ระบบตรวจจับอุบัติเหตุ (Crash Detection) ซึ่งเป็นระบบที่ iPhone 14 Pro จะตรวจจับอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วจะมีการโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินให้ได้ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถดูการทำงานของฟีเจอร์นี้ได้ในการทดสอบรถแบบควบคุมระยะไกล
รีวิว iPhone 14 Pro: บทสรุป
เราพูดได้เต็มปากเลยว่า จากการทดลองและเวลาที่ใช้ไปกับอุปกรณ์นี้ iPhone 14 Pro เป็นมือถือที่ดีที่สุดของ Apple
ด้วยกล้องที่ยอดเยี่ยม จอแสดงผลที่สวยงาม และประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลัง ทำให้ iPhone 14 Pro โดดเด่นกว่าคู่แข่งทั้งหมด ทั้งความเร็ว ความลื่นไหล และกล้องที่เหนือกว่าทุก ๆ เครื่อง แม้แต่รุ่น Pixel 6 Pro
iPhone 14 Pro ในราคา 41,900 ไม่มีทางทำให้คุณผิดหวังแน่นอน การเปลี่ยนแปลงในรุ่นนี้เมื่อเทียบกับ iPhone 13 Pro อาจไม่คุ้มค่านัก แต่ถ้าเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ก่อนหน้านั้นเรียกว่ามองไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว แค่ iPhone 12 Pro ก็เทียบกับ iPhone 14 Pro ไม่ได้แล้ว เพราะอายุการใช้งานแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่อยู่ได้นานกว่า
เราคิดว่า iPhone 14 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของ Apple อย่างแท้จริง เรียกได้ว่าคู่ควรกับการได้รับการแนะนำอย่างสูงสุดของเราไปได้อย่างง่ายดายเลย
