ProReview เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร อ่านเพิ่มเติม
รีวิว Nintendo Switch Oled
Pro Review » อิเล็กทรอนิกส์ » รีวิว Nintendo Switch OLED ปี 2023

รีวิว Nintendo Switch OLED ปี 2023

คะแนนจาก Pro Review

★★★★★
★★★★★

Switch OLED เป็นเครื่องเล่นเกมที่มีระบบที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าพิจารณาถึงสิ่งที่เป็นไปได้ Switch OLED อาจเป็นเพียงจุดแวะพักก่อนที่ Nintendo จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พร้อมแนวคิดสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่จะพัฒนาเครื่องเล่นเกมให้ดูว้าวกว่าเดิมได้

ข้อดี

  • หน้าจอ OLED ที่สวยงาม
  • การอัปเกรดเล็ก ๆ ที่มีประโยชน์มากมาย
  • โทนขาวดำดูเท่
  • ยังคงคุณสมบัติและคลังเกมของ Switch ที่ยอดเยี่ยมไว้

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับความคมชัดระดับ 4K
  • แสดงภาพนิ่ง 720p
  • ค่อนข้างเก่าเมื่อเทียบกับ PS5 และ Xbox Series X/S

Nintendo Switch OLED มาพร้อมกับจอการแสดงผลที่ยอดเยี่ยม ลำโพงที่ได้รับการปรับปรุง และขาตั้งที่ดีขึ้น แต่อาจไม่คุ้มค่าที่จะอัปเกรดสำหรับผู้ที่กำลังเป็นเจ้าของ Switch อยู่

Nintendo Switch OLED เป็นเครื่องเล่นที่ขึ้นชื่อว่าใช้งานง่าย หากคุณกำลังมองหาที่ซื้อ Nintendo Switch เป็นครั้งแรก ราคาสำหรับเครื่อง Switch OLED อยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท ซึ่งคุ้มกว่า Switch รุ่นมาตรฐานซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท แต่หากคุณเป็นเจ้าของ Nintendo Switch อยู่แล้ว อาจจะไม่คุ้มที่จะอัปเกรด

เป็นเรื่องง่ายที่หลาย ๆ คนจะตกหลุมรัก Switch OLED เพราะมันทำงานได้ดีและทำให้เกม Switch ที่ดีที่สุดดูดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่น่าผิดหวังกับ Switch OLED เล็กน้อย เนื่องจากเป็นการอัปเกรดที่ไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้นในช่วงเวลาที่ Switch สามารถใช้งาน 4K เต็มรูปแบบได้

Switch OLED ค่อนข้างคล้ายกับรุ่นธรรมดา ยกเว้นหน้าจอที่สวยงามกว่าและการปรับปรุงการออกแบบเพียงเล็กน้อย และแม้ว่าหน้าจอจะสวยมาก แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนประสบการณ์ในการเล่นในโหมดมือถือที่แตกต่างกันมากนัก หากคุณเล่นในโหมดเชื่อมต่อ Switch OLED แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย

แต่ถึงอย่างนั้น Switch OLED ก็เป็นเครื่องเล่นที่แข็งแกร่ง มีการออกแบบแบบไฮบริด มีคลังเกมที่ยอดเยี่ยม และการมุ่งเน้นที่ประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าชื่นชม ซึ่งเป็นสิ่งแรกและสิ่งสำคัญที่สุด ที่ผู้ใช้ Switch OLED จะได้รับ

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: การออกแบบตัวเครื่อง

รีวิว Nintendo Switch Oled การออกแบบตัวเครื่อง

Nintendo Switch OLED มีการออกแบบส่วนใหญ่เหมือนกับรุ่นธรรมดา หากคุณต้องการทราบว่าระบบทำงานอย่างไรโดยรวม เราแนะนำให้คุณอ่านรีวิว Nintendo Switch ของเรา ซึ่งครอบคลุมข้อมูลทั้งเรื่องขนาดและรูปร่างทั่วไปของระบบ ฟังก์ชันแบบพกพา ตัวควบคุมที่แปลกประหลาด คุณสมบัติออนไลน์ และคลังเกม เป็นต้น

สิ่งแรกที่ทางเราสังเกตเห็นเกี่ยวกับ Switch OLED คือ มีขนาดเท่ากับ Switch รุ่นธรรมดา คืออยู่ที่ 9.5 x 4.0 x 0.6 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่ารุ่น Nintendo Switch Lite เล็กน้อย แต่มันเป็นขนาดที่ถือว่าสะดวกสบายหากต้องถือเป็นเวลานานสำหรับคอเกมวัยรุ่นและผู้ใหญ่ส่วนใหญ่

Nintendo Switch Oled ในกระเป๋าถือ

มันอาจดูเหมือนเป็นจุดเล็กน้อยยิบย่อย แต่เนื่องจาก Switch OLED ยังคงการออกแบบที่เหมือนกับรุ่นธรรมดา อุปกรณ์เสริมที่มีอยู่ทั้งหมดจึงควรยังคงใช้งานได้ การใส่ Switch OLED ไว้ในกระเป๋าพกพาทำได้สะดวกดี

เครื่องเล่น Switch OLED นั้นหนักกว่ารุ่นธรรมดาเล็กน้อย โดยน้ำหนัก 14.9 ออนซ์เมื่อเทียบกับ 14.1 ออนซ์นั้นแทบไม่ได้ให้ความแตกต่างอะไรมากนัก และทางเราไม่พบว่า OLED นั้นถือได้สะดวกสบายเมื่อต้องถือเป็นเวลานาน แต่เมื่อพูดถึงอุปกรณ์พกพา ความเบากว่าถือว่าสะดวกสบายกว่า

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: หน้าจอ OLED

รีวิว Nintendo Switch Oled หน้าจอ Oled

สำหรับตัวเครื่องของ Switch OLED นั้น อาจไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่ารุ่นธรรมดามากนัก แต่ในเรื่องของหน้าจอนั้นถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือหน้าจอ OLED ขนาด 7 นิ้ว เมื่อเทียบกับหน้าจอ LCD ขนาด 6 นิ้ว บนรุ่นธรรมดา

หน้าจอ OLED เป็นจุดศูนย์กลางของ Switch OLED และเป็นสิ่งที่ทาง Nintendo ยกย่องมากที่สุด ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส และสีดำสนิท เมื่อขณะที่เล่นเกมที่มีระดับความมืดและมีรายละเอียดมาก เช่น ถ้ำมนุษย์ต่างดาวของ Metroid Dread หรือปราสาทของ The Legend of Zelda: Breath of the Wild ประสบการณ์เหล่านี้จะให้ความรู้สึกสมจริงยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าคุณภาพของภาพจะไม่แตกต่างกันมากนักระหว่าง OLED ขนาด 7 นิ้ว และ LCD ขนาด 6 นิ้ว แต่ความสมบูรณ์ของสีนั้นถือว่าแตกต่างอย่างชัดเจนมาก

Nintendo Switch Oled Metroid Dead

พูดง่าย ๆ คือ เมื่อคุณเล่นเกมที่มีระดับความมืดและมีรายละเอียดมาก เช่น ถ้ำมนุษย์ต่างดาวของ Metroid Dread ประสบการณ์จะยิ่งน่าดื่มด่ำมากกว่าเดิม

ในเวลาเดียวกัน ทางเราได้สังเกตว่าดวงตาจะเคยชินกับอะไรก็ได้หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อทางเราเปลี่ยนจากเครื่องเล่น Switch รุ่นธรรมดาไปยังรุ่น OLED เป็นครั้งแรก เราพบว่าหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและสีสันที่สมจริงนั้นน่าทึ่งมาก หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เราก็ปรับค่าให้เน้นไปที่การเล่นเกมโดยเฉพาะ ในทำนองเดียวกัน การกลับไปเล่นเครื่องเล่น Switch รุ่นธรรมดาให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานสายตาก็ปรับให้เข้ากับเครื่องเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา

ด้วยเหตุผลนี้ ทางเราจึงขอเตือนใครก็ตามที่เป็นเจ้าของ Switch รุ่นธรรมดาอยู่ว่ามันอาจจะไม่คุ้มค่ากับการเปลี่ยนเป็นเครื่อง OLED มันอาจจะดูดี แต่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นที่คุณมีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเล่นเกมในเวลากลางวันหรือกลางคืน หน้าจอยังคงมีความละเอียดที่ 720p และคอนโซลยังคงติดขัดระหว่างการเล่นเกมในบางครั้ง

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: ขาตั้งและลำโพง

รีวิว Nintendo Switch Oled ขาตั้งและลำโพง

การอัปเกรดอื่น ๆ ของ Switch OLED นั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากนัก นอกจากออกแบบมาให้ดูบางกว่า ขาตั้งตอนนี้ใช้วัสดุเดียวกับตัวเครื่อง แทนที่จะใช้พลาสติกธรรมดา ๆ ที่บอบบาง ทำให้ง่ายต่อการติดตั้งตัวเครื่อง Switch OLED บนพื้นผิวที่หลากหลาย โดยไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะเคลื่อนหล่นตกลงมา

นอกจากนี้ แท่นเชื่อมต่อของ Switch OLED ยังมีพอร์ตอีเทอร์เน็ตในตัว คุณจึงไม่ต้องซื้ออะแดปเตอร์แยกต่างหากอีกต่อไป

ลำโพงดูจะไม่แตกต่างกันจากรุ่นธรรมดามากนัก แต่ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่ามาก บน Switch OLED ลำโพงจะใหญ่กว่าเล็กน้อยและมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามากกว่า

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ลำโพงสามารถให้เสียงที่ดีกว่าเมื่อก่อนมาก เสียงดูมีความชัดเจนและสมจริงยิ่งขึ้น แม้ในระดับเสียงที่ต่ำลงมา เสียงรอบข้างใน Metroid Dread รู้สึกไม่ค่อยสมจริงนัก แต่เสียงอันทรงพลังของธีม Hyrule ใน The Legend of Zelda: Breath of the Wild นั้นมีคุณภาพอย่างน่าประทับใจ

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: อินเทอร์เฟซการใช้งาน

รีวิว Nintendo Switch Oled อินเทอร์เฟซการใช้งาน

อินเทอร์เฟซของ Nintendo Switch OLED เป็นแบบเดียวกับบน Switch รุ่นธรรมดาและรุ่น Switch Lite อีกทั้งยังทำงานด้วยระบบปฏิบัติการเดียวกัน โดยคุณจะยังคงเห็นเมนูเกมที่ใช้งานง่ายบนหน้าจอหลัก โดยมีส่วนแยกต่างหากสำหรับ Nintendo Switch Online ข่าว Nintendo eShop รูปภาพและวิดีโอที่บันทึกไว้ ตัวเลือกตัวควบคุม ความสว่าง และการตั้งค่าระบบอื่น ๆ

การนำทางของ Switch OLED นั้นอาจไม่แข็งแกร่งเท่า PS5 หรือ Xbox Series X/S แต่ก็ยังมีเนื้อหาที่ใช้งานได้ง่ายกว่าและตรงไปตรงมากกว่ามาก ระบบของ Switch ทั้งหมด รวมถึง OLED รองรับเสียง Bluetooth แล้วด้วยการอัปเดตเฟิร์มแวร์ล่าสุด ซึ่งดีมาก ๆ

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: ประสิทธิภาพการทำงาน

รีวิว Nintendo Switch Oled ประสิทธิภาพการทำงาน

หากมีจุดหนึ่งที่ Switch OLED นั้นยังไม่น่าประทับใจมากนัก ก็คงเป็นเรื่องของประสิทธิภาพ นั่นไม่ใช่เพราะ Switch OLED นั้นแย่กว่ารุ่นธรรมดา เพราะอันที่จริงมันเกือบจะเหมือนกันทุกอย่างเลยทีเดียว

แต่ความจริงก็คือ Switch เป็นเครื่องเล่นที่มีอายุ 4 ปี และอุตสาหกรรมในวงการเกมนั้นได้ก้าวหน้าไปอย่างมากในด้านฮาร์ดแวร์ตั้งแต่ปี 2017 แล้ว พูดตรง ๆ หลังจากที่เราได้ลองเล่น PS5 และ Xbox Series X แล้ว มันยากจริง ๆ ที่จะกลับไปใช้ Switch OLED หรือเครื่องเล่นรุ่นอื่น ๆ

Switch OLED มีชิปเซ็ต Nvidia Tegra X1 ที่กำหนดเองได้เหมือนกับรุ่นธรรมดา ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่อยู่ภายในอุปกรณ์สตรีมมิ่งระดับไฮเอนด์อย่าง Nvidia Shield ที่ได้ใช้อุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเช่นกัน Switch OLED มี RAM 4 GB และที่เก็บข้อมูลแฟลช 64 GB (อัปเกรดจากรุ่นก่อน 32GB)

ผลลัพธ์ที่ได้คือมือถือไฮบริดที่สามารถแสดงผลที่ความละเอียด 720p ที่สูงถึง 60 fps ในโหมดมือถือ และ 1080p ที่สูงถึง 60 fps ในโหมดเชื่อมต่อ ส่วนความละเอียดที่ 4K และอัตราเฟรม 120 fps คือความฝันที่ไม่เป็นจริงสำหรับ Nintendo Switch OLED

นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าหากคุณเป็นเจ้าของ Nintendo Switch รุ่นธรรมดา และเล่นในโหมดเชื่อมต่อเป็นหลัก Switch OLED แทบจะไม่มีอะไรใหม่ ๆ เสนอคุณอีกแล้ว เมื่อคุณเสียบคอนโซลเข้ากับด็อค หน้าจอ OLED ขาตั้งที่ใหญ่ขึ้น และลำโพงที่ดีกว่าก็ดูแทบจะไม่มีต่างอะไรเลย

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: แผงควบคุม

รีวิว Nintendo Switch Oled แผงควบคุม

ตัวเลือกแผงควบคุมของ Nintendo Switch OLED เหมือนกับอินเทอร์เฟซและส่วนประกอบต่าง ๆ ของ Switch รุ่นธรรมดา Joy-Cons ยังคงสามารถทำงานได้เมื่อต่อเข้ากับคอนโซล และค่อนข้างไม่อยู่ตรงกลาง จึงไม่ค่อยสะดวกสบายเมื่อเสียบเข้ากับฐานแผงควบคุมเท่าไหร่นัก

แผงควบคุมนั้นเหมาะกับการเล่นเกมแบบผู้เล่นหลายคน เรายังคงแนะนำ Nintendo Switch Pro Controller ที่หากคุณจะนั่งเล่นเกมบนโซฟาเป็นเวลาหลายชั่วโมง มันจะสบายมากกว่า

Joy-Cons ของเครื่องเล่นรุ่นนี้มีทั้งสีน้ำเงินและสีแดง หรือแบบขาวดำ เราชอบโทนสีใหม่ของ Switch OLED แต่ก็กังวลว่ามันน่าจะสกปรกได้ง่าย

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: คลังเกมต่าง ๆ

Nintendo Switch Oled Game Library

Nintendo Switch OLED นำเสนอคลังเกมที่หลากหลาย เช่นเดียวกับรุ่นธรรมดาและ Switch Lite การเลือกเกมจะเหมือนกันใน 3 รูปแบบคอนโซล

คุณจะสามารถเล่นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม เช่น Breath of the Wild และ Super Mario Odyssey รวมถึงเกมยอดนิยมของบริษัทอื่น ๆ เช่น Doom (2016) และ Dragon Ball FighterZ เครื่องเล่น Switch OLED ยังเป็นเครื่องที่ยอดเยี่ยมในการเล่นเกมที่เก่ากว่า ตั้งแต่เกมคลาสสิกอย่าง Mega Man X ไปจนถึงเกมโปรดที่ใหม่กว่า เช่น The Elder Scrolls V: Skyrim

Metroid Dread: เกม Metroid แบบเลื่อนด้านข้างเกมแรกในรอบ 19 ปี ออกมาพร้อมกับ Switch OLED เกม Metroid Dread นี้อาจเป็นเกมหลักของคอนโซล การผจญภัยครั้งล่าสุดของ Samus Aran นั้นดูงดงามขึ้นมากในรุ่น OLED โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกราะสีแดงและสีน้ำเงินเข้มอันทรงพลัง และสีดำอันโอ่อ่าของเกม Planet ZDR

หากคุณมีความสนใจในเกมแบบเลื่อนด้านข้าง Metroid Dread เป็นหนึ่งในเกม Nintendo Switch ที่ดีที่สุด ดังนั้น คุณควรซื้อเกม Switch OLED หากคุณยังไม่เคยเป็นเจ้าของ Switch สักเครื่องเลย

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: อายุแบตเตอรี่

รีวิว Nintendo Switch Oled อายุแบตเตอรี่

Nintendo อ้างว่าเครื่องเล่นเกมรุ่น Switch OLED สามารถเล่นเกมได้ 4.5 – 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับเกมที่คุณเล่น Switch OLED ใช้แบตเตอรี่แบบเดียวกับเครื่อง Switch รุ่นธรรมดา ดังนั้น อายุการใช้งานแบตเตอรี่จึงอาจไม่แตกต่างกันมากนัก ในการทดสอบของเราจนถึงตอนนี้ Metroid Dread กินแบตเตอรี่ที่ชาร์จจนเต็มหมดได้ภายในเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ Nintendo

เป็นการยากที่จะทำการทดสอบการเล่นเกมเพื่อหาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ Nintendo Switch เนื่องจากกิจกรรมการเล่นเกมต่าง ๆ จะกินแบตเตอรี่ที่ต่างกัน แต่เราเลือกวิดีโอ YouTube ที่มีสีสันพร้อมการเคลื่อนไหวมากมาย จากนั้นจึงเล่นบนเครื่อง Switch รุ่นต่าง ๆ ทั้ง 4 รุ่นที่มีความสว่างหน้าจอ 100% และระดับเสียง 50% และนี่คือผลลัพธ์ของแต่ละรุ่น:

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: การเปรียบเทียบอายุแบตเตอรี่

อายุแบตเตอรี่ (ชั่วโมง:นาที)

  • Nintendo Switch OLED: 5:00
  • Nintendo Switch (รุ่นปี 2019): 4:40
  • Nintendo Switch (รุ่นเปิดตัว): 3:28
  • Nintendo Switch Lite: 3:19

Switch OLED ทำงานได้ตามที่ Nintendo สัญญาไว้ โดยให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง Switch รุ่นเปิดตัวให้เวลา 3 ชั่วโมง 28 นาที ในขณะที่ Switch Lite ใช้งานได้ 3 ชั่วโมง 19 นาที ส่วน Nintendo Switch รุ่นปี 2019 นั้นให้อายุแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างยาวนาน คืออยู่ที่ 4 ชั่วโมง 40 นาที

 

รีวิว Nintendo Switch OLED: สรุปภาพรวม

โดยรวมแล้ว Nintendo Switch OLED ถือว่าเป็นระบบที่ยอดเยี่ยม เพราะ Nintendo Switch รุ่นธรรมดาก็ยังคงเป็นระบบที่ยอดเยี่ยม แล้ว Switch OLED ได้เพิ่มส่วนเสริมอย่างชาญฉลาดขึ้นมาอีก ทั้งหน้าจอ OLED ดูน่าประทับใจ การปรับปรุงขาตั้งให้ดูเล็กลง ปรับปรุงคุณภาพลำโพง ด็อค และที่เก็บข้อมูลยังช่วยแก้ไขข้อบกพร่องในรุ่นธรรมดาอีกด้วย

แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ไม่น่าพอใจเกี่ยวกับ Switch OLED หลังจากการอัปเกรด 4 ปี มันยังคงมีส่วนประกอบของตัวเครื่องแบบเดิม ๆ ความละเอียดเท่าเดิม และตัวควบคุมเดียวกัน จึงทำให้ดูไม่มีอะไรใหม่เมื่อเทียบกับคอนโซลรุ่นใหม่ทั้งหมดในตลาด แม้แต่หน้าจอ OLED ก็ไม่สามารถทำให้ Switch รู้สึกเล่นเกมได้ไหลลื่นหรือทรงพลังเป็นพิเศษใด ๆ

Switch OLED เป็นเครื่องเล่นเกมที่มีระบบที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าพิจารณาถึงสิ่งที่เป็นไปได้ Switch OLED อาจเป็นเพียงจุดแวะพักก่อนที่ Nintendo จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พร้อมแนวคิดสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่จะพัฒนาเครื่องเล่นเกมให้ดูว้าวกว่าเดิมได้

  • รัฐธนา เหลืองธาดา
    นักเล่นเกมมืออาชีพและนักเขียนเกม

    มาร์ค เป็นเกมเมอร์มืออาชีพ มีและหนึ่งในสมาชิกของทีม Esports ไทยมากว่า 5 ปี หรือที่รู้จักในชื่อ 'Viper' ผ่านการแข่งขันเกมระดับสูงสุดในทัวร์นาเมนต์ Esports ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน และเติบโตจากผู้เล่นในทีมมาเป็นโค้ชและผู้จัดการทีม Alpha Red Esports สามารถเล่นได้ทั้งเกมคอนโซลและพีซีโดยเน้นที่พีซีเป็นหลัก จึงมีประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการทดลองใช้คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการเลือกเฟ้นเก้าอี้เล่นเกม คีย์บอร์ด เมาส์ที่แตกต่างกันด้วย

  • กิตติพงษ์ โยธาภักดี
    นักเขียนเทคโนโลยี

    ณัฐ เป็นกูรูด้านเทคโนโลยีและไอทีประจำ Pro Review โดยอยู่ในวงการไอทีมานานกว่า 10 ปี โดยสร้างเนื้อหา ข่าวสาร และบทวิจารณ์สินค้าสำหรับเว็บไซต์เทคโนโลยีหลายแห่งในประเทศไทย จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอกภาษาอังกฤษ ทำให้เขาติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทั่วโลกและติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ และข่าวล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทดลองใช้สินค้าไอทีก่อนที่จะวางจำหน่าย ทำให้บทความของเขาเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด