มือถือรุ่นนี้มีจอขนาดใหญ่พอ ๆ กับปริมาณเงินที่คุณต้องควักจ่าย
ที่จริงเรายังไม่ค่อยอยากแนะนำ Redmi Note 11 Pro 5G เท่าไหร่ แต่ถ้าคุณมีงบประมาณจำกัดจริง ๆ ก็ควรเก็บมือถือรุ่นนี้ที่มีราคาค่อนข้างถูกไว้พิจารณา
อย่างแรกที่ Note 11 Pro 5G ทำพลาดคือไม่ได้ใส่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 12 มาให้เลย แต่ก็มีข้อดีที่มีพลังในการชาร์จสูงถึง 67 วัตต์ ชาร์จได้ไวกว่ามือถือในช่วงราคาใกล้เคียงกันแทบจะทุกรุ่น และเช่นเดียวกันกับ Redmi Note 10 Pro จอแสดงผลสุดปังของ Note 11 Pro 5G ก็ช่วยให้เราพอจะลืม ๆ ข้อเสียของมันไปได้บ้าง
Redmi Note 11 Pro 5G ต้องเจอกับคู่แข่งราคาประหยัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น iPhone SE, Galaxy A53 และ Galaxy A33 จากซัมซุง รวมไปถึงตัวเลือกที่น่าสนใจจาก OnePlus (OnePlus Nord 2T และ OnePlus Nord CE)
Redmi Note 11 Pro 5g: คุณสมบัติจำเพาะ
- ราคา: 10,990 บาท
- จอแสดงผล: OLD 6.67 นิ้ว (2400 x 1080)
- อัตรารีเฟรชหน้าจอ: 60Hz/120Hz
- กล้องหลัง: เลนส์หลัก 108MP (f/1.9), เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (f/2.2), เลนส์มาโคร 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า: 16MP (f/2.4)
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 695
- RAM: 6GB
- ความจุข้อมูล: 128GB
- ความจุแบตเตอรี่: 5,000 mAh
- พลังในการชาร์จ: 67 วัตต์แบบใช้สาย
- ซอฟต์แวร์: แอนดรอยด์ 11 พร้อม MIUI 13
- ขนาด: 6.46 x 2.9 x 0.31 นิ้ว
- น้ำหนัก: 202 กรัม
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: ราคาและการวางจำหน่าย
Redmi Note 11 Pro 5G มีเพียงรุ่นเดียว และวางจำหน่ายอยู่ที่ราคา 10,990 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาของ Nord CE 2 อยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังถูกกว่าคู่แข่งตัวเป้งอย่าง iPhone SE (17,900 บาท) OnePlus Nord 2T (14,990 บาท) Samsung Galaxy A33 (11,999 บาท) และ Pixel 6a (12,990 บาท)
ถ้าคุณอยากลดงบในการซื้อมือถือตระกูล Note 11 ลงอีก ก็อาจจะต้องหันไปมอง vanilla Note 11 (6,499 บาท) หรือ Note 11 Pro (8,990 บาท) ที่ไม่รองรับสัญญาณ 5G แต่ถ้าอยากล้ำไปกว่ารุ่นนี้และพร้อมจ่ายเพิ่มเป็น 12,500 บาท ก็มี Note 11 Pro Plus 5G ที่ชาร์จสุดไวอยู่ที่ 120 วัตต์ ส่วนตัวแล้วเราชอบรุ่น Pro 5G เพราะมันคือจุดตรงกลางที่เหมาะสมทั้งในแง่ของคุณสมบัติและราคา เราเลยเลือกที่จะรีวิวรุ่นนี้โดยละเอียด
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: ดีไซน์
ดูเหมือนว่า Redmi จะมี iPhone เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ เพราะสมาร์ทโฟน Redmi ตระกูล Note 11 มาพร้อมกับด้านข้างที่เรียบและหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว เหมือน iPhone 13 Pro Max แต่มีน้ำหนักเบาและถือได้สะดวกกว่าเพราะใช้พลาสติกเป็นวัสดุแน่นอนว่าคุณอาจจะรู้สึกว่าดีไซน์มือถือ Redmi รุ่นนี้ดูมีราคาถูก แต่มันก็สมราคากับคุณสมบัติที่มือถือช่วงราคาเดียวกันรุ่นอื่น ๆ ไม่มีให้
ปุ่มเปิดปิดที่ใช้ระบบอ่านลายนิ้วมือของ Note 11 Pro 5G จะอยู่ที่บริเวณขอบด้านข้าง สามารถใช้งานได้ดีอยู่ มีเทคโนโลยี Face ID และเซ็นเซอร์ใต้จอ ทั้งนี้เจ้าตัวอ่านลายนิ้วมือนี้ออกจะทำงานไวไปสักนิด เพราะแค่ถือเบา ๆ ก็อาจจะไปกระตุ้นตัวเซ็นเซอร์ได้ทำให้มือถือสั่นเพื่อแจ้งเตือน
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่บางคนอาจจะคิดว่าเชยจาก Redmi คือยังมีรูเสียบหูฟังที่อยู่ด้านบนของโทรศัพท์ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับคนที่ยังไม่มีหูฟังไร้สายเป็นของตัวเอง
Redmi เปิดโอกาสให้คุณเลือกซื้อ Note 11 Pro 5G ใน 3 สีด้วยกันคือ เทากราไฟต์ น้ำเงินแอตแลนติก และขาวโพลาร์
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: จอแสดงผล
Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมกับจอแสดงผล AMOLED FHD ขนาด 6.67 นิ้วและอัตราการรีเฟรช 120Hz สุดปัง เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่วางจำหน่ายอยู่ทุกวันนี้ จะมีข้อเสียเล็ก ๆ คืออัตราการรีเฟรชจอไม่สามารถปรับได้อัตโนมัติ ทำให้คุณต้องคอยตั้งค่าระหว่าง 60Hz และ 120Hz ด้วยตัวเอง ซึ่งแปลว่าคุณต้องเลือกระหว่างกราฟิคที่ลื่นไหลหรือระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานขึ้น
อีกหนึ่งสิ่งที่ยังไม่น่าประทับในเรื่องจอแสดงผลของ Note 11 Pro 5G คือความหนาของขอบจอ แม้จะทำให้หมดกังวลเรื่องมือบังจอขณะใช้งาน แต่ในเชิงรูปลักษณ์มันออกจะดูเชยไปนิด
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: กล้องถ่ายรูป
กล้องหลังของ Redmi Note 11 Pro 5G มี 3 เลนส์ด้วยกันคือ เลนส์หลักความละเอียด 108MP เลนส์อัลตร้าไวด์ความละเอียด 8MP และเลนส์มาโครความละเอียด 2MP
เราลองเปรียบเทียบเลนส์มาโครของ Note 11 Pro 5G กับ Galaxy A53 ที่มีเซนเซอร์ความละเอียด 5MP ในตัว
อย่างที่คิดไว้ เซนเซอร์ที่คุณภาพสูงในรุ่นพี่ที่ราคาแพงกว่าของซัมซุงจะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า โดยสีที่ได้จาก A53 จะดูเพี้ยน ๆ ไปบ้าง และมีคอนทราสต์สูงเกินไป ทำให้รวม ๆ แล้วรูปที่ได้ออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
แต่ก็ใช่ว่ารูปจากกล้องของ Redmi จะดีไปกว่ากัน เพราะมันขาดความคมชัดไปมาก โดยเฉพาะถ้าคุณอยากถ่ายภาพระยะใกล้ แต่ยังทำได้ดีกว่า A53
สมาร์ทโฟนจากซัมซุงจะประมวลภาพออกมาได้เป็นสีโทนอุ่น แต่สำหรับเราทั้งซัมซุงและ Redmi ยังไม่มีใครเด่นไปกว่ากันในเรื่องความคมชัดและการเก็บรายละเอียดโทนสี แต่สามารถแยกวัตถุออกจากพื้นหลังได้ดีพอ ๆ กัน
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: ประสิทธิภาพในการทำงาน
หนึ่งในวิธีลดต้นทุนของ Redmi คือการลดงบของชิปเซ็ตลง โดยเลือกใช้เป็นตัว Snapdragon 695 ที่รองรับสัญญาณ 5G ได้แต่ความแรงต่ำ แถมทั้งหน่วยประมวลผลและการ์ดจอก็มีประสิทธิภาพในการทำงานค่อนข้างแย่ แค่เทียบกับชิปเซ็ตของ Galaxy A53 ก็สู้ไม่ได้แล้ว ไม่ต้องคิดจะเอาไปเทียบกับซิลิคอนทรงพลังของ iPhone SE เลย
แต่เรื่องหน่วยความจำ Redmi ไม่งกเลย ใส่มาให้คุณเลือกได้ระหว่าง RAM 6GB กับความจุข้อมูล 128GB หรือจะเปย์เพิ่มเอา RAM 8GB เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดก็ได้
ความจุข้อมูลก็เช่นเดียวกัน Note 11 Pro รุ่นพื้นฐานมาพร้อมกับ RAM 6GB และความจุข้อมูล 64GB ซึ่งถือว่าน้อยสำหรับสมาร์ทโฟนในปี 2022 แต่ยังดีที่คุณสามารถซื้อรุ่นที่ดีขึ้นได้ถ้าคุณพร้อมจ่ายเพิ่มคือ เพิ่มความจุข้อมูลเป็น 128GB พร้อม RAM 6GB หรือ 8GB หรือไม่ก็เพิ่มหน่วยความจำ SD Card ที่สามารถเพิ่มความจุได้มากถึง 1TB
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: แบตเตอรี่และการชาร์จ
เพราะว่านี่ไม่ใช่การทดสอบแบตเตอรี่อย่างเป็นทางการ เราเลยใช้ Redmi ลองเล่นวีดีโอความละเอียด 1080p เป็นเวลา 2 ชั่วโมงบน YouTube ดู และพบว่าแบตลดลงไปแค่ 8% เท่านั้น สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh ซึ่งแปลว่าผู้ใช้งานแค่เรื่องทั่ว ๆ ไปจะสามารถใช้งานได้ยาวทั้งวันหลังการชาร์จจนเต็ม 1 ครั้ง
นอกจากจะเลิศที่ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่มาใน Note 11 Pro 5G แล้ว Redmi ยังจัดเต็มเรื่องการชาร์จไว แถมที่ชาร์จแบตที่ให้คุณชาร์จไวถึง 67 วัตต์ ทำให้มันชาร์จแบตได้ 50%ภายใน 15 นาที เท่านั้น และชาร์จเต็มภายใน 42 นาที ตามที่ Redmi ได้บอกไว้ ในขณะเดียวกัน iPhone SE ที่มีราคาแพงกว่าสามารถชาร์จได้ 61% ภายในเวลา 30 นาที
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: ซอฟต์แวร์
ต่อให้หน้าตาและเมนูการใช้งานของ Redmi Note 11 Pro 5G จะดูดีพอใช้ได้ แต่ก็ค่อนข้างน่าผิดหวังที่ Redmi ใส่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 11 มาพร้อมกับตัวเครื่อง แทนที่จะเป็นระบบปัจจุบันอย่างแอนดรอยด์ 12 การที่ Redmi เลือกที่จะไม่ใช่ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ทำให้ต้องตามหลังคู่แข่งไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ก็น่าชื่นใจที่บริษัทแม่ของ Redmi อย่าง Xiaomi สัญญาว่าสมาร์ทโฟนตระกูล Note 11 จะรองรับการอัพเดทแอนดรอยด์นาน 3 ปี และรองรับการอัพเดทระบบรักษาความปลอดภัยนาน 4 ปี ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะสามารถใช้งานได้ไปจนถึงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 14 ดังนั้น แม้ Xiaomi จะจัดการปัญหานี้ได้ด้วยการอัพเดท MIUI แต่เราก็แอบไม่สบายใจที่ยังต้องใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ล้าหลังไป 1 ปี แต่ในแง่ของการใช้งานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และสามารถใช้งานได้ยาวไปหลายปี
รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G: สรุป
Note 11 Pro ถือเป็นรุ่นที่น่าสนใจอีกรุ่นจาก Redmi รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่ขนาดใหญ่สะใจและใช้งานได้นานสมราคา เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของจอแสดงผลที่ดี ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีงาม และความสามารถในการชาร์จแบตด้วยความไวแสง ทำให้มันขึ้นแท่นเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้สะดวกสุด ๆ สำหรับคนที่ใช้ทำงานเบา ๆ เช่น ท่องเว็บ หรือดูวีดีโอออนไลน์ แต่ก็น่าเสียดายที่ CPU ไม่แรงพอจะใช้งานแอปพลิเคชันหนัก ๆ หรือใช้เล่นเกมได้ดี ดังนั้น ถ้า 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของคุณ ก็ดีกว่าถ้าคุณหันไปซื้อ iPhone SE 3 หรือ OnePlus Nord 2T ก็ได้ถ้า Apple แพงเกินไป
แต่ถ้าคุณเป็นสาวกแอนดรอยด์ มีงบเพิ่มอีกนิด Nord CE2 ก็ใช้ถ่ายรูปได้ดีและชาร์จแบตได้ไวพอ ๆ กับ Redmi จะมีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่ราคาแพงไปนิด หรือจะลอง Pixel 6a ที่คุ้มค่าจะควักเงินจ่ายเพิ่มก็ได้
ดูรีวิวโทรศัพท์อื่นๆ: