หน้าสารบัญ
Samsung ไม่ได้ใส่นวัตกรรมใหม่สุดล้ำลงไปใน Galaxy S22 เพราะมันไม่จำเป็นเลย
คุณกำลังพลาดอย่างแรงถ้าคุณกำลังคิดจะมองข้าม Samsung Galaxy S22 ไป เพราะต่อให้โทรศัพท์รุ่นเริ่มต้นจาก Samsung ในปีนี้จะขาดฟีเจอร์ระดับพรีเมียมแบบที่ Galaxy S22 Ultra มี และไม่ได้มีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นอย่าง Galaxy S22 Plus แต่การที่คุณตั้งใจมองแต่สิ่งที่ S22 ขาดไปเป็นสิ่งที่ผิดอย่างร้ายแรง
เราว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าคุณลองมองมุมกลับว่า Galaxy S22 มีอะไรดีที่ทำให้มันกลายเป็นโทรศัพท์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาบ้าง
ถ้าคุณตัดสินใจซื้อโทรศัพท์ Samsung รุ่นนี้มาใช้ คุณจะได้สมาร์ทโฟนที่ประมวลผลด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 1 แบบเดียวกันกับที่ Samsung ใช้ในรุ่นท็อปตัวอื่น ๆ ของ S22 และแน่นอนว่าคุณจะได้ใช้หน้าจอที่สว่างและกล้องถ่ายรูปที่น่าประทับใจเช่นเดียวกันกับ S22 Plus โดยทั้งหมดนี้มาในราคาเริ่มต้นเพียง 29,900 บาท (ถูกกว่ารุ่นถัดไป 5,000 บาท)
- Samsung Galaxy S22 Ultra
- #1
- Samsung Galaxy S22
- #2
- iPhone 14 Pro Max
- #3
อย่างไรก็ตาม Galaxy S22 อาจจะไม่ใช่โทรศัพท์ที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมจัดเต็มในโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว แต่จากการทดสอบ Samsung Galaxy S22 ของเราก็พบว่ามันมีฟีเจอร์ปัง ๆ มากพอที่จะสร้างความประทับใจให้กับเราจนยกมันเป็นหนึ่งในโทรศัพท์ Samsung ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของราคาที่ไม่ทำให้กระเป๋าฉีก
และถ้าคุณยังไม่ยอมเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เพราะราคาของโทรศัพท์รุ่นดังต่าง ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ เราก็คิดว่า Galaxy S22 น่าจะเป็นที่น่าพอใจสำหรับคุณ เพราะมันมีคุณสมบัติระดับพรีเมียมพอประมาณในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป
รีวิว Samsung Galaxy S22: ราคา
ราคาเริ่มต้นของ Galaxy S22 อยู่ที่ 29,900 บาทสำหรับความจุ 128GB แต่ถ้าคุณอยากได้พื้นที่เพิ่มก็สามารถจ่ายมากขึ้นอีกแค่ 2,000 บาทเพื่อเพิ่มความจุเป็น 256GB (โดยเราใช้ Galaxy S22 ที่ความจุ 256GB ในการรีวิวครั้งนี้)
บางทีถ้าคุณเจอโปรโมชั่นดี ๆ คุณก็สามารถครอบครอง Galaxy S22 ได้ในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติอีกนะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโปรโมชั่นให้คุณเอาเครื่องเก่าเข้าไปแลกรับเครื่องใหม่ หรือชวนคุณสมัครโปรโมชั่นอินเทอร์เน็ตไม่อั้น (หรืออาจจะทั้งสองอย่าง) เพื่อที่คุณจะได้ราคาที่ดีที่สุดมา
และเมื่อคุณได้มันมาอยู่ในมือแล้ว อย่าลืมอ่านรายชื่อฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ของ Samsung Galaxy ที่เรารวบรวมไว้ให้ แล้วประสบการณ์การใช้งานโทรศัพท์ของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
รีวิว Samsung Galaxy S22: ดีไซน์
หลังจากที่ Samsung ลองใช้โพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุด้านหลังของ Galaxy S21 ก็ตัดสินใจอัปเกรดมาใช้วัสดุที่ดีขึ้นอย่างแถบอลูมิเนียมกลางเครื่องและใช้ด้านหลังเป็นกระจกของ Gorilla รุ่น Victus Plus แทน
ซึ่งวัสดุที่เปลี่ยนใหม่นี้ทำให้ Galaxy S22 ดูหรูหราขึ้นกว่า Galaxy S21 FE ที่มาในราคาถูกกว่าหลายพันแต่ดูเป็นโทรศัพท์พลาสติกก๊องแก๊งมาก
แต่นอกจากวัสดุที่ได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนแล้ว ดีไซน์อื่น ๆ ก็ยังเหมือนเดิม เช่น การเรียงตัวของกล้องหลังสามตัวและตัวกันกระแทกที่ถูกวางไว้อย่างดีทำให้ดูกลมกลืนไปกับตัวเครื่อง
สิ่งที่แตกต่างกันคือกล้องของ Galaxy S21 จะมีสีที่ไม่เหมือนกับส่วนอื่น ๆ ของเครื่อง แต่สีของกล้อง Galaxy S22 จะใช้สีเดียวกันกับตัวเครื่องทำให้ดูกลมกลืนสบายตามากขึ้น
ซึ่ง Galaxy S22 Plus ก็มีตัวเลือกเฉดสีให้คุณเลือกเช่น Phantom Black, Phantom White, Green และ Pink Gold และถ้าคุณซื้อโทรศัพท์กับ Samsung โดยตรงจะมีสีให้เลือกมากกว่าที่อื่นคือ Graphite, Cream, sky blue และ violet
รีวิว Samsung Galaxy S22: จอแสดงผล
Samsung ปรับปรุงเรื่องความสว่างของหน้าจอรุ่น Galaxy S22 ทั้งหมด แต่สำหรับ Galaxy S22 Plus และ S22 Ultra จะมีความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 1,750 นิต ซึ่งสูงกว่าความสว่างสูงสุดของ S22 ที่ 1,300 นิต แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
ในการใช้งานจริง คุณจะไม่เจอกับปัญหามองหน้าจอไม่เห็นจาก Galaxy S22 ในที่แสงสว่างจ้าเลย แต่คุณอาจจะต้องเพิ่มความสว่างให้สุดเพื่อให้เห็นครบทุกรายละเอียด และเมื่อคุณเพิ่มความสว่างของหน้าจอ เทคโนโลยี Vision Booster ของ Samsung จะไม่เพียงแต่ช่วยคุณปรับความสว่างเพียงเท่านั้น แต่จะช่วยปรับคอนทราสต์ของสีด้วย ทำให้สีบนหน้าจอไม่จางลงและช่วยให้คุณมองหน้าจอได้ง่ายขึ้น
และแน่นอนว่าคุณจะต้องรักที่จะใช้ Galaxy S22 ในการดูวีดีโอ เพราะมันถูกพิสูจน์ด้วยภาพยนตร์รีเมคเรื่อง West Wide Story ของ Steven Spielberg แล้วว่าจอแสดงผลสุดปังสามารถปรับไปตามโทนสีที่เปลี่ยนไปของภาพอย่างสบาย ๆ นอกจากนี้แล้วตอนที่เราใช้โทรศัพท์ดูตัวอย่างหนังเรื่อง Cyrano ที่มีฉากที่มืด ๆ ค่อนข้างเยอะ ก็ยังเห็นรายละเอียดของภาพค่อนข้างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเพราะ S22 มีวิธีการจัดการกับภาพที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นที่รู้กันว่า Galaxy S22 มีดีเหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ในช่วงราคาเดียวกันอย่าง iPhone 13 และ Pixel 6 เพราะ Samsung เลือกที่จะใช้รีเฟรชเรทของหน้าจอที่ 120Hz แปลว่าผู้ใช้จะรู้สึกว่าใช้งาน Galaxy S22 ได้ลื่นไหลกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone 13 ที่มีรีเฟรชเรทอยู่ที่ 60Hz
รีวิว Samsung Galaxy S22: กล้อง
Samsung ยังตั้งค่าเริ่มต้นของกล้องถ่ายรูป Galaxy S22 เหมือนที่ทำไว้กับ Galaxy S21 แต่ก็มีปรับปรุงฮาร์ดแวร์บางส่วนได้อย่างน่าชื่นชม เช่น การเอากล้องหลักความละเอียด 50MP มาแทนที่กล้องเลนส์ไวด์ที่มีความละเอียดแค่ 12MP อย่างรุ่นก่อน ที่สำคัญคือ Samsung ได้เพิ่มขนาดของเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้นถึง 23% ทำให้รับแสงได้มากขึ้น และช่วยยกระดับประสิทธิภาพการถ่ายรูปในสภาพแสงน้อยให้ได้มากที่สุด
และเพื่อให้เห็นกับตาว่ากล้องของ Galaxy S22 ทำงานได้ดีเหมือนที่ได้ยินมา เราเลยเอาโทรศัพท์รุ่นใหม่จาก Samsung รุ่นนี้มาถ่ายเพื่อทดสอบประสิทธิภาพข้าง ๆ Google Pixel 6 และ iPhone 13 ไปเลย ซึ่งเราค่อนข้างพอใจกับประสิทธิภาพในการถ่ายรูปทั้งในสภาพแสงน้อยและไม่มีแสง แต่รูปที่ออกมามันก็ไม่ได้ดูดีมากไปกว่ารูปจากกล้องมือถือรุ่นอื่น ๆ และปัญหาเรื้อรังเรื่องสีที่จ้าไปของกล้องมือถือ Samsung ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขบน S22
เลนส์หลักไม่ใช่อย่างเดียวที่ Samsung เพิ่มเข้ามาใน Galaxy S22 แต่มีการลดขนาดเซ็นเซอร์ของเลนส์เทเลโฟโต้ลงจาก 64MP เป็น 10MP แต่ไปเพิ่มคุณภาพการซูมแบบออปติคอล 3 เท่าให้ดีขึ้นแทนการซูมแบบไฮบริดที่เคยใช้กับ Galaxy S21 ผลก็คือคุณจะได้รูปที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้นถ้าซูมเข้าไปดูรูปใกล้ ๆ
แน่นอนว่ากล้องถ่ายรูปของ Galaxy S22 ได้รับการปรับปรุงอย่างจัดเต็ม โดยเฉพาะในเรื่องของการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและรูปถ่ายบุคคล แต่สิ่งที่ยังรั้งไม่ให้ Samsung ชนะอย่างขาดลอยได้คือการที่คู่แข่งที่เน้นเรื่องกล้องมือถือเหมือนกันอย่าง Apple และ Google ก็ไม่ยืนอยู่เฉย ๆ ให้ถูกแซง ดังนั้นถ้า Samsung อยากจะชนะแบบทิ้งไม่เห็นฝุ่นก็ต้องปรับปรุงเรื่องของสีสักหน่อย
รีวิว Samsung Galaxy S22: ประสิทธิภาพในการทำงาน
โทรศัพท์จาก Samsung รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับ S22 รุ่นอื่น ๆ แต่ในประเทศอื่น ๆ Samsung จะใช้ชิปเซ็ตของตัวเองที่เรียกว่า Exynos 2200 ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีพอกัน
ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ Samsung เลือกใช้ชิปเซ็ตนี้ เพราะ Snapdragon 8 Gen 1 ช่วยเสริมให้ประสิทธิภาพในการทำงานของโทรศัพท์แอนดรอยด์ดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งจากการให้คะแนนโดย Geekbench 5 ที่วัดการทำงานโดยรวมของโทรศัพท์ Galaxy S22 ได้คะแนน single อยู่ที่ 1,164 คะแนน และคะแนน multicore อยู่ที่ 3,540 คะแนน
ซึ่งคะแนนที่ว่านั้นดีกว่าคะแนน 1,029 และ 2,696 คะแนนของ Pixel 6 ที่ใช้ชิป Tensor เสียอีก ส่วน OnePlus 10 Pro ที่เปิดตัวหลัง Galaxy S22 ทำคะแนน multicore บน Geekbench 5 นำหน้าโทรศัพท์จาก Samsung ไปด้วยคะแนน 3,482 คะแนน โดยโทรศัพท์จาก OnePlus มักจะอัดแน่นไปด้วยหน่วยความจำ RAM เป็นหลัก
อุปสรรคใหญ่ของ Samsung และยังเป็นอุปสรรคของมือถือแอนดรอยด์ทั้งหมดคือ ชิปของ Apple ยังคงมีประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าอยู่ดี โดย iPhone 13 นั้นได้คะแนน single-core จาก Geekbench อยู่ที่ 1,684 คะแนน และคะแนน multicore อยู่ที่ 4,129 คะแนน ทิ้งห่าง Galaxy S22 ไปแบบไม่เห็นฝุ่น
อย่างที่รู้กันว่า Samsung ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องสัญญาณ 5G และ Galaxy S22 ก็สามารถเชื่อมต่อกับทั้งสัญญาณ mmWave และ sub-6GHZ ได้ โดย Galaxy S22 จะใช้โมเด็มตัวท็อปอย่าง Snapdragon X65 จาก Qualcomm ไปก่อน จนกว่าที่รุ่น X70 จะเริ่มส่งของในช่วงปลายปี 2565 นี้
รีวิว Samsung Galaxy S22: แบตเตอรี่และการชาร์จ
Samsung ไม่เพียงแต่จะลดขนาดของหน้าจอ Galaxy S22 ให้เล็กกว่า Galaxy S21 เท่านั้น แต่ความจุแบตเตอรี่ก็ลดลงในโทรศัพท์รุ่นล่าสุดปีนี้เช่นกัน โดยเหลือเพียงความจุ 3,700 mAh แทนที่จะเป็น 4,000 mAh เหมือนรุ่นก่อน
ไม่แน่ว่า Samsung อาจจะคิดว่าชิปเซ็ตตัวใหม่ที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมไปถึงหน้าจอที่ปรับความสว่างได้อัตโนมัติจะช่วยทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ Galaxy S22 นานขึ้นได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการคาดการณ์ที่ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่
และเช่นเดียวกันกับโทรศัพท์ทุกเครื่องที่เราทำการทดสอบ เราได้ลองตั้งค่าความสว่างหน้าจอของ Galaxy S22 ให้อยู่ที่ 150 นิตและลองท่องเว็บผ่าน 5G ดูจนกว่าแบตจะหมด ปรากฏว่าเราใช้งาน Galaxy S22 ได้อยู่แค่ 7 ชั่วโมง 51 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าแย่กว่าระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ทั่ว ๆ ไปกว่าสองชั่วโมง
แต่ถ้าถามถึงการใช้งานทั่วไปในทุก ๆ วัน Galaxy S22 จะไม่แบตหมดระหว่างวันแน่นอน เราลองใช้มันเล่นเกม ดูวีดีโอ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เน้นใช้รีเฟรชเรทของโทรศัพท์อย่างหนักหน่วงประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็พบว่าแบตเตอรี่ลดลงจาก 97% ไปอยู่ที่ประมาณ 77% ซึ่งก็ถือว่าโอเค เพียงแต่ว่าโทรศัพท์จาก Apple ใช้งานได้นานกว่าเท่านั้นเอง
รีวิว Samsung Galaxy S22: ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์พิเศษ
Samsung เลือกที่จะเปิดตัวอินเทอร์เฟซใหม่ล่าสุดอย่าง One UI 4.1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 12 พร้อมกับ Galaxy S22 ซึ่งถ้าคุณชอบ One UI เวอร์ชั่นก่อนหน้าของ Samsung คุณก็น่าจะชอบเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดนี้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Samsung เพิ่มคุณสมบัติการปรับแต่งและความเป็นส่วนตัวเข้าไป ทำให้คุณสามารถดูได้ว่ามีแอปไหนบ้างที่กำลังขออนุญาตคุณทำงานต่าง ๆ อยู่ และคุณสามารถจัดการคำร้องขอจากหลาย ๆ แอปได้คล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้แล้ว Samsung และ Google ยังนำฟีเจอร์ live sharing มาใช้กับ Google Duo เพื่อให้คุณสามารถดูรูปถ่ายและจดบันทึกไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ในการประชุมวีดีโอคอลได้ด้วย
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพูดถึงคือการที่ Samsung ขยายระยะเวลาการซัพพอร์ตซอฟต์แวร์เริ่มตั้งแต่ Galaxy S22 เป็นต้นไป ทำให้คุณยังสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์แอนดรอยด์ต่อไปได้อีก 4 ปี และด้านความปลอดภัยอีก 5 ปี ซึ่งใกล้เคียงกับระยะเวลาการซัพพอร์ตของ Apple และมากกว่าโทรศัพท์แอนดรอยด์เจ้าอื่น ๆ
ระบบเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือใต้จอของ Galaxy S22 ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน เพราะตอบสนองได้ไวและอยู่ในที่ที่หาได้ง่าย ไม่มีดีเลย์หรืออ่านผิดพลาดเหมือนกับที่เราเจอใน Pixel 6
รีวิว Samsung Galaxy S22: ข้อสรุป
หลาย ๆ คนบอกว่า Galaxy S22 ไม่ใช่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ Samsung ซึ่งเราก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องก้าวไปไกลขนาดนั้น เพราะการที่ Samsung ยืดระยะเวลาการซัพพอร์ตซอฟต์แวร์ออกไปอีกปีทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์เครื่องเดิมนานขึ้น และคนที่ใช้ Galaxy S21 อยู่ก็น่าจะยังไม่ได้มีความต้องการจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่
เลยเป็นที่รู้กันว่า Galaxy S22 น่าจะเน้นขายคนที่มีโทรศัพท์รุ่นเก่าอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป เพราะถ้าคุณใช้โทรศัพท์รุ่นที่ออกขายตั้งแต่ปี 2562 หรือก่อนหน้าอยู่ ก็น่าจะเห็นพัฒนาการที่แตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเปลี่ยนไปใช้ Galaxy S22 ดังนั้นนี่จึงเป็นก้าวที่สำคัญของ Samsung ในแง่ของคุณภาพจอแสดงผลและกล้องถ่ายรูปที่โดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และตามที่ Samsung ได้โม้ไว้ว่าตัวเองผลิตโทรศัพท์ที่ดีที่สุดออกมาสู่ตลาด แน่นอนว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ชั้นเลิศจาก Galaxy S22 Ultra แต่ถ้าคุณก็อยากได้รับประสบการณ์ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องควักเงินเกิน 35,000 บาทซื้อโทรศัพท์ใหม่ Galaxy S22 ก็คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ