คู่แข่งของ iPad Pro จาก Samsung ตัวนี้มาในดีไซน์บางเฉียบและคุณสมบัติที่น่าประทับใจจนทำให้ผู้ใช้ Apple ต้องอิจฉา
Samsung Galaxy Tab S7 คือแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ผู้ใช้ iPad น่าจะรู้สึกคุ้นมือที่สุด เพราะมันคล้ายกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องอะลูมิเนียม จอภาพที่สวยงาม และลำโพงที่ให้เสียงเพราะ จนทำให้มันเป็นคู่แข่งที่สูสีกับ iPad รุ่นที่ดีที่สุดได้เลยทีเดียว
แน่นอนว่า Tab S7 ไม่ได้ด้อยไปกว่าผลิตภัณฑ์จาก Apple เลย เพราะแค่เรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวกว่า iPad Pro ก็ทำให้ Galaxy Tab S7 ขึ้นแท่นเป็นทั้งหนึ่งในแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ดีที่สุดและแท็บเล็ตที่ดีที่สุดโดยรวม ณ เวลานี้แล้ว จะมีข้อเสียที่ทำให้ไม่สามารถไต่อันดับขึ้นไปสูงกว่านี้ ก็คือเรื่องของคีย์บอร์ดที่ใช้งานลำบากและประสิทธิภาพในการทำงานที่ยังไม่ค่อยดีนัก
ซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาแท็บเล็ตจาก Samsung รุ่นล่าสุดอยู่ ให้ลองอ่านบทความ Samsung Galaxy Tab S8 ของเราดู
แต่ตอนนี้มาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่า ว่าทำไม Samsung ถึงกำลังจะไล่ตาม Apple ทันแล้ว รวมไปถึงทำไม iPad Air รุ่นปี 2020 ยังเหนือกว่า Tab S7 และอะไรที่ Samsung สามารถเอาชนะ Apple ได้แล้ว
- Samsung Tab S7
- #1
- Samsung Tab S8
- #2
- Samsung Tab S8 Ultra
- #3
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: วันที่วางจำหน่ายและราคา
Galaxy Tab S7 และ S7 Plus วางขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2021 โดยราคาเริ่มต้นของ Tab S7 อยู่ที่ 22,900 บาท ส่วน Tab S7 Plus เริ่มต้นที่ 33,900 บาท
ในเรื่องของการเชื่อมต่อ คุณจะต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 4,000 บาท เพื่ออัพเกรดเป็นรุ่นที่สามารถใช้ LTE ได้ และต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 6,000 บาท สำหรับคนที่อยากใช้งานสัญญาณ 5G ซึ่งราคาเครื่อง Galaxy Tab S7 LTE ราคาอยู่ที่ 26,900 บาท และ Tab S7 5G ราคาอยู่ที่ 28,900 บาท ส่วน Galaxy Tab S7 Plus LTE ราคา 33,900 บาท และ Tab S7 Plus 5G ราคาขึ้นไปอยู่ที่ 39,900 บาท เลยทีเดียว
เช่นเดียวกันกับอุปกรณ์เสริม Smart Keyboard Folio และ Magic Keyboard ของ iPad Pro คุณก็สามารถซื้อ Book Cover และ Book Cover Keyboard มาใช้กับ Galaxy Tab S7 ได้เช่นกัน ราคาของ Book Cover Keyboards อยู่ที่ 5,990 บาท สำหรับ Tab S7 และ 4,990 บาท สำหรับ Tab S7 Plus ส่วนราคาของ Book Cover Cases อยู่ที่ 1,990 บาท สำหรับ Tab S7 และ 2,990 บาท สำหรับ Tab S7 Plus ซึ่งอุปกรณ์เสริมทั้งสองตัวจะช่วยให้คุณเก็บ S-Pen ไว้กับเคสไม่ให้ตกหายไปได้เป็นอย่างดี
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: ดีไซน์
Galaxy Tab S7 มาพร้อมกรอบแบบอะลูมิเนียมและขอบจอที่ค่อนข้างบาง มีสีให้เลือกซื้อ 3 สีด้วยกันคือ Mystic Black, Mystic Silver และ Mystic Bronze โดยรวมแล้วตัวเครื่องดูคล้ายกับ iPad Pro ปี 2018 และ 2020 มาก
ด้วยขนาด 10 x 6.5 x 0.2 นิ้ว และน้ำหนักเพียง 1.1 ปอนด์ เจ้า Galaxy Tab S7 รุ่น 11 นิ้วตัวนี้จึงทั้งบางและเบากว่า Surface Pro 7 (ที่หนา 0.3 นิ้ว และหนัก 1.7 ปอนด์) แต่ก็ยังหนักกว่า iPad Pro 11 นิ้ว (ที่หนา 0.2 นิ้วและหนัก 1 ปอนด์) และ iPad Air ปี 2020 รุ่น 10.9 นิ้ว (หนา 0.2 นิ้วและหนัก 1 ปอนด์)
ด้านหลังของแท็บเล็ตมีแถบแม่เหล็กไว้ใช้ยึดปากกา S-Pen ที่แถมมากับตัวเครื่อง ให้ติดกับตัวเครื่องในระนาบเดียวกันกับกล้องหลังดีไซน์มินิมอลที่มีขนาดกำลังพอดี
Tab S7 มีช่อง USB-C ทางด้านขวาของตัวเครื่องไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และโอนถ่ายข้อมูล ส่วนปุ่มเปิดปิด (ซึ่งทำหน้าที่สแกนลายนิ้วมือไปในตัวด้วย) และปุ่มเพิ่มลดความดังของเสียงจะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง นอกจากนี้แล้วยังมีตัวอ่าน SD card สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และตัวต่อ pogo ไว้เชื่อมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Book Cover Keyboard ของ Samsung เองด้วย
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: จอแสดงผล
ตามผลคะแนน Klein K10-A colorimeter ของเรา เจ้าตัว Galaxy Tab 7 ผลิตช่วงสี sRGB ได้กว้างถึง 152% ในโหมดหน้าจอสี Vivid ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นอยู่แล้ว และกว้างถึง 111% ถ้าเปลี่ยนไปเป็นโหมดสีธรรมชาติ
ทั้งสองช่วงสีชนะ Surface Pro 7 ที่มีคะแนนอยู่ที่ 97% อย่างขาดลอย ส่วน iPad Pro 12.9 นิ้ว และ iPad Air ปี 2020 มีคะแนนใกล้เคียงกันอยู่ที่ 123% และ 102.9% ตามลำดับ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่ Apple จะใช้โทนสีที่สมจริงกว่าค่าสีเริ่มต้นของ Samsung
ในแง่ของความสว่างของจอ Galaxy Tab S7 ได้รับคะแนนความสว่างที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 500 นิต ซึ่งตอนเราทำการทดสอบก็ได้ค่าที่ใกล้เคียงที่ 499 นิต ส่วน iPad Pro สามารถปรับความสว่างได้มากกว่า ได้คะแนนสูงลิ่วอยู่ที่ 559 นิต ตามมาด้วย iPad Air ปี 2020 ที่ 440 นิต และรั้งท้ายด้วย Surface Pro 7 ที่ได้คะแนนน้อยที่สุดที่ 395 นิต
Galaxy Tab 7 มีอัตราการรีเฟรชหน้าจออยู่ที่ 120Hz ทำให้การใช้งานดูสมจริงไหลลื่น ไม่มีสะดุด และเพื่อพิสูจน์ให้เห็นด้วยตาตัวเอง เราก็เลยลองดูวีดีโอขณะทั้งปิดและเปิดการตั้งค่านี้ เพื่อทดสอบความลื่นไหลของภาพและความคมชัดของตัวอักษรระหว่างที่ภาพเลื่อนผ่าน
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: ประสิทธิภาพในการทำงาน
Tab S7 ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 865+ ซึ่งใช้ทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กันได้ค่อนข้างดี ไม่ได้มีอาการค้างหรือช้าลงเลย ตอนที่เราลองเปิดหน้าบราวเซอร์ Chrome พร้อมกัน 12 แท็บ และดูวีดีโอบน YouTube ที่คุณภาพ 1080p ในขณะเดียวกันเราก็ลองเปิดเพลงบน Spotify และเปิดหน้า Google Docs ทิ้งไว้เป็นแบ็คกราวนด์ ทุกแอปทำงานได้อย่างไม่สะดุดไม่ว่าจะตอนเราสลับไปเปลี่ยนเพลงหรือกลับมาจดโน้ต
อย่างไรก็ตาม คะแนนมัลติคอร์ Geekbench 5 ของ Galaxy Tab S7 ได้มาเพียง 3,074 คะแนน จัดว่าไม่ได้มากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ iPad Pro ปี 2020 ที่ใช้งานชิป A12Z (4,635), iPad Air ที่ใช้ชิป A14 Bionic (4,262) และ Surface Pro 7 ที่ใช้ชิป 10th Gen Core i5 (4,878) แล้ว คะแนนของแท็บเล็ตอื่น ๆ ที่กล่าวมาสูงกว่า Tab S7 มาก นำแบบไม่เห็นฝุ่น
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: คุณภาพเสียง
คุณจะได้ยินเสียงเพลงที่ค่อนข้างไพเราะจาก Samsung Galaxy S7 โดยคุณสามารถทำให้เสียงดีขึ้นไปอีกได้จากการตั้งค่าเพิ่มเติม เสียงร้องจากเพลงดังเด่นและชัดใสมาก เสียงเบสและฉาบแฉก็คมชัดตามจังหวะกลอง
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: กล้อง
หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าแท็บเล็ตไม่ได้มีไว้ใช้ถ่ายรูป แต่คุณอาจจะเปลี่ยนความคิดใหม่ไปเลยถ้าได้ลองใช้กล้องหน้าของ Galaxy Tab S7 ในการประชุมออนไลน์ และกล้องด้านหลังที่ก็ใช้งานได้ดีงามในหลายสถานการณ์
กล้องด้านหลังมีความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้ถ่ายภาพนิ่งออกมาได้ค่อนข้างดี สามารถจับเฉดสีของสิ่งของต่าง ๆ ได้แม่นยำ กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่ด้านหลังของ Galaxy Tab S7 ตัวนี้ก็ทำงานได้เยี่ยมยอดถ้าคุณอยากได้รูปในมุมที่กว้างขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยการเสียความละเอียดและคมชัดของภาพลง
กล้องหลังของ Tab S7 มีความนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย แต่ยังดีที่แท็บเล็ตจะไม่ไหลตกลงจากโต๊ะเวลาเราวางทิ้งไว้ แต่จะมีปัญหากวนใจหน่อยก็เวลาที่เราแปะ S-Pen เข้ากับแถบแม่เหล็กด้านหลัง เพราะตัวปากกาหนากว่าความนูนของกล้องเยอะ
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: ระบบความปลอดภัย
Galaxy Tab S7 ใช้ทั้งระบบอ่านลายนิ้วมือและจดจำใบหน้าในการรักษาความปลอดภัย คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบของคุณ ส่วนตัวเราคิดว่าน่าจะมีระบบอ่านลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบที่ Tab S7 Plus มี เพราะมันใช้งานได้สะดวกกว่ามาก
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ระบบอ่านลายนิ้วมือของ Galaxy Tab S7 ก็ทำงานไวมาก ทำให้คุณเข้าใช้งานโทรศัพท์ของคุณได้อย่างไม่ยุ่งยาก
ส่วนระบบจดจำใบหน้าที่ฝังตัวอยู่บริเวณขอบจอก็ทำงานคล้ายกันกับ iPad Pro และ Surface Pro เลย โดยจะทำงานได้ดีกว่าในห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอ และจะจับหน้าได้ช้าหน่อยถ้าคุณอยู่ในที่มืด
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: ซอฟต์แวร์
Galaxy Tab S7 ใช้งานระบบแอนดรอยด์ 10 ที่ถูกปรับเข้ากับ user interface ของ Samsung เอง ซึ่งเป็นหน้าตาที่ผู้ใช้ Samsung ส่วนใหญ่ชื่นชอบ เพราะมันได้ถูกปรับปรุงให้ดูดีขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
และด้วยความที่การจดบันทึกเป็นส่วนสำคัญในการใช้งานแท็บเล็ตรวมไปถึงโทรศัพท์ Galaxy Note
เราเลยแปลกใจที่ Samsung เพิ่งจะมีแอป Note เป็นของตัวเอง ที่สามารถซิงก์กับทั้งโทรศัพท์ แท็บเล็ต รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ได้
คุณสามารถอัดเสียงใส่เข้าไปในไฟล์โน้ตได้ด้วย เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดฟังทีหลังว่าระหว่างที่คุณกำลังตั้งใจจดบันทึกอยู่ว่าผู้พูดได้พูดอะไรบ้าง
ในส่วนของโหมด DeX นั้นก็ยังไม่ได้ช่วยให้ทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ดีขนาดนั้น ซึ่งก็เป็นปัญหาเดิม ๆ ที่พบเจอใน iPadOS และแอปแอนดรอยด์อื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราชอบการทำงานของโหมด DeX ประมาณนึงเลย เพราะการจัดเรียงปุ่มต่าง ๆ ไว้ที่ด้านล่างของจอ เช่น ปุ่ม search/command ที่ช่วยให้เราหาแอปต่าง ๆ เจอได้ไวขึ้นมาก มันง่ายและดีจนเราอยากให้โหมดแอนดรอยด์ปกติก็ใช้งานได้แบบนี้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า Samsung จะอยากให้ใช้โหมด DeX ได้เฉพาะเวลาที่แท็บเล็ตเชื่อมต่อเข้ากับ Book Cover Keyboard เท่านั้น
อีกเรื่องที่เราชอบเกี่ยวกับโหมด DeX ก็คือแอปทั้งหมดที่เราเปิดใช้อยู่จะยังถูกเปิดอยู่ในทั้งสองโหมด
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: S-Pen
S-Pen รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนปากกาจริง ๆ มากกว่ารุ่นก่อนหน้าใน Galaxy Tab รุ่นก่อน ๆ ที่ตัวปากกาจะค่อนข้างแบน ตอนที่เราลองใช้ปากกาวาดรูปบน Samsung Notes เราก็เห็นว่ามันตอบสนองค่อนข้างไว ตามที่ Samsung ระบุความไวในการตอบสนองไว้ที่ระดับ 9ms ซึ่งเท่ากันกับความไวในการตอบสนองของ Apple Pencil รุ่น 2
ซึ่งถ้าให้พูดจริง ๆ เราก็ชอบ Apple Pencil รุ่น 2 มากกว่า (ต่อให้มาในราคา 4,490 บาท ที่ไม่น่ารักเอาเสียเลยก็ตาม) นั่นเพราะสามารถเก็บและเอาออกมาใช้งานได้สะดวกกว่า ต่างกับ S Pen ที่จะต้องพลิกแท็บเล็ตเพื่อหยิบปากกาออกมาใช้ ไม่ได้ถูกเก็บไว้ในที่ที่หยิบง่ายเหมือน Apple Pencil รุ่น 2
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: Book Cover Keyboard
Tab S7 ใช้พิมพ์งานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ตอนที่เราทดลองใช้งานก็ไม่มีการกระตุกหรือตอบสนองล่าช้าเลย คนที่นิ้วเล็กอาจจะถนัดใช้ Tab S7 มากกว่า Tab S7 Plus เพราะปุ่มตัวเลขของ S7 จะค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับปุ่มตัวเลขขนาดมาตรฐานของ S7 Plus
นอกจากนี้แล้วตัว touchpad ยังมาพร้อมกับระบบ gesture และแถบปุ่มฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งระหว่างที่เราทดลองใช้งานก็สังเกตได้ว่าการปัดขึ้นลงซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนแอปทำได้ลื่นไหลดี
Book Cover Keyboard จะมีข้อเสียเล็ก ๆ ก็ตรงที่มันมาแยกกันเป็น 2 ส่วน: คือแป้นพิมพ์ที่อยู่ด้านล่าง และแผ่นรองที่ปิด S-Pen ซึ่งทำหน้าที่เป็นขาตั้งด้วย และด้วยความที่มันแยกกันเป็น 2 ส่วน จึงทำให้การถอด Tab S7 ออกจาก Book Cover Keyboard ค่อนข้างยุ่งยาก
และต่อให้เราจะไม่ชอบที่ Magic Keyboard ของ iPad Pro มีราคาแพงกว่า Book Cover Keyboard อยู่ถึง 2,000 บาท แต่เราก็ยังชอบ Magic Keyboard มากกว่าอยู่ดี ไม่ใช่แค่การติดตั้งเข้ากับตัว iPad ที่ทำได้ง่ายกว่า แต่มันยังลอยตัวและปรับระดับความเอนได้ดีกว่าขาตั้งของ Book Cover Keyboard ด้วย
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: อายุการใช้งานแบตเตอรี่
ด้วยความจุถึง 8,000 mAh ทำให้ระยะเวลาการใช้งานของ Galaxy Tab S7 ค่อนข้างยาวนาน ตอนที่เราทำการทดสอบ มันใช้งานได้ยาวถึง 13 ชั่วโมง 15 นาที เอาชนะ iPad Pro (10:16) และ iPad Air (10:29) ได้สบาย ๆ แถมยังแซง Surface Pro 7 (7:52) ไปถึง 5 ชั่วโมง แบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว
Samsung ระบุว่า Galaxy Tab7 สามารถใช้เล่นวีดีโอได้นานถึง 14 ชั่วโมง โดยถ้าคุณตั้งค่าอัตราการรีเฟรชหน้าจออยู่ที่ 120Hz จะช่วยให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ได้ยาวขึ้นได้ด้วย
รีวิว Samsung Galaxy Tab S7: ข้อสรุป
ในช่วงที่ผ่านมา Samsung พยายามอย่างหนักที่จะดันให้ Galaxy Tab S-series กลายเป็นสินค้ายอดฮิตในใจผู้บริโภค และถ้ารุ่น Tab S6 Lite เป็นรุ่นแรกที่สามารถชนะใจผู้บริโภคได้ รุ่น Tab S7 ก็คงเรียกได้ว่าเป็นแชมป์เลย ด้วยจอแสดงผลที่ให้ความสว่างและคมชัดไปจนถึงการดีไซน์ที่มีระดับ ทำให้นี่คือแท็บเล็ตที่สาวก Apple มองว่าเป็นตัวตายตัวแทนของ iPad Pro ได้ และเป็นรุ่นที่ผู้ใช้แอนดรอยด์ไม่ควรพลาด
ถ้าคีย์บอร์ดของเจ้า Tab S7 ใช้งานง่ายกว่านี้ และถ้าชิป Snapdragon 865+ มีประสิทธิภาพสูงตามชิปรุ่นใหม่ ๆ ของทั้ง Intel และ Apple ได้ทัน นี่ก็คงเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมา
สำหรับใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่ตอบสนองไวและมีแอปที่ทำมาเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับแท็บเล็ตรุ่นนั้นโดยเฉพาะ ก็น่าจะพิจารณาซื้อ Surface Pro 7 มาใช้ แต่รุ่น Core i5 ที่เราใช้ทดสอบราคาสูงกว่ารุ่นเริ่มต้นถึง 11,000 บาท ทำให้ราคาอยู่ที่ 40,990 บาท และมีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่สั้นกว่ามาก จากการชาร์จ 1 ครั้ง
และต่อให้ Magic Keyboard ของ iPad จะใช้พิมพ์งานได้ดีขนาดไหน แต่ถ้าจะซื้อเพิ่มก็แปลว่าคุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 6,590 บาท ซึ่งราคารวมทั้ง iPad และ Magic Keyboard จะสูงกว่าการซื้อทั้ง Tab S7 และคีย์บอร์ดคู่กันอีก แถมยังไม่มีปากกาแถมมาให้อย่าง Samsung อีกด้วย
ดังนั้นถ้าพูดถึงแท็บเล็ตระดับกลางไปจนถึงระดับไฮเอนด์ ก็ต้องยอมให้ Samsung เขาแหละ ในแง่ที่ผลิตสินค้าที่สมกับราคาที่ลูกค้าต้องจ่ายไป และต่อให้แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy Tab S8 และ Galaxy Tab S8 Ultra จะวางจำหน่ายแล้ว แต่ Galaxy Tab S7 ก็ยังเป็นแท็บเล็ตที่คุ้มค่าคุ้มราคาอยู่ดี