หูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเพลิดเพลินกับเสียงเพลง วิทยุ และพอดแคสต์ ที่คุณใช้งานได้โดยไม่มีเสียงอื่นมารบกวนสมาธิ ระบบการตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) จะใช้ไมโครโฟนที่ซ่อนอยู่บนหูฟังของคุณ เพื่อระบุเสียงที่เข้ามา และปรับลดเสียงรบกวนรอบข้าง สามารถปิดเสียงบางประเภทได้เงียบสนิท ดังนั้นหูฟัง ANC จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฟังทำงานหรือพักผ่อนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขัดจังหวะ
ANC ยังเป็นที่นิยมมากขึ้นในบรรดาหูฟังแบบครอบหูและหูฟัง wireless earbud ที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน มีราคาทั้งแพงและราคาค่อนข้างถูก ที่ใช้เทคโนโลยีนี้มาเพิ่มคุณสมบัติ เราได้ทดสอบรุ่นใหม่ ๆ เป็นประจำและได้แนะนำข้อมูลล่าสุดและยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อรีวิวหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในบทความนี้
- Sony WH-1000XM4
- #1
- Bose 700
- #2
- Apple AirPods Max
- #3
- หูฟังไร้สายที่ดีที่สุดที่เราแนะนำ
- หูฟังกีฬาที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย
- หูฟังแบบครอบหูที่ดีที่สุดที่คุณเลือกซื้อได้
10 แนะนำ หูฟังตัดเสียงรบกวน ได้แก่
- 1. Sony WH-1000XM5
- 2. Bose 700
- 3. Apple AirPods Max
- 4. Bowers & Wilkins PX7 Carbon Edition
- 5. Apple AirPods Pro
- 6. Bose QuietComfort Earbuds
- 7. Samsung Galaxy Buds Pro
- 8. Sennheiser Momentum True Wireless 2
- 9. Anker Soundcore Liberty Air 2 Pro
- 10. Urbanista Miami
รีวิว 10 อันดับ หูฟังตัดเสียงรบกวน ตัวไหนดี
1. Sony WH-1000XM5
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดโดยรวม
น้ำหนักและขนาด: 10 x 3 x 7.3 นิ้ว, 9 ออนซ์ | อายุแบตเตอรี่: 30 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC), 38 ชั่วโมง (ปิดใช้ระบบ ANC) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 40 ฟุต (12 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบตัดเสียงรบกวน, การปรับแต่ง EQ, เทคโนโลยีมัลติพอยท์
รุ่น Bose 700 อาจมีระบบตัดเสียงรบกวนที่ทรงพลังกว่า แต่ประสิทธิภาพโดยรวมที่น่าทึ่งของ Sony WH-1000XM5 และราคาที่ต่ำกว่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทุกคุณสมบัติที่ทำให้ WH-1000XM3 รุ่นก่อนมีความพิเศษ ก็ยังคงเหมือนเดิมในรุ่นนี้ รวมถึงพลังเสียงที่น่าทึ่งและระบบควบคุมแบบสัมผัส ช่วยให้สามารถเล่นและจัดการการโทรได้อย่างง่ายดาย
ความสามารถในการปรับแต่งเสียงผ่านแอป Sony Headphones Connect นั้นมีความยอดเยี่ยม ช่วยให้คุณสามารถสร้างโปรไฟล์เสียงของคุณได้เอง หรือเลือกจากการตั้งค่าล่วงหน้าที่ปรับแต่งไว้มากมาย เหมาะสำหรับเพลงเกือบทุกประเภท นอกจากนี้คุณยังได้รับ ANC ระดับสูงสุด ที่คุ้มค่ามากกว่ารุ่นอื่นจากคู่แข่ง และช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับเวลาเล่นได้นานกว่า Bose ทุกรุ่นที่เปิดใช้ระบบตัดเสียงรบกวนแบบนี้
น่าเสียดายที่คุณภาพการโทรในรุ่นนี้ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากสำหรับ Sony ในตระกูล Mark แต่ตามคุณสมบัติของ WH-1000XM5 เรื่องนี้ก็เป็นเพียงการร้องเรียนที่สามารถแก้ไขได้โดย Sony เท่านั้น
- ให้คุณภาพเสียงที่เหนือชั้น
- ตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
- มีคุณสมบัติการปรับแต่งมากมายผ่านแอป Sony Connect Headphones
- มีตัวเลือกการเชื่อมต่อมากมาย (บลูทูธ, NFC, เทคโนโลยีมัลติพอยท์)
- ควรปรับปรุงคุณภาพการโทร
2. Bose 700
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟัง noise-cancelling headphones ที่มีประสิทธิภาพ ANC ดีที่สุด
น้ำหนักและขนาด: 8 x 6.5 x 2 นิ้ว, 9 ออนซ์ | อายุแบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 30 ฟุต (9 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบตัดเสียงรบกวนปรับค่าได้, การปรับแต่ง EQ, มีเคสชาร์จให้เลือก
หลายคนอาจจะรู้สึกว่า Bose 700 เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนโดยรวมที่ดีที่สุด ต่างจากการรีวิวของเรา และก็ถือว่าเป็นความเห็นที่สมเหตุผล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Bose มีเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟที่แข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาด
Bose 700 ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติดังกล่าว โดยมี ANC มากกว่า 10 ระดับที่สามารถปรับใช้ได้ในแอป Bose Connect และทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อปิดเสียงภายนอกได้เกือบทั้งหมด สิ่งสำคัญที่สุดคือ รุ่น 700 สามารถใช้งานส่วนนี้ได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพเสียง ทำให้ผู้ฟังเพลิดเพลินไปกับเสียงที่สะอาดและสมดุล แอปคู่ใจของ Bose ยังให้คุณเลือกปรับ EQ ตามระดับเสียงในรูปแบบของคุณได้อีกด้วย
มีใครบ้างที่จะไม่ชอบการออกแบบที่ล้ำสมัยของหูฟังรุ่นนี้ ดีไซน์ที่เพรียวบางและสวยงามของ Bose 700 ถือเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรม เช่นเดียวกับประสิทธิภาพ ANC ของ Bose และราคาที่สูง ทำให้คุณเชื่อถือได้ แต่ปัญหาที่เราอยากให้ทราบคือ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนที่รุ่นอื่น ๆ ในราคาเดียวกันมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น 700
- มีการตัดเสียงรบกวนที่ปรับได้
- ดีไซน์หรูหราและน่าสนใจ
- ให้เสียงที่แม่นยำและสมดุล
- ตัดเสียงรบกวนยอดเยี่ยมในการโทร
- มีราคาเเพง
3. Apple AirPods Max
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟังตัดเสียงรบกวนดีที่สุดในระบบ iOS
น้ำหนักและขนาด: 7.4 x 6.6 x 3.3 นิ้ว, 13.6 ออนซ์ | อายุแบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 33 ฟุต (10 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบ ANC, เสียงครอบคลุมทุกพื้นที่, แชร์เสียงได้, ผู้ช่วย Siri
ถึงระบบตัดเสียงรบกวนใน AirPods Max จะมีแค่ระดับเดียว แต่ก็ใช้งานได้ดี หูฟังรุ่นนี้สามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการปิดกั้นเสียงรอบข้าง โดยเฉพาะในความถี่ขั้นต่ำสุด เทียบเท่าได้กับระบบของ Bose ถือเป็นคุณสมบัติยอดเยี่ยมสำหรับหูฟังแบบครอบหูคู่แรกของ Apple
ตอนนี้ AirPods Max ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิดใช้คุณสมบัติรับเสียงรอบทิศทาง มีหลักการออกแบบและคุณภาพการผลิตที่สูงมากจนคุณอาจจะลืมไปเลยว่าหูฟังรุ่นนี้มีราคากว่า 16,000 บาท แพงกว่าหูฟัง Sony และ Bose ในรายการนี้มาก ถือเป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงที่คุ้มค่า
- มีการออกแบบที่หรูหรา
- ตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
- เสียงครอบคลุมพื้นที่คมชัด
- ราคาแพง
- ไม่มีช่องเสียบหูฟังเสริม
4. Bowers & Wilkins PX7 Carbon Edition
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟัง ANC ดีไซน์หรูหรา พร้อมกับระบบเสียงที่ไร้ที่ติ
น้ำหนักและขนาด: 3.1 x 6.9 x 8.7 นิ้ว, 10.9 ออนซ์ | อายุแบตเตอรี่: 30 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC), 33 ชั่วโมง (ปิดใช้ระบบ ANC) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 33 ฟุต (10 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ตัดเสียงแบบ ANC, โหมดเสียงรอบข้าง, โปรไฟล์ระดับเสียง
ตัวเลือก ANC ระดับพรีเมียมอีกรุ่น คือ Bowers & Wilkins PX7 Carbon Edition หูฟังแบบครอบหูรุ่นนี้เป็นงานฝีมือที่สูสีกับ AirPods Max และให้เสียงที่ยอดเยี่ยม ระดับเสียงกว้าง คมชัด ให้เพลงที่ไพเราะ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถพอ ๆ กับเสียงเพลงที่ละเอียดและฟังได้ชัดเจนมากขึ้น
รุ่นนี้ไม่มีการปรับแต่ง EQ แต่ก็เป็นคุณสมบัติที่เรารู้สึกว่าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ระบบ ANC มีประสิทธิภาพสูง และยังมีคุณสมบัติ Soundscapes ที่ยอดเยี่ยม เพิ่มเสียงธรรมชาติต่าง ๆ พร้อมสัมผัสที่ผ่อนคลายเมื่อคุณต้องการพักผ่อน
- ให้เสียงกว้างและทรงพลัง
- มีแอปที่มีคุณสมบัติเป็นประโยชน์มากมาย
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
- เชื่อมต่อไม่ค่อยราบรื่นนัก
- การออกแบบที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
5. Apple AirPods Pro
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟัง AirPods แบบใส่ในหูที่มีระบบตัดเสียงรบกวนดีที่สุด
น้ำหนักและขนาด: 2.4 x 1.7 x 0.9 นิ้ว, 8.8 ออนซ์ | อายุแบตเตอรี่: 4.5 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC), 24 ชั่วโมง (เมื่อชาร์จด้วยเคส) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 30 ฟุต (10 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบตัดเสียงรบกวน, รองรับ Siri, ให้เสียงครอบคลุมพื้นที่
AirPods Pro อยู่ในลำดับหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดของเรา เนื่องจากรุ่นนี้ปิดกั้นเสียงรบกวนได้ดีในการทดสอบ หากเราสวมใส่ขณะเดินทางหรือเดินไปรอบ ๆ ข้างนอก นอกจากนี้ยังง่ายต่อการเปิดใช้งาน ANC เพียงกดก้านหูฟังค้างไว้
และในช่วงเวลาที่คุณต้องระวังสิ่งรอบข้าง ก็มีโหมด Transparency เลือกเปิดให้เสียงรบกวนรอบข้างเข้ามา เพื่อให้คุณสามารถฟังเพลงและยังฟังเสียงสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ การอัปเดต iOS 14 ล่าสุด ยังนำคุณสมบัติใหม่ ๆ มาเพิ่ม เช่น การสลับอุปกรณ์อัตโนมัติ และการใช้ระบบเสียงเชิงพื้นที่ ซึ่งสร้างเสียงแบบ 3 มิติเข้ามาผสมผสานให้กับผู้ฟัง
AirPods Pro สวมใส่ได้พอดีและเบาสบาย คุณสามารถปรับแต่งได้จุกหูฟังซิลิโคนที่ให้มาทั้งหมดสามชุด และมีจุกหูฟังสำหรับการทดสอบความพอดีในการสวมใส่ ที่คุณสามารถลองใช้กับ iPhone ของคุณได้ และหูฟังรุ่นนี้ก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการออกกำลังกาย เนื่องจาก AirPods Pro มีคุณสมบัติกันเหงื่อและน้ำ มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เมื่อเปิดการป้องกันเสียงรบกวนอยู่ที่ 4.5 ชั่วโมง แต่คุณสามารถชาร์จเพื่อใช้เพิ่มได้อีก 24 ชั่วโมงผ่านเคสชาร์จไร้สาย
- ใช้การตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ
- สามารถกันน้ำและเหงื่อได้
- มีคุณภาพการโทรที่ยอดเยี่ยม
- มีจุกหูฟังหลายแบบเพื่อให้ลองสวมใส่ได้พอดี
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่น่าจะนานขึ้น
6. Bose QuietComfort Earbuds
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟัง wireless earbuds ตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด
น้ำหนักและขนาด: 1.5 x 1 x 1.1 นิ้ว, 0.3 ออนซ์ (ต่อข้าง) | อายุแบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง, 18 ชั่วโมง (เมื่อชาร์จด้วยเคส) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 30 ฟุต (10 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบ ANC ปรับได้, บลูทูธ 5.1, ระบบเสียงในตัวเพื่อการโทรที่คมชัดยิ่งขึ้น
AirPods Pro เป็นรุ่นโดยรวมที่ดีกว่าระหว่างอุปกรณ์แบบเดียวกันทั้งสองรุ่น แต่เมื่อพูดถึงการตัดเสียงรบกวนของรุ่นนี้ ก็เป็นคุณสมบัติที่ถูก Bose QuietComfort Earbuds แซงหน้าไป เอียร์บัดรุ่นนี้ถือเป็นหูฟังไร้สายที่เป็นตัวเลือกของ Bose 700 มีฟังก์ชั่นมากมายเพื่อมอบประสิทธิภาพ ANC ที่เหนือชั้นได้อย่างใกล้เคียง
มาพร้อมกับ ANC ที่สามารถปรับได้ในแอป Bose Connect มากกว่า 10 ระดับ ผสมผสานกับโหมดการฟังเสียงสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อให้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณได้อย่างเต็มที่ เสียงที่ได้มีความอบอุ่นและใสสะอาด คุณภาพการโทรเป็นคุณสมบัติที่ไม่มีใครรู้จักในรุ่นนี้มากนัก แต่ก็ให้ความชัดเจนที่ยอดเยี่ยมที่ปลายสายทั้งสองฝ่าย
นอกเหนือจากดีไซน์ที่มีขนาดใหญ่ (ทั้งตัวเอียร์บัดและเคสสำหรับชาร์จ) สิ่งเดียวที่ทำให้หูฟังรุ่นนี้สมบูรณ์แบบ ก็คืออายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยเฉลี่ย การชาร์จหนึ่งครั้งจะมีการใช้งานอยู่ที่ 6 ชั่วโมง แต่จำนวนนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็วถึง 5 ชั่วโมงใช้สำหรับฟังและการสตรีมแบบหนักหน่วง เคสสำหรับชาร์จเพิ่มเวลาให้เพียง 18 ชั่วโมง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวังเมื่อเทียบกับขนาดของเคส
- หูฟังเอียร์บัดไร้สายที่ดีที่สุด ANC
- มอบเสียงทรงพลัง
- ให้คุณภาพการโทรที่ยอดเยี่ยม
- เชื่อมต่อด้วยบลูทูธ 5.1
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังน่าผิดหวัง
7. Samsung Galaxy Buds Pro
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟังเอียร์บัดพร้อมระบบ ANC ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Galaxy
น้ำหนักและขนาด: 0.8 x 0.7 x 0.8 นิ้ว, 0.2 ออนซ์ (ต่อข้าง) | อายุแบตเตอรี่: 5 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC), 8 ชั่วโมง (ปิดใช้ระบบ ANC), 18 ชั่วโมง (เมื่อชาร์จด้วยเคสและเปิดใช้ระบบ ANC), 28 ชั่วโมง (เมื่อชาร์จด้วยเคสและปิดใช้ระบบ ANC) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 30 ฟุต (9 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบ ANC ปรับตั้งค่าได้, โหมดฟังเสียงรอบข้าง, ระบบจับเสียง, ให้เสียง 360 องศา, สลับอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว, กันน้ำได้ในระดับ IPX7
ถ้าเราแสงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ระบบตัดเสียงรบกวนบน Samsung Galaxy Buds อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับ ANC ของ AirPods Pro หรือ Bose QuietComfort Earbuds แต่ก็ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ของ Galaxy Buds Live และยังเล่นเสียงได้ดีด้วยโหมดฟังเสียงสภาพแวดล้อมที่สามารถเริ่มได้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มพูด
การผสมผสานระหว่างคุณภาพสูงและฟังก์ชันการทำงานที่ชาญฉลาดขึ้นนี้ จะช่วยให้ Galaxy Buds Pro โดดเด่นมาก เช่นเดียวกับดีไซน์ที่เพรียวบาง สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy รุ่นล่าสุดได้ดีที่สุด เนื่องจากจะทำให้ปลดล็อกใช้งานในคุณสมบัติขั้นสูงได้มากยิ่งขึ้น เช่น ระบบเสียง 360 องศา: คุณจะต้องมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้ซอฟต์แวร์ OneUI 3.1 ของ Samsung
- มีการปรับปรุงการออกแบบ
- กันน้ำเต็มประสิทธิภาพ
- ให้คุณภาพการโทรสูง
- มีคุณสมบัติมากมาย
- คุณสมบัติบางอย่างใช้งานได้กับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy เท่านั้น
- ระบบ ANC ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีที่สุด
8. Sennheiser Momentum True Wireless 2
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟังราคาแพงที่มี ANC คุณภาพสูงในราคาแพง
น้ำหนักและขนาด: 1.1 x 0.6 x 0.9 นิ้ว, 0.2 ออนซ์ (ต่อข้าง) | อายุแบตเตอรี่: 7 ชั่วโมง โดยไม่ใช่ ANC (28 ชั่วโมง เมื่อชาร์จด้วยเคส); ระยะเวลาการใช้งานพร้อม ANC ไม่ได้มีการบันทึกไว้ | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 33 ฟุต (10 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบ ANC, โหมดเสียงโปร่งใส, กันน้ำได้ในระดับ IPX4, การปรับแต่ง EQ
หูฟัง true wireless อันดับต้น ๆ ของ Sennheiser รุ่นนี้ ให้คุณภาพเสียงเหนือคุณสมบัติอื่น ๆ ประสิทธิภาพของ ANC นั้นถือว่าทำงานได้ดี แต่ไม่ถึงระดับของ Bose ส่วนอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็ไม่ได้มีความพิเศษ แต่เมื่อพิจารณาคุณภาพเสียงที่มีรายละเอียดครบถ้วนและสมดุลอย่างไม่มีที่ติ คุณจะเข้าใจได้ว่าทำไม Sennheiser จึงมีราคาแพง
การสวมใส่พอดีสำหรับผู้ใช้ ผสมผสานทั้งความมั่นคงและความสะดวกสบาย ในขณะที่ EQ สามารถปรับแต่งได้อย่างสมบูรณ์ผ่านแอปที่ใช้งานง่าย โดยรวมถือเป็นตัวเลือกที่มีราคาแพง แต่ความชัดเจน ความลึก และความกว้างของรูปแบบเสียงนั้นก็ถือเป็นคุณสมบัติที่น่าประทับใจสำหรับราคานี้
- ให้เสียงที่สมดุลและมีรายละเอียด
- สวมใส่สบาย
- มีการปรับแต่ง EQ เต็มรูปแบบ
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้น
- คุณภาพการโทรต่ำ
9. Anker Soundcore Liberty Air 2 Pro
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟัง noise-cancelling ที่ดีที่สุดในราคาต่ำกว่า 4,500 บาท
น้ำหนักและขนาด: 1.5 x 0.9 x 0.9 นิ้ว, 0.4 ออนซ์ (ต่อข้าง) | อายุแบตเตอรี่: 5 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC), 7 ชั่วโมง (ปิดใช้ระบบ ANC), 18 ชั่วโมง (เมื่อชาร์จด้วยเคสและเปิดใช้ระบบ ANC), 26 ชั่วโมง (เมื่อชาร์จด้วยเคสและปิดใช้ระบบ ANC) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 30 ฟุต (9 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: ระบบ ANC ปรับตั้งค่าได้, โหมดเสียงโปร่งใส, กันน้ำระดับ IPX4, การปรับแต่ง EQ
Anker Soundcore Liberty Air 2 Pro ในราคาที่ไม่แพงมาก ประมาณ 4,000 บาท ถือเป็นหูฟังที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดใช้ระบบ ANC คุณภาพดี จากหูฟัง true wireless ที่ไม่ได้มีราคาสูงเท่า AirPods Pro
Soundcore Liberty Air 2 Pro มี ANC และโหมดเสียงโปร่งใส่ที่ทดลองใช้ได้ แม้ว่าบางรุ่นมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ก็เป็นหูฟังเอียร์บัดที่มีความสามารถในการปิดเสียงรบกวนได้มากที่สุด ด้วยตัวเลือก EQ ที่กำหนดได้เอง และเครื่องมือที่สามารถปรับแต่งเสียงสำหรับคุณได้โดยเฉพาะ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดและมีราคาที่น่าสนใจ
- ระบบ ANC ที่มีประสิทธิภาพ
- มีราคาดี
- ปรับแต่งเสียงได้แบบส่วนบุคคล
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าพอใจ
- การออกแบบไม่น่าสนใจมากนัก
- อาจรู้สึกไม่สบายตัวหากสวมใส่เป็นเวลานาน
10. Urbanista Miami
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
หูฟังแบบเกาะใบหูพร้อมระบบ ANC ราคาเอื้อมถึงได้ พร้อมอายุแบตเตอรี่ยาวนาน
น้ำหนักและขนาด: 8.1 x 6.6 x 3.5 นิ้ว, 10.9 ออนซ์ | Battery life: 40 ชั่วโมง (เปิดใช้ระบบ ANC); 50 ชั่วโมง (ปิดใช้ระบบ ANC) | ระยะเชื่อมต่อบลูทูธ: 33 ฟุต (10 เมตร)
คุณสมบัติพิเศษ: รองรับการใช้งานระบบผู้ช่วยดิจิทัล
มีหูฟังตัดเสียงรบกวนไม่กี่รุ่นที่ให้ราคาและคุณสมบัติเท่า Urbanista Miami รุ่นนี้ให้เสียงดี ดูมีสไตล์ รองรับ Google Assistant และ Siri และยังใช้งานได้นานหลายวัน Urbanista ให้ข้อมูลว่าเล่น ANC ได้นาน 40 ชั่วโมง ซึ่งเราก็ได้รับผลลัพธ์นี้จากการทดสอบอย่างเหลือเฟือ
การตัดเสียงรบกวนนั้นยังไม่ได้เป็นคุณภาพที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นตามที่คาดหวัง และเป็นสิ่งที่เราเข้าใจได้ เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของ Bose 700 คุณสมบัติการตัดเสียงรบกวนก็ทำงานได้ค่อนข้างดี ป้องกันเสียงรบกวน และเสียงแทรกส่วนใหญ่ได้ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบไร้สาย ซึ่งหูฟัง ANC ราคาถูกรุ่นอื่น ๆ ไม่มี
- มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
- ระบบ ANC และโหมดเสียงโปร่งใส
- ให้คุณภาพเสียงสูง
- ใส่ได้แน่นกับใบหู
- ต้านทานลมได้ไม่ดีนัก
วิธีเลือกหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
การยกเลิกเสียงรบกวนแบบ active และ passive
สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบเมื่อซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด คือระบบตัดเสียงรบกวนแบบ active ที่ต่างจากแบบ passive
อะไรคือความแตกต่างของสองแบบนี้?
ANC ใช้วงจรและไมโครโฟนขั้นสูงเพื่อรับสัญญาณเสียงรบกวนและสร้างคลื่นผกผันเพื่อตัดเสียงเหล่านี้ ในขณะที่ PNC ใช้การแยกเสียงที่มีความแหลมสูงออกผ่านการออกแบบและวัสดุของอุปกรณ์ หูฟังส่วนใหญ่ที่โฆษณาว่ามีการตัดเสียงรบกวนมักจะอยู่ในหมวดหมู่ ANC
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
หูฟังตัดเสียงรบกวนมักจะกินพลังงานจำนวนมาก ดังนั้นคุณจึงต้องการรุ่นที่สามารถชาร์จไฟได้นานพอสำหรับการเดินทางไกลหรือการเดินทางทุกสัปดาห์ โดยทั่วไปหูฟังไร้สาย ANC สามารถใช้งานได้ระหว่าง 15 ถึง 40 ชั่วโมง ในขณะที่หูฟังไร้สายแบบตัดเสียงรบกวนมักจะใช้เวลาได้ประมาณ 4.5 ถึง 8 ชั่วโมง
คุณภาพเสียง
เทคโนโลยี ANC สามารถบีบอัดเสียงและลดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเสียงได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพเสียงเมื่อเปิดใช้ ในบางกรณี คุณอาจจะได้ยินเสียงฟู่แบบเสียงลมรั่วขณะกำลังฟังเพลง แต่ก็ยังมีหูฟังตัดเสียงรบกวนหลายรุ่นที่จำกัดการรบกวนเหล่านี้เพื่อให้ได้เสียงที่สมบูรณ์และคมชัด
การออกแบบ
การออกแบบมีความสำคัญพอกันกับการเลือกหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด หูฟังแบบครอบหูมักจะให้การตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด แม้ว่าหูฟังบลูทูธแบบใส่ในหูและแบบเกาะกับใบหูบางรุ่นจะพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
วิธีทดสอบหูฟังตัดเสียงรบกวน
เราได้ตัดสินหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดหลายรุ่นด้วยปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพเสียง อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ระยะการเชื่อมต่อบลูทูธ คุณภาพการโทร ความสะดวกสบายและความพอดีในการสวมใส่ และประสิทธิภาพของการตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้ เรายังได้ทดสอบคุณสมบัติพิเศษด้วย เช่น แอปที่ใช้งานกับอุปกรณ์ และความยากง่ายในการใช้งาน
ในระหว่างขั้นตอนการทดสอบ ผู้ตรวจสอบของเราได้สวมหูฟังแต่ละคู่เป็นเวลาครั้งละ 2 ชั่วโมงตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อทดสอบความสบายในการสวมใส่ในระยะเวลาที่ผ่านไป
ในขณะเดียวกัน ระบบ ANC ได้รับการทดสอบทั้งในสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกอาคาร ให้เสียงรอบข้างในระดับสูง รวมถึงการใช้ในเครื่องบิน สวนสาธารณะ ในเมือง ในร้านสะดวกซื้อ สำนักงาน และการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบหูฟัง ANC ที่ตั้งโปรแกรมด้วยโหมดเสียงโปร่งใสอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่าผู้ฟังสามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้ดีเพียงใด
สำหรับคุณภาพเสียง เราได้ลองฟังเพลงตัวอย่างมากมายที่ครอบคลุมแนวเพลงประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฮิปฮอป ร็อค แจ๊ส คลาสสิก และอาร์แอนด์บี ในขณะที่ทีมงานของเราประเมินระดับเสียง ความชัดเจน และความสมบูรณ์ที่ได้