หน้าสารบัญ
แปรงสีฟันที่ดีคือพื้นฐานของสุขอนามัยในช่องปากที่ดี แต่ทุกวันนี้เรามีแปรงสีฟันให้เลือกซื้อมากมายหลายแบรนด์ มีตั้งแต่ราคาไม่กี่สิบบาทไปจนถึงหลักพัน จึงเป็นเรื่องยากกว่าจะเลือกแบรนด์ เลือกรุ่นที่ตรงตามความต้องการของคุณ รวมถึงปัจจัยด้านปัญหาในช่องปากและปัจจัยด้านราคาที่ต้องพิจารณาอีกด้วย
หนึ่งคำถามที่คนส่วนใหญ่รวมทั้งเราสงสัยก็คือ เราควรจะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าหรือแปรงสีฟันธรรมดาดี แต่จากงานวิจัยพบว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าและแปรงสีฟันแบบธรรมดามีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันเท่ากัน แต่วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ
- Dental Expert Charcoal Toothbrush
- #1
- Sensodyne Precision Soft
- #2
- Oral-B Pro-Health Gum Care
- #3
- พบกับแบรนด์ยาสีฟันที่ดีที่สุดสำหรับแปรงสีฟันของคุณ
คนไข้ในคลินิกทำฟันส่วนใหญ่ที่ใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ามักบอกว่า “รู้สึกสนุกกับการแปรงฟันมากขึ้นเมื่อใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า และรู้สึกว่าปากและฟันสะอาดขึ้นด้วย”
วันนี้เราจึงจะมารีวิวแปรงสีฟันที่ดีที่สุดที่มีขายอยู่ตอนนี้มาเป็นตัวเลือกให้คุณได้เลือกซื้อทั้งแปรงสีฟันแบบธรรมดาและแปรงสีฟันไฟฟ้า แล้วยังแนะนำด้วยว่าแต่ละรุ่นเหมาะกับใครและสถานการณ์ไหนบ้าง เช่น เหมาะกับการเดินทาง แบบคุณภาพดี หรือเหมาะสำหรับเด็ก เป็นต้น
คุณควรเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยแค่ไหน?
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เราเปลี่ยนแปรงสีฟันแบบธรรมดาหรือหัวแปรงสีฟันแบบไฟฟ้าเฉลี่ยทุก 3-4 เดือน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากแปรง นั่นเป็นพราะแปรงสีฟันที่สึกแล้วจะไม่สามารถทำความสะอาดฟันของคุณได้ทั่วถึง นอกจากนี้ ยังสามารถดูได้ว่าแปรงสีฟันเสื่อมสภาพนั้นจะมีสภาพขอนแปรงที่หลุดลุ่ย นี่คืออีกหนึ่งข้อสังเกตที่บอกได้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปรงสีฟันแล้ว
แปรงสีฟันที่ดีที่สุดที่คุณสามารถหาซื้อได้วันนี้
1. Dental Expert Charcoal Toothbrush
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สุดยอดแปรงสีฟันราคาประหยัด
ประเภท: แบบธรรมดา | ขนแปรง: ขนแปรงชาร์โคล | คุณสมบัติพิเศษ: ไม่มีข้อมูล
คุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์ Dental Expert มาก่อน แต่แปรงสีฟันใช้แล้วทิ้งรุ่นนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เพราะทั้งสามารถนวดเหงือกและทำให้ฟันขาวขึ้น สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่คุณได้ในราคาประหยัด ด้วยขนแปรงยาว นุ่ม และทนทาน มาพร้อมกับชาร์โคลในตัวขนแปรง ทำให้สามารถขจัดคราบหินปูนในบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก แล้วยังมีด้ามจับที่บาง จับได้ถนัดมือ ทำให้สามารถบังคับทิศทางได้ง่าย ใช้งานได้สะดวก
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- ขนแปรงนุ่ม
- ขนแปรงชาร์โคล
- ด้ามจับถนัดมือ
จุดอ่อนของรุ่นนี้:
- ยังไม่รู้สึกว่าทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2. Sensodyne Precision Soft
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สุดยอดแปรงสีฟันสำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟัน
ประเภท: แบบธรรมดา | ขนแปรง: ไม่มีข้อมูล | คุณสมบัติพิเศษ: ไม่มีข้อมูล
เมื่อพูดถึง Sensodyne ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงแบรนด์ยาสีฟันที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟันหรือเสียวเหงือก ถึงจะดังเรื่องยาสีฟันแต่แปรงสีฟันรุ่นนี้ของ Sensodyne ก็ถูกใจคนที่มีอาการเสียวฟันด้วยเหมือนกัน เพราะขนแปรงที่ออกแบบมาได้ดี มีความนุ่มช่วยป้องกันความเจ็บปวดที่เกิดจากการกระตุ้นของแปรงสีฟัน แต่ขนแปรงก็แข็งพอจนไม่บี้ไปจากการแปรงเบา ๆ เราขอเตือนไว้อย่างหนึ่งว่า แปรงสีฟันรุ่นนี้ทั้งหายาก ทั้งขายหมดเร็ว
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- ขนแปรงนุ่ม
- มีหลายสีให้เลือก
- หัวแปรงมีมุมเล็ก
จุดอ่อนของรุ่นนี้:
- ขายหมดเร็วเกินไป
3. Oral-B Pro-Health Gum Care
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สุดยอดแปรงสีฟันสำหรับพกพา
ประเภท: ไฟฟ้า | ขนแปรง: ไม่มีข้อมูล | คุณสมบัติพิเศษ: ใช้ถ่าน AA 2 ก้อน
เมื่อต้องออกเดินทาง แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดที่คุณควรมีติดกระเป๋าไว้ แปรงสีฟันรุ่นนี้ใช้พลังงานจากถ่าน AA จึงเหมาะสำหรับพกพาออกเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ต้องใช้สายชาร์จจึงพกพาสะดวก นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานร่วมกับหัวแปรงของ Oral-B ได้หลายแบบ จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากและฟันโดยเฉพาะ
ความน่าสนใจอีกอย่างคือ หัวแปรงมีราคาไม่แพงเลย หากทำหายระหว่างการเดินทาง ก็สามารถหาซื้อมาเปลี่ยนได้ง่าย
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- ใช้พลังงานจากถ่าน AA
- ใช้ได้กับหัวแปรง Oral-B หลากหลายรุ่น
- ราคาไม่แพง
จุดอ่อนของรุ่นนี้:
- เสียงดัง
สรุป
หากคุณกำลังมองหาแปรงสีฟันไฟฟ้าเพื่อสุขอนามัยในช่องปากที่ดี แถมยังสามารถอยู่กับคุณได้นานหลายปี เราขอแนะนำแปรงสีฟันไฟฟ้า Philips Sonicare DiamondClean Smart 9300 แบบชาร์จได้ แม้รุ่นนี้จะเป็นแปรงสีฟันที่แพงที่สุดที่เรารีวิว แต่ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่เพียงแต่สามารถตั้งค่าได้หลายรูปแบบหรือเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาด้านxkdc]tayoหลากหลายเท่านั้น แต่หัวแปรงแบบใช้แล้วทิ้งยังนุ่มจนให้สัมผัสที่สบาย และยังแข็งพอที่จะทำความสะอาดฟันของคุณให้ขาวสะอาดได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีตัวจับเวลาในตัว ทำให้คุณสามารถแปรงฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องคาดเดา
สิ่งที่ควรพิจารณาในการซื้อแปรงสีฟัน
เลือกตามความชอบของคุณ
ก่อนอื่นคุณต้องตัดสินใจว่าชอบใช้แปรงสีฟันแบบธรรมดาหรื
อแปรงสีฟันไฟฟ้า เพราะตามงานวิจัยของ American Dental Association (ADA) ทั้งแปรงสีฟันแบบไฟฟ้าและแบบธรรมดาสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ดีเท่ากัน หากคุณแปรงฟันได้ถูกวิธี
Ada Cooper, D.D.S. ทันตแพทย์และโฆษกของ ADA (American Dental Association) ประจำนิวยอร์กแนะนำว่า หากจะเลือกซื้อแปรงสีฟัน ให้มองหาตราประทับรับรองจากสมาคมทันตกรรมที่เป็นทางการในประเทศของคุณ เพราะแปรงสีฟันที่ได้รับการรับรองจะมีขนแปรงอ่อนนุ่ม ไม่ทำให้โครงสร้างฟันเสียหาย และยังได้รับการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าแปรงสีฟันสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายเหงือกหรือฟันของคุณ
ส่วนประกอบของแปรงสีฟัน
โดยทั่วไปแปรงสีฟันธรรมดาจะทำมาจากด้ามจับพลาสติกและขนแปรงจากไนลอน แต่ทุกวันนี้ก็มีตัวเลือกอื่น ๆ ให้เลือกซื้อได้มากมายเช่นกัน เมื่อต้องการซื้อแปรงสีฟันแบบธรรมดา ลองมองหาด้ามแปรงที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ อาจเป็นด้ามแปรงที่ทำจากแป้งข้าวโพด (ที่ไม่ใช่จีเอ็มโอ) หรือแม้แต่ไม้ไผ่ก็ได้ ทั้งสองตัวเลือกนี้เป็นด้ามแปรงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งคู่
ชาร์โคลเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ทั้งแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
แปรงสีฟันชาร์โคลที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ก็จัดว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากของเรา เพราะชาร์โคลเป็นที่รู้จักกันดีในการขจัดสิ่งสกปรก ทำให้ปากและฟันของคุณสะอาดสดชื่น งานวิจัยบางชิ้นยังแนะนำว่าชาร์โคลช่วยกำจัดคราบเหลืองออกจากฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ่านชาร์โคลที่พบในขนแปรงของแปรงสีฟันจะจับตัวกับสารพิษและสารเคมีที่เป็นอันตรายไว้ก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมเข้าไป อีกทั้งยังทำให้เกิดรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อยขณะขัดฟันของคุณ คุณสมบัติอื่น ๆ ของแปรงชาร์โคล คือ ช่วยขัดคราบหินปูนและหินน้ำลายที่เป็นอันตรายต่อฟัน ทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สดใสและฟันที่ขาวขึ้น จึงเป็นเรื่องดีที่ฟันของคุณจะได้รับการขัดแปรงจากชาร์โคล ปัจจุบันมีแปรงสีฟันที่มีขนแปรงผสมชาร์โคลให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบธรรมดาและแบบไฟฟ้า
แปรงสีฟันสำหรับเด็กและการจัดฟัน
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเด็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมของอเมริกามักจะแนะนำให้เด็กเริ่มใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าอย่างเร็วที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับอายุของเด็กด้วย โดยแปรงสีฟันไฟฟ้าจะทำความสะอาดได้ดีกว่า โดยเฉพาะกับเด็กที่ยังไม่สามารถแปรงฟันให้เข้าถึงฟันทุกซี่อย่างถูกต้อง แปรงสีฟันไฟฟ้ายังช่วยให้เด็ก ๆ แปรงฟันและดูแลฟันมากขึ้น เพราะเด็กชอบการสั่นสะเทือนของแปรง ดังนั้น ขอให้คุณสนุก และปล่อยให้เด็ก ๆ ใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าทันทีที่พวกเขาสามารถใช้ได้
แปรงสีฟันไฟฟ้ายังสามารถช่วยให้เด็กที่มีปัญหาด้านความคล่องแคล่วของการใช้มือมือให้สามารถใช้แรงในการแปรงฟันที่ถูกต้องได้อีกด้วย นอกจากนี้ เราแนะนำให้ผู้ปกครองช่วยเด็ก ๆ แปรงฟันจนถึงอายุแปดขวบ
หากเด็กยังเล็กเกินไปที่จะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ให้เลือกแปรงแบบธรรมดาที่มีสีและรูปทรงที่เหมาะกับเด็ก ด้ามจับกว้างกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้มือที่เล็กกว่าผู้ใหญ่สามารถจับและเคลื่อนไหวแปรงได้ง่ายขึ้น
ใช้งานสะดวก
แปรงสีฟันแบบธรรมดามารถเคลื่อนที่ได้ตามมือของผู้ใช้ (แม้บางคนอาจมองว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าใช้งานง่ายกว่า) และสำหรับเด็กแปรงสีฟันไฟฟ้าอาจช่วยให้การแปรงฟันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น แปรงสีฟันไฟฟ้าส่วนใหญ่มีปุ่มควบคุมง่าย ๆ เพียงปุ่มเดียว และจะสั่นหรือหยุดสั่นเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าคุณแปรงฟันครบตามระยะเวลาแล้ว (โดยทั่วไปคือ 2 นาที) เพื่อการทำความสะอาดที่ดีที่สุด
หากคุณกำลังมองหาแปรงสีฟันแบบไฟฟ้า คุณสามารถเลือกใช้บริการแบบสมัครสมาชิกรายเดือนได้ด้วย โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการเปลี่ยนหัวแปรงในเวลาที่เหมาะสม ไม่ต้องคาดเดาว่าควรเปลี่ยนแล้วหรือยัง หรือหากคุณไม่อยากใช้เวลาและสมองไปกับการดูแลช่องปากมากเกินความจำเป็น การจัดส่งหัวแปรงให้ถึงบ้านอัตโนมัติก็เป็นตัวเลือกที่ดี
หากคุณมีปัญหาเหงือกร่นหรือเหงือกอักเสบ คุณสามารถใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าได้ เพียงแต่ต้องใส่ใจเลือกรุ่นที่สามารถตั้งค่าความแรงได้ โดยปกติแล้วแปรงสีฟันไฟฟ้าจะสามารถตั้งค่าให้สั่นแบบช้า ๆ หรือสามารถตั้งค่าแบบอ่อนโยนได้ ดังนั้น แม้ว่าคุณจะกลัวว่าแปรงจะไปกดเหงือกมากเกินไป จะเป็นโรคเหงือกร่นจนมองเห็นรากฟัน หรือเป็นโรคเหงือกอักเสบบริเวณแนวเหงือก เราก็ยังคงแนะนำแปรงสีฟันแบบไฟฟ้าในผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้
คุณทำความสะอาดแปรงสีฟันอย่างไร?
ทันตแพทย์แนะนำให้ล้างแปรงสีฟันด้วยน้ำอุ่นเพื่อขจัดยาสีฟันและเศษอาหารที่เหลืออยู่ออกจากแปรง การเก็บรักษาเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการรักษาแปรงให้สะอาด ลดการเติบโตของแบคทีเรีย ควรเก็บโดยวางให้ด้ามตั้งตรงและผึ่งลมให้แห้ง เพราะแบคทีเรียจะถูกกำจัดจนหมด และพร้อมสำหรับการใช้งานในครั้งต่อไป
ข้อผิดพลาดที่คนมักทำกัน คือการเก็บแปรงสีฟันในภาชนะหรือตู้ที่ปิดสนิทจนแปรงไม่สามารถแห้งสนิทได้เองหลังการใช้งาน แบคทีเรียมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตได้ดีในแปรงสีฟันเปียกชื้น เก็บอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีอากาศถ่ายเทและมืดมากกว่าในแปรงสีฟันที่เก็บไว้ในที่แห้งหรือในในสภาพแวดล้อมที่เปิดโล่ง ดังนั้น หากคุณต้องเก็บแปรงสีฟันไว้ในกระเป๋า แนะนำให้ห่อแปรงสีฟันด้วยกระดาษทิชชู่เพื่อให้ขนแปรงแห้งไวขึ้น
ระหว่างแปรงสีฟันธรรมดากับแปรงสีฟันไฟฟ้า อะไรดีกว่ากัน?
เป็นที่ถกเถียงกันเสมอว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าสามารถทำความสะอาดฟันได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา แต่ที่จริงแล้ว จะใช้แปรงสีฟันธรรมดาหรือแปรงสีฟันไฟฟ้าก็ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน เพราะความสะอาดในช่องปากขึ้นอยู่กับวิธีการแปรงฟันต่างหาก ทั้งแปรงแบบธรรมดาและไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและสามารถทำความสะอาดฟันได้ดี หากใช้อย่างถูกวิธี คือแปรงต้องทำมุมประมาณ 45 องศา ขยับเลื่อนไปมาใต้เหงือกของคุณ การแปรงฟันที่เหมาะสมคือวันละสองครั้งเป็นเวลาประมาณสองนาที โดยต้องแปรงทั้งฟันด้านที่เคี้ยว พื้นผิวด้านบนของฟัน ไปจนถึงด้านหลังของฟันด้วย
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
“เราอยากแนะนำให้คุณมองหาตราประทับรับรองจากสถาบันทันตกรรมทีเ่กี่ยวข้องแต่สิ่งสำคัญคือการปรึกษากับทันตแพทย์ของคุณ เช่น หากคุณกำลังจัดฟันหรือติดเครื่องมืออื่น ๆ ภายในช่องปาก คุณอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมหรือแปรงบางประเภทนอกเหนือจากแปรงสีฟันธรรมดา เพื่อช่วยทำความสะอาดด้านล่างและรอบ ๆ ฟันที่มีการติดเครื่องมือ ทันตแพทย์จะจัดหาอุปกรณ์เสริมหรือแปรงเหล่านั้นให้กับคุณได้ หรือไม่ก็สามารถแนะนำให้คุณเลือกใช้สิ่งที่ถูกต้องได้”— Ada Cooper, D.D.S. ทันตแพทย์จากนิวยอร์กและโฆษกของ American Dental Association (ADA)
แหล่งที่มา:
- สมาคมทันตกรรมอเมริกัน หัวข้อสุขภาพช่องปาก
- Lyne A, Ashley P, Saget S, Porto Costa M, Underwood B, Duane B. การผสมผสานการรักษาพยาบาลพื้นฐานกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม