ProReview เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร อ่านเพิ่มเติม
รีวิว โทรศัพท์พับได้ ที่ดีที่สุด
Pro Review » อิเล็กทรอนิกส์ » 9 อันดับ โทรศัพท์พับได้ ที่ดีที่สุด สำหรับปี 2023

9 อันดับ โทรศัพท์พับได้ ที่ดีที่สุด สำหรับปี 2023

นี่คือโทรศัพท์แบบพับได้ที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถซื้อได้ตอนนี้

แทบจะไม่ต้องมาตั้งคำถามกันแล้วว่าผู้ผลิตมือถือเจ้าไหนผลิตสมาร์ทโฟนพับได้ที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ เฉลยเลยว่าซัมซุงเป็นผู้นำในตลาดนี้แบบเห็น ๆ และเป็นที่ต้องการของผู้ที่ชื่นชอบประเภทนี้มาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Galaxy Z Fold 4 หรือ Galaxy Z Flip 4

แต่ก็ต้องจับตามองว่าซัมซุงจะครองตำแหน่งนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะก็มีข่าวหนาหูมาตลอดว่าแบรนด์อื่น ๆ ก็กำลังเดินหน้าผลิตมือถือพับได้กันอย่างขะมักเขม้น คำถามก็คือปีนี้จะมีเจ้าไหนที่เก่งกาจพอจะสู้กับ Galaxy Z ของซัมซุงได้หรือไม่

ถ้าคุณรอไม่ได้ อยากเป็นเจ้าของมือถือพับได้ตอนนี้เดี๋ยวนี้ ก็ต้องพึ่งซัมซุงไปก่อน ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำมือถือพับได้ที่ดีที่สุดเท่าที่มีในตอนนี้ เพื่อให้คุณรู้ว่าสไตล์การใช้งานของคุณเหมาะกับ Galaxy Z Fold 4 หรือ Galaxy Z Flip 4 มากกว่ากัน และในอนาคตมือถือยี่ห้อไหนมีแววจะขึ้นมาตีคู่กับซัมซุงบ้าง

คู่มือการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน:

9 แนะนำ โทรศัพท์พับได้ ได้แก่

รีวิว โทรศัพท์พับได้ที่ดีที่สุด

1. Samsung Galaxy Z Fold 4

ด้านหน้าและด้านหลังเปิดดู Samsung Galaxy Z Fold 4 สีดำ

Credit: samsung.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

มือถือพับได้ที่ดีที่สุดที่พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้

จอแสดงผลหลัก: 7.6 นิ้ว (21768 x 1812) | จอแสดงผลรอง: 6.2 นิ้ว (2316 x 904) | CPU: Snapdragon 8 Plus Gen 1 | RAM/ความจุข้อมูล: 12GB/256GB, 512GB, 1 TB | ขนาดตอนกางจอ: 6.1 x 5.1 x 0.21 นิ้ว | ขนาดตอนพับจอ: 6.1 x 2.6 x 0.55-0.62 นิ้ว | น้ำหนัก: 262 กรัม

ซัมซุงยังมุ่งหน้าพัฒนามือถือรุ่น Galaxy Z Fold อย่างต่อเนื่อง การเปิดตัว Galaxy Z Fold 4 ทำให้เราเห็นว่าซัมซุงสามารถพัฒนามือถือพับได้ที่ดีมากอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก เราดีใจมากที่ซัมซุงเพิ่มความละเอียดให้เลนส์หลักมาที่ 50MP แล้วยังมีกล้องหลังเพิ่มมาอีก 1 ตัวด้วย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายที่ผู้ใช้ Z Fold รุ่นก่อน ๆ บ่นกันมาอย่างยาวนาน แถมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Plus Gen 1 สุดล้ำก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเป็นอย่างดี

ใน Galaxy Z Fold 4 ซัมซุงได้เปลี่ยนมาใช้บานพับที่บางลง ทำให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าเป็นมือถือที่ค่อนข้างใหญ่เทอะทะอยู่ดี ถึงอย่างนั้นก็ต้องชื่นชมว่าซัมซุงได้พัฒนาให้หน้าจอด้านนอกสามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น ด้วยการเพิ่มแถบงานไว้ที่ด้านล่างของจอทำให้คุณสลับการใช้งานไปมาได้สะดวกขึ้น อีกหนึ่งข้อดีที่คุณน่าจะชอบคืออัตราส่วนจอแสดงผลบนฝาด้านนอกกว้างขึ้น ทำให้ขนาดของ Fold 4ขณะพับถือแล้วพอดีมือกว่ารุ่นก่อน

มือถือพับได้อาจจะยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่ Galaxy Z Fold 4 ได้พัฒนาตัวเองขึ้นมากจนต่อให้มันเป็นมือถือที่มีราคาค่อนข้างแพง แต่ก็ยังน่าสนใจและดูจับต้องได้มากขึ้นสำหรับใครหลาย ๆ คน

เหตุผลที่ควรซื้อ:

  • เลนส์หลักของกล้องหลังมีความละเอียดถึง 50MP
  • แถบงาน ช่วยให้สลับการใช้งานได้ง่ายขึ้น
  • จอแสดงผลด้านนอกบนฝาพับกว้างขึ้น

เหตุผลที่ควรเลี่ยง:

  • ราคายังสูงอยู่
  • กล้องด้านในใต้จอคุณภาพไม่ค่อยดี

 

2. Samsung Galaxy Z Flip 4

ด้านหน้าเปิดมุมมองสีดำ Samsung Galaxy Z Flip 4

Credit: samsung.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

มีพัฒนาการก้าวกระโดดจากรุ่นก่อน

จอแสดงผลหลัก: 6.7 นิ้ว (2640 x 1080) | จอแสดงผลรอง: 1.9 นิ้ว (512 x 260) | CPU: Snapdragon 8 Plus Gen 1 | RAM/ความจุข้อมูล: 8GB/128GB, 256GB, 512GB | ขนาดตอนกางจอ: 6.5 x 2.8 x 0.27 นิ้ว | ขนาดตอนพับจอ: 3.3 x 2.8 x 0.62 ถึง 0.67 นิ้ว | น้ำหนัก: 185 กรัม

Galaxy Z Fold 4 อาจจะได้ตำแหน่งมือถือพับได้ที่ดีที่สุดไปครอบครอง แต่คุณก็ไม่ควรมองข้าม Galaxy Z Flip 4 ไปเลยเสียทีเดียว เพราะมันเพิ่งได้รับการพัฒนายกใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ทนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ Flip 4 กลายร่างเป็นอุปกรณ์ช่วยทำงานคู่ใจที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกไปโดยปริยาย

และต่อให้ตัวกล้องจะไม่ได้ปรับปรุงมากนัก แต่ก็ได้ซอฟต์แวร์ถ่ายรูปโหมดกลางคืนประสิทธิภาพสูงมาช่วยไว้ได้อย่างน่าประทับใจ แน่นอนว่ารุ่นใหม่ล่าสุดนี้สามารถใช้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีกว่า Galaxy Z Flip 3 หลายขุม แต่ถ้าเป็นการถ่ายในเวลากลางวันทั่ว ๆ ไปก็ให้ภาพสวยสีสดตามแบบฉบับของซัมซุง (คือไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ)

หน้าจอที่พับได้ให้สีสดและคมชัด แต่จะยังเห็นรอยพับอยู่ (ถึงอย่างนั้นก็ยังสวยจนเราประทับใจอยู่ดี) สรุปแล้วคือ Galaxy Z Flip 4 ได้ผ่านการพัฒนามาอย่างหนัก สมควรได้รับการแนะนำเป็นที่สุด

เหตุผลที่ควรซื้อ:

  • ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ทนกว่าเดิมมาก
  • มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สุดยอด
  • ราคาเท่าเดิม เริ่มต้นที่ 35,900 บาท

เหตุผลที่ควรเลี่ยง:

  • กล้องถ่ายรูปไม่ได้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนนัก
  • ยังเห็นรอยพับที่หน้าจอชัดอยู่

 

3. Oppo Find N

มุมมองด้านหลัง Oppo Find N สีเงิน

Credit: oppo.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

มือถือพับได้ที่ดีที่สุดนอกเหนือจากซัมซุง

จอแสดงผลหลัก: 7.1 นิ้ว (1920 x 1792) | จอแสดงผลรอง: 5.9 นิ้ว (1972 x 988) | CPU: Snapdragon 888 | RAM/ความจุข้อมูล: 8GB, 12GB/256GB, 512GB | ขนาดตอนกางจอ: 5.5 x 5.2 x 0.3 นิ้ว | ขนาดตอนพับจอ: 5.2 x 2.9 x 0.63  นิ้ว | น้ำหนัก: 275 กรัม

ที่จริงแล้วมือถือพับได้รุ่นนี้จาก Oppo มีข้อดีเหนือมือถือพับได้ที่ดีที่สุดจากซัมซุงอยู่หลายเรื่อง อย่างแรกเลยคือมันไม่มีช่องว่างระหว่างจอพับ เมื่อพับ Oppo Find N ลง หน้าจอทั้งสองฝั่งจะแนบกันสนิท ไม่เหมือนกับ Galaxy Z Fold 3 ที่จะมีรูโหว่เล็กน้อย

แต่ซัมซุงก็ยังได้เปรียบ Oppo อยู่มาก เพราะ Oppo Find N หาซื้อนอกทวีปเอเชียได้ยากเย็นเหลือเกินจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก รุ่นนี้มีจอแสดงผลที่ทำงานได้ดีเยี่ยม ใช้งานได้หลากหลาย ที่สำคัญคือมันถูกออกแบบมาให้มีขนาดพอดีกับกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกง จึงถือว่าเป็นโชคดีของเราที่มีโอกาสได้ลองใช้ Oppo Find N ในขณะที่หลายประเทศยังหาซื้อไม่ได้

เหตุผลที่ควรซื้อ:

  • ดีไซน์สวยงาม
  • จอแสดงผลสุดปัง
  • ขนาดกะทัดรัดใส่กระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้เลยเวลาพับจอลง

เหตุผลที่ควรเลี่ยง:

  • หาซื้อยาก
  • กล้องและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ยังไม่ค่อยเป็นที่น่าประทับใจ

 

4. Samsung Galaxy Z Fold 3

ด้านหน้าเปิดมุมมองสีดำ Samsung Galaxy Z Fold 3

Credit: samsung.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

โทรศัพท์จอพับที่ดีที่สุดในทุกด้าน

จอภาพด้านใน: 7.6 นิ้ว (2208 x 1768) | จอภาพด้านนอก: 6.2 นิ้ว (2268 x 832) | ซีพียู: Snapdragon 888 | แรม/หน่วยความจำ: 12 GB/256 GB, 512 GB | ขนาดเมื่อกางหน้าจอ: 6.2 x 5 x 0.25 นิ้ว | ขนาดเมื่อพับหน้าจอ: 6.2 x 2.6 x 0.56 ถึง 0.62 นิ้ว | น้ำหนัก: 271 กรัม

Samsung Galaxy Z Fold 3 ยังคงเป็นผู้นำที่สร้างมาตราฐานใหม่ให้โทรศัพท์จอพับอีกเช่นเคย โดยจับข้อเสียจากรุ่นเดิม ๆ มาปรับรุงแล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นเข้ามา เช่น อัตราการรีเฟรช 120Hz เหมือนกันทั้ง 2 จอ แต่เราก็หวังว่าราคาจะต่ำกว่านี้ได้อีกเล็กน้อย ถึงอย่างนั้น Galaxy Z Fold 3 ก็ยังมีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า Z Fold 2 ที่เปิดตัวไปในปี 2020

การพัฒนาด้านความทนทานที่สำคัญที่สุดก็คือสามารถกันน้ำได้แล้วที่มาตราฐาน IPX8 และมีหน้าจอที่ทนทานยิ่งขึ้นด้วย ช่วยคลายความกังวลของหลายคนที่สงสัยว่ามันจะทนต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ Samsung ยังร่วมมือกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชันอีกหลายรายเพื่อให้ซอฟต์แวร์เหล่านั้นสามารถใช้งานได้ดีกับหน้าจอเอกลักษณ์ที่ขนาด 7.6 นิ้วของ Galaxy Z Fold 3 นี้

อีกจุดเด่นคือรองรับการใช้งาน S Pen แล้ว แม้ว่าปากกา S Pen จะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถซื้อมาใช้ร่วมกันได้ เหมือนกันกับใน Galaxy S21 Ultra (นั่นแปลว่าต้องซื้อ S Pen และเคสเพิ่มเนื่องจากไม่มีช่องเสียบที่ตัวเครื่อง) แต่หน้าจอขนาดใหญ่ของ Galaxy Z Fold 3 ก็ทำให้คุณทั้งวาดรูปและจดบันทึกได้เต็มที่

หากคุณต้องการโทรศัพท์แบบพับได้ที่ทรงพลังที่สุด มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีครบทุกด้าน Galaxy Z Fold 3 เป็นตัวเลือกที่ดีที่เราแนะนำ (ถ้าราคาไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ)

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Samsung Galaxy Z Fold 3

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • ทนทานขึ้นกว่าเดิม สามารถกันน้ำได้
  • หน้าจอแสดงผลแบบ Dual 120 Hz
  • รองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันจากหลากหลายแอปพลิเคชัน

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ไม่ได้ให้ปากกา S Pen มาด้วย
  • ราคายังแพงอยู่

 

5. Samsung Galaxy Z Flip 3

มุมมองเปิดและปิดของ Samsung Galaxy Z Flip 3 สีเงิน

Credit: samsung.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

โทรศัพท์จอพับราคาจับต้องได้รุ่นแรกของโลก

จอภาพด้านใน: 6.7 นิ้ว (2640 x 1080) | จอภาพด้านนอก: 1.9 นิ้ว (260 x 512) | ซีพียู: Snapdragon 888 | แรม/หน่วยความจำ: 8 GB/128 GB, 256 GB | ขนาดเมื่อกางหน้าจอ: 6.5 x 2.8 x 0.27 นิ้ว | ขนาดเมื่อพับหน้าจอ: 3.4 x 2.8 x 0.63 ถึง 0.67 นิ้ว | น้ำหนัก: 183 กรัม

Samsung ส่ง Galaxy Z Flip 3 มาแทน Galaxy Z Flip 5G รุ่นเดิม ซึ่งก็จัดว่าทำได้ดีขึ้นในทุกด้าน ไม่เพียงแต่ความทนทานที่มากขึ้น แต่หน้าจอก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนหน้าจอด้านนอกก็สามารถแสดงข้อมูลได้มากขึ้นด้วย

การออกแบบตัวเครื่องภายนอกของ Flip 3 ก็ทำได้ดีทั้งขอบสี่เหลี่ยมจัตุรัสและสีสันที่มีมาให้เลือกซื้อด้วย ภายในของตัวเครื่องยังมีการอัพเกรดมาใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon 888 ส่วนกล้องและแบตเตอรี่ยังคงเหมือนกับรุ่นเดิม อีกอย่างที่น่าเสียดายคือ Galaxy Z Flip 3 ไม่มีกล้องเทเล

แต่ในราคาเปิดตัวที่ต่ำกว่า 35,000 บาท ทำให้ Flip 3 เป็นโทรศัพท์จอพับที่ราคาถูกที่สุดในขณะนี้ แน่นอนรุ่นนี้ยังมีข้อเสียอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอายุการใช้งานแบตเตอรี่และรอยพับตรงกลางจอที่มองเห็นได้ค่อนข้างเด่นชัด เมื่อลากนิ้วไปเหนือจอแสดงผลหรือเมื่อแสงส่องเข้ามาจากทางขวาของตัวเครื่อง

Galaxy Z Flip 3 น่าจะเป็นมือถือจอพับที่คนส่วนใหญ่จะเลือกซื้อ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงมาก หน้าตาน่ารัก พับเก็บได้สวยงาม พอดีกับการเก็บใส่ในกระเป๋าส่วนใหญ่ และหากมีงบเพิ่มอีกนิดหน่อยก็สามารถเลือกซื้อ Galaxy Z Flip 3 Bespoke Edition ที่สามารถเลือกสีของแผงด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงกรอบของโทรศัพท์ได้เอง

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Samsung Galaxy Z Flip 3

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • ราคาจับต้องได้
  • ทนทานกว่าเดิม
  • จอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่น้อย
  • ไม่มีกล้องเทเล

 

6. Samsung Galaxy Z Fold 2

มุมมองด้านหลังแบบเปิดของ Samsung Galaxy Z Fold 2 สีชมพู

Credit: samsung.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

โทรศัพท์แบบพับได้ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ตอนนี้

ขนาดหน้าจอหลัก: 7.6 นิ้ว (2208 x 1768; 120Hz) ขนาดหน้าจอรอง: 6.2 นิ้ว (2260 x 816 ) CPU: Snapdragon 865 Plus หน่วยความจำ/ความจุ: 12GB/256GB ขนาดตอนเปิดฝาพับ: 6.2 x 5 x 0.27 นิ้ว ขนาดตอนปิดฝาพับ: 6.2 x 2.6 x 0.66 นิ้ว น้ำหนัก: 9.9 ออนซ์

ในรุ่นใหม่นี้ คุณจะไม่พบข้อบกพร่องในการออกแบบอย่างที่เคยเจอบน Galaxy Fold รุ่นดั้งเดิม Samsung ย้อนกลับไปทบทวนการออกแบบโทรศัพท์พับได้รุ่นแรก ปรับปรุงบานพับ และความทนทาน จนกลายเป็น Galaxy Z Fold 2 ผลลัพธ์ที่ได้คือโทรศัพท์แบบพับได้ที่ดีที่สุด ช่วยให้คุณทำสิ่งต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในระหว่างเดินทาง

โทรศัพท์ของ Samsung รุ่นนี้จะมีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ภายใน และด้วยกลไกบนฝาพับ ทำให้สามารถเปิด Galaxy Z Fold 2 ในมุมต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย มี Flex Mode แบบใหม่ที่จะแบ่งการแสดงผลออกเป็นพื้นที่สำหรับรับชมและใช้งาน การใช้แอปหลายแอปพร้อมกับก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น คุณสามารถจัดกลุ่มแอปเข้าด้วยกันเพื่อเปิดใช้งานพร้อมกันได้ถึงสามแอป

หน้าจอฝาครอบด้านนอกของ Galaxy Z Fold 2 ขยายเป็น 6.2 นิ้ว ทำให้คุณมีพื้นที่ทำงานกว้างขวาง โดยไม่ต้องเปิดโทรศัพท์เข้าหน้าจอหลัก แต่ถ้าคุณตัดสินใจเปิดโทรศัพท์ ก็มีโหมดต่อเนื่องที่ให้คุณเลือกจุดที่คุณใช้งานค้างไว้ แล้วทำต่อได้บนจอแสดงผลภายในที่ใหญ่ขึ้น

Samsung เปิดตัว Galaxy Z Fold 3 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งทางแบรนด์ยืนยันว่าจะเพิ่มการรองรับ S Pen เช่นเดียวกับ Galaxy S21 Ultra และอาจมีการปรับปรุงอื่น ๆ เช่น การออกแบบที่ทนทานยิ่งขึ้น มีจอด้านใต้ เป็นต้น ซึ่งเราหวังว่าจะมีราคาเปิดตัวที่ถูกกว่ารุ่นก่อน ๆ เช่นกัน

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • มี Flex Mode ใช้งานได้อเนกประสงค์
  • ดีไซน์ทนทานขึ้น
  • หน้าจอใหญ่จุ

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ราคาค่อนข้างแพง
  • มีน้ำหนักมาก

 

7. Microsoft Surface Duo 2

มุมมองเปิดด้านหน้าของ Microsoft Surface Duo 2 สีดำ

Credit: microsoft.com/th-th/

 

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

โทรศัพท์ 2 จอที่ดีที่สุด

จอภาพหลัก: 8.3 นิ้ว (2688 x 1892) | จอภาพที่สอง: 5.3 นิ้ว (1344 x 1892) | ซีพียู: Snapdragon 888 | แรม/หน่วยความจำ: 8 GB/128 GB, 256 GB, 512 GB | ขนาดเมื่อกางหน้าจอ: 5.7 x 7.3 x 0.21 นิ้ว | ขนาดเมื่อพับหน้าจอ: 5.7 x 3.6 x 0.43 นิ้ว | น้ำหนัก: 284 กรัม

Microsoft Surface Duo 2 ไม่ใช่มือถือจอพับเหมือนกับ Fold 3 และ Flip 3 แต่มันคือโทรศัพท์ที่มีหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว 2 จอทำงานแยกกัน เมื่อกางออกคุณจึงมีพื้นที่ทำงานบนหน้าจอรวมกัน 8.3 นิ้ว สามารถใช้งาน 2 แอปพลิเคชันได้แยกกัน แต่ก็ยังมองเห็นช่องว่างที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 จออยู่

จึงเหมาะกับการใช้งานแอปพลิเคชันที่ปรับแต่งมาสำหรับ Surface Duo โดยเฉพาะ (สามารถทำงานแยกกันได้ทั้ง 2 ฝั่งของจอ) ทั้งนี้คุณยังสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ โดยเรียกใช้ 2 แอปพลิเคชันที่คนละฝั่งของหน้าจอ

เราชื่นชม Microsoft ที่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องมากมายที่เกิดขึ้นใน Surface Duo รุ่นก่อนได้แล้ว ในส่วนของตัวเครื่องยังคงออบแบบให้ดูสวยสง่าเหมือนเดิม แต่ปัญหาสำคัญก็คือการที่ Microsoft เลือกให้จอทำงานแบบ 2 จอแยกกัน ไม่ใช่การขยายพื้นที่การทำงานให้กลายเป็นจอใหญ่เพียงจอเดียว ดังนั้นมันจึงเป็นโทรศัพท์ที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนมาก แต่ก็ยังไม่ดีที่สุดเมื่อต้องการใช้งานโทรศัพท์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • โปรเซสเซอร์และกล้องที่พัฒนาจากรุ่นเดิมแบบก้าวกระโดด
  • ปรับแต่งแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับการใช้งาน 2 หน้าจอ
  • ดีไซน์สวยสง่า

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • แพงกว่า Surface Duo รุ่นแรก
  • ยังทำงานแยก 2 หน้าจอ ไม่สามารถใช้งานจอใหญ่จอเดียวได้

 

8. Samsung Galaxy Z Flip 5G

มุมมองเปิดและปิดของ Samsung Galaxy Z Flip 5G สีชมพู

Credit: samsung.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

โทรศัพท์แบบพับได้ที่พับและตั้งได้อยู่ตัว

ขนาดหน้าจอหลัก: 6.7 นิ้ว (2636 x 1080) ขนาดหน้าจอรอง: 1.1 นิ้ว (300 x 112) CPU: Snapdragon 865 Plus หน่วยความจำ/ความจุ: 8GB/256GB ขนาดตอนเปิดฝาพับ: 6.6 x 2.9 x 0.28 นิ้ว ขนาดตอนปิดฝาพับ: 3.4 x 2.9 x 0.61-0.68 นิ้ว น้ำหนัก: 6.46 ออนซ์

หาก Galaxy Z Fold 2 เน้นเรื่องฟังก์ชันการทำงาน รุ่น Galaxy Z Flip 5G ก็จะเน้นที่สไตล์ ทาง Samsung นำการออกแบบโทรศัพท์ฝาพับมาใช้ใหม่ จากที่เคยเป็นที่นิยมเมื่อเกือบสองทศวรรษที่แล้ว และนำมาผสมกับหน้าจอพับได้แบบแนวนอน ผลลัพธ์ที่ได้คืออุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด ใส่ได้พอดีกับกระเป๋าเสื้อของคุณ และยังขยายเป็นหน้าจอ 6.7 นิ้วเมื่อคุณเปิดโทรศัพท์ได้ด้วย

ความโดดเด่นของโทรศัพท์เครื่องนี้ก็ยังมีอีกหลายประการ ก่อนที่ Galaxy Z Fold 2 จะออกมา รุ่น Z Flip ก็ได้แนะนำให้เรารู้จักกับการใช้งาน Flex Mode และความสามารถในการเข้าถึงแอปบนหน้าจอที่แยกจากกันได้ หน้าจอภายนอกที่มีขนาดเล็กอาจไม่มีประโยชน์เท่ากับหน้าจอพับแบบเต็ม แต่ก็สามารถแจ้งเตือนด้วยไฟกระพริบ และทำหน้าที่เป็นช่องมองภาพเมื่อคุณกำลังถ่ายเซลฟี่โดยไม่ต้องเปิดโทรศัพท์

เราได้รีวิว Galaxy Z Flip รุ่นดั้งเดิมไปแล้ว แต่ Samsung ได้ออกรุ่น 5G ที่ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Snapdragon 865 Plus (เทียบกับ Flip รุ่นดั้งเดิมที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 855 Plus) นอกเหนือจากนั้น ก็มีการปรับปรุงคุณสมบัติสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่ง Galaxy Z Flip 5G มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Z Flip ที่เราเคยทดสอบ ตอนนี้ซัมซุงได้ลดราคาของ Galaxy Z Flip 5G เป็นราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 42,000 บาท ทำให้เป็นหนึ่งในโทรศัพท์แบบพับได้ที่ราคาไม่แพงมาก เช่นเดียวกับ Galaxy Z Fold เราหวังว่า Galaxy Z Flip 3 ที่มาถึงในเดือนสิงหาคมนี้จะมีการปรับปรุงที่น่าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นอีก

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • ดีไซน์กะทัดรัด พกพาสะดวก
  • ใช้งาน Flex Mode ได้
  • เชื่อมต่อ 5G

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อายุแบตเตอรี่ไม่ยาวนานนัก
  • เป็นรอยและเป็นคราบง่าย

 

9. Motorola Razr 5G

มุมมองเปิดและปิดของ Motorola Razr 5G สีดำ

Credit: motorola.com/th/

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

โทรศัพท์แบบพับรุ่นฮิตจากอดีต

ขนาดหน้าจอหลัก: 6.2 นิ้ว (2142 x 876) ขนาดหน้าจอรอง: 2.7 นิ้ว (800 x 600) CPU: Snapdragon 765GRAM/ Storage: 8GB/256GB ขนาดตอนเปิดฝาพับ: 6.7 x 2.9 x 0.31 นิ้ว ขนาดตอนปิดฝาพับ: 3.6 x 2.9 x 0.63 นิ้ว น้ำหนัก: 6.77 ออนซ์

Motorola หวังว่าจะสามารถสร้างสรรค์ Motorola Razr 5G ได้แบบที่ Samsung ทำกับ Galaxy Z Fold 2 คือการปรับปรุงโทรศัพท์พับได้รุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น ทีมงานของเรายังไม่มีโอกาสทดสอบ Motorola Razr 5G รุ่นใหม่ แต่จากการรีวิว Motorola Razr รุ่นดั้งเดิม (ปี 2019) เราเชื่อว่า Motorola จะพัฒนาหลาย ๆ อย่างได้ในรุ่นใหม่รุ่นนี้

Razr รุ่นดั้งเดิมเป็นโทรศัพท์ยุคใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ย้อนเวลา ด้วยการออกแบบโทรศัพท์ฝาพับในสมัยก่อน แต่คุณภาพงานประกอบไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก กล้องถ่ายภาพทำให้เราผิดหวัง และโทรศัพท์ก็ใช้งานในการทดสอบแบตเตอรี่ของเราได้เพียง 6 ชั่วโมง

ทางแบรนด์ได้แก้ไขปัญหาบางอย่างใน Razr เวอร์ชัน 5G รุ่นใหม่นี้ เห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงการออกแบบที่สำคัญ เช่น ช่วงขอบเครื่องที่เรียวขึ้น บานพับที่ทนทาน และหน้าจอพับทรงหยดน้ำที่ช่วยให้ทั้งสองด้านของโทรศัพท์โล่งเมื่อปิด หน้าจอ Quick View ภายนอกรองรับการควบคุมการทำงานด้วยการสัมผัสแล้ว และคุณสามารถใช้หน้าจอนั้นทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม โปรเซสเซอร์ Snapdragon 765G ที่แรงขึ้น น่าจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ 5G ด้วย

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คุ้มกับราคาของ Motorola Razr รุ่นใหม่ 5G ที่สูงถึง 42,000 บาทหรือไม่ เราจะรอดูจากการทดสอบทันทีที่ได้โอกาสลองใช้รุ่นนี้

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • มีหน้าจอเมนูลัด ควบคุมการทำงานได้
  • รองรับการเชื่อมต่อ 5G

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ราคาแพง
  • ใช้ไม่ได้กับบางเครือข่าย

 

สิ่งที่ควรพิจารณาในการซื้อโทรศัพท์จอพับ

3 มือถือจอพับยอดนิยมจาก Samsung, Oppo และ Microsoft

ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ต้องพิจารณาก่อนว่าคุณจะได้ใช้ฟังก์ชั่นอะไรในโทรศัพท์จอพับที่โทรศัพท์ทั่ว ๆ ไปทำให้คุณไม่ได้บ้าง เพราะถึงราคาของ Galaxy Z Flip 3 จะพอจับต้องได้ แต่ก็ยังจัดว่าแพงอยู่ดี ดังนั้นหากคุณไม่ต้องการใช้งานหน้าจอที่ต้องพับได้ขนาดนั้น คงจะดีกว่าถ้าเลือกซื้อแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์ขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดที่เราเคยรีวิวไว้แล้ว

หากลองพิจารณาแล้วโทรศัพท์แบบพับได้น่าจะช่วยให้คุณทำงานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ก็อย่าลืมพิจารณาเรื่องการออกแบบตัวเครื่องด้วย โทรศัพท์จอพับรุ่นก่อน เช่น Galaxy Fold และ Motorola Razr มีการออกแบบที่แปลกใหม่ทำให้เราต้องหยุดมอง ส่วน Galaxy Z Fold 2 ก็มีการพัฒนาให้ทนทานมากขึ้นเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังไม่กันน้ำ (ต้องเป็นรุ่น Galaxy Z Fold 3 และ Galaxy Z Flip 3 ถึงจะกันน้ำ) ที่สำคัญอย่าลืมเช็คก่อนว่าผู้ผลิตระบุเอาไว้ว่าโทรศัพท์รุ่นนั้นสามารถเปิดและปิดได้กี่ครั้ง

ก่อนจะซื้อมือถือจอพับ ต้องพิจารณาฟังก์ชันการทำงานของทั้งจอด้านในและจอด้านนอก ส่วนใหญ่จะอยู่ที่จอด้านนอกมากกว่า ว่าต้องการให้แอปพลิเคชันสามารถทำงานได้ที่จอด้านนอกด้วย หรือแค่ต้องการให้จอด้านนอกสามารถแสดงการแจ้งเตือนหรือทำงานได้อีกไม่กี่ฟังก์ชันก็เพียงพอแล้ว และหน้าจอต้องรองรับฟีเจอร์เฉพาะบางอย่าง เช่น การใช้งานแอปพลิเคชันต่อเนื่องจากจอนอกสู่จอในทันทีที่กางหน้าจอออกของ Samsung

โทรศัพท์จอพับบางรุ่นก็ไม่ใช่จอพับจริง ๆ เช่น Microsoft Surface Duo 2 ที่เมื่อกางหน้าจอออกก็จะพบกับหน้าจอ 2 จอทำงานแยกกัน ซึ่ง LG หลายรุ่นก็ใช้วิธีเดียวกันนี้ด้วย (แม้ว่า LG จะเลิกทำโทรศัพท์แล้วก็เถอะ)

นอกจากขนาด อย่าลืมพิจารณาว่าโทรศัพท์จอพับเป็นโทรศัพท์ที่คุณสามารถพกพาได้สะดวก เหมือนกันกับการตัดสินใจเลือกซื้อโทรศัพท์ทั่ว ๆ ไป ซึ่งรวมถึงโปรเซสเซอร์ กล้อง และโดยเฉพาะเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่จะหมดไวกว่าโทรศัพท์ทั่วไปเพราะต้องใช้พลังงานในการเปิดหลายหน้าจอ

อีกอย่างที่ควรพิจารณาคือโทรศัพท์จอพับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แม้จะเพิ่งเปิดตัว Fold 3 และ Flip 3 ไปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ก็มีข่าวลือว่า Samsung กำลังพัฒนาหน้าจอแบบเลื่อนได้ในชื่อ Galaxy Scroll

ข่าวลือจากค่ายอื่นที่น่าสนใจก็คือ Google ที่กำลังเตรียมพร้อมเปิดตัว Pixel Fold เร็ว ๆ นี้ (เพราะยังไม่ได้เห็นรุ่นนี้ในงานเปิดตัว Pixel 6 เราจึงเดาว่า Pixel Fold น่าจะมาในช่วงต้นปี 2022) อีกรุ่นที่น่าติดตามก็คือ iPhone Flip ที่มีข่าวลือยืนยันว่า iPhone กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเปิดตัวนั่นเอง

 

วิธีที่เราใช้ทดสอบโทรศัพท์แบบพับได้

โทรศัพท์พับได้ 2 เครื่องเปรียบเทียบกัน

ทีมงานของเราทดสอบโทรศัพท์แบบพับได้ที่ดีที่สุดด้วยมาตรฐานเดียวกันกับที่ใช้ตรวจสอบสมาร์ทโฟนทุกรุ่น โดยทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการวัดประสิทธิภาพสังเคราะห์เป็น Geekbench 5 และ 3DMark เพื่อวัดประสิทธิภาพกราฟิก มีการทดสอบการแปลงรหัสวิดีโอในโทรศัพท์แต่ละเครื่องโดยใช้แอป Adobe Premiere Rush และจับเวลาผลลัพธ์

ในการวัดคุณภาพการแสดงผลของหน้าจอโทรศัพท์ ทีมงานได้กำหนดความสว่างของแผง (เป็น nits) รวมถึงสีสันของหน้าจอแต่ละหน้าจอ (ช่วงสี DCI-P3) ในกรณีเหล่านี้ ตัวเลขที่สูงกว่าจะแสดงผลลัพธ์ที่ดีกว่า จากนั้นจึงวัดความถูกต้องของสีของแต่ละแผงด้วยการจัดระดับ Delta-E ซึ่งตัวเลขที่ต่ำกว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า และคะแนน 0 นั้นแปลว่าให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ

การทดสอบแบตเตอรี่เป็นวิธีเฉพาะของเราเอง โดยใช้โทรศัพท์ท่องเว็บผ่านเซลลูลาร์ พร้อมตั้งค่าความสว่างหน้าจอไว้ที่ 150 นิตเท่ากัน จากนั้นเราจะจับเวลาดูว่าใช้งานได้นานแค่ไหนก่อนแบตหมด สำหรับโทรศัพท์แบบพับได้ เราทำการทดสอบแบบนี้บนจอแสดงผลหลักของโทรศัพท์

สำหรับการทดสอบกล้องในโทรศัพท์แบบพับได้แต่ละเครื่อง ใช้การนำกล้องออกนอกสถานที่เพื่อถ่ายภาพเปรียบเทียบ โดยปกติแล้วจะใช้อุปกรณ์อื่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน มาใช้ถ่ายภาพประเภทเดียวกัน ซึ่งจะมีทั้งโทรศัพท์แบบพับได้รุ่นอื่น ๆ ที่ใช้ในการทดสอบ หรือใช้อุปกรณ์อื่นในระดับราคาเดียวกัน

เนื้อหาโทรศัพท์และแบรนด์โทรศัพท์อื่นๆ:

 

แหล่งที่มา: Samsung, Microsoft, Motorola, Oppo

  • กิตติพงษ์ โยธาภักดี
    นักเขียนเทคโนโลยี

    ณัฐ เป็นกูรูด้านเทคโนโลยีและไอทีประจำ Pro Review โดยอยู่ในวงการไอทีมานานกว่า 10 ปี โดยสร้างเนื้อหา ข่าวสาร และบทวิจารณ์สินค้าสำหรับเว็บไซต์เทคโนโลยีหลายแห่งในประเทศไทย จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอกภาษาอังกฤษ ทำให้เขาติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทั่วโลกและติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ และข่าวล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทดลองใช้สินค้าไอทีก่อนที่จะวางจำหน่าย ทำให้บทความของเขาเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด

  • Pro Review Team
    รีวิวสินค้า

    เหล่าบรรณาธิการ นักเขียน ทีมค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์และนักรีวิวของ Pro Review คือหน่วยซัพพอร์ตของนักเขียนหลักและผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคในการเขียนบทความแต่ละชิ้น ซึ่งทีมงาน Pro Review ทุกคนแม่นในการหาข้อมูลเพื่อมารีวิว อธิบายรายละเอียดและให้คำแนะนำมาก เพราะยึดข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญหรือจากการเปรียบเทียบสินค้าแต่ละรุ่นและยี่ห้อเพื่อให้นักเขียนนำเสนอบทความได้ครอบคลุมที่สุด ที่สำคัญคือบทความของเราผ่านการค้นคว้าข้อมูลเชิงลึกโดยทีมงาน Pro Review มาแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่คุณได้คือข้อมูลที่อัพเดทและเป๊ะทุกรายละเอียด