ProReview เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร อ่านเพิ่มเติม
รีวิว 8 อันดับ ไมโครโฟน เกม มิ่ง ยี่ห้อไหนดี
Pro Review » อิเล็กทรอนิกส์ » รีวิว 8 อันดับ ไมค์เกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

รีวิว 8 อันดับ ไมค์เกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้จากรีวิวของเรา

การใช้ไมโครโฟนเกมที่ดีที่สุดจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเสียงของคุณจะชัดเจนเสมอ แม้ในเกมที่เล่นกับผู้เล่นคนอื่นหลายคนสุดเข้มข้น สำหรับผู้เล่นจํานวนมาก หนึ่งในชุดหูฟังเกมมิ่งที่ดีที่สุดอาจจะเพียงพอสำหรับหลายคน แต่ไมโครโฟนที่แนบมาในหูฟังเหล่านี้จะไม่สามารถเทียบได้เลยกับรายละเอียดเสียงบนไมโครโฟนสำหรับเดสก์ท็อปโดยเฉพาะ

นอกจากเสียงของคุณจะดีขึ้นแล้ว เสียงจากเพื่อน ๆ ร่วมทีมก็ชัดเจนขึ้นด้วย ไมโครโฟนสำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุดจะทำให้ทีมคุณได้เปรียบในการแข่งขัน เชื่อมต่อการสื่อสารที่เป็นกุญแจสำคัญ ลองดูว่ามีไมโครโฟนเกมมิ่งรุ่นใดบ้างที่ทำให้ทีมงานของเราประทับใจมากที่สุดจากการทดสอบ

8 แนะนำ ไมค์เกมมิ่ง ได้แก่

ไมค์เกมมิ่งที่ดีที่สุดคือรุ่นไหนบ้าง

ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดของเราคือ Blue Yeti เป็นไมโครโฟน USB ที่ดีที่สุดที่ใช้ได้แบบครอบจักรวาล และเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการเล่นเกมที่น่าตื่นเต้น นําเสนอคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมในแพ็คเกจที่ใช้งานง่าย และออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างดี

ราคาของรุ่น Yeti ก็ไม่ได้แพงเกินไป แม้ว่า JLab Talk จะเป็นอีกตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม และมีราคาต่ำกว่าเล็กน้อย ให้การออกแบบที่มีสีสันมากกว่า และจับคู่ PC ที่ติดตั้ง RGB ได้ดีกว่า รวมทั้งคุณภาพเสียงที่ดีมาก ๆ ด้วย

หากคุณมีงบเพียงพอ Blue Yeti X ก็เป็นรุ่นที่ได้ปรับปรุงการใช้งานจาก Yti รุ่นมาตรฐาน ส่วนอีกรุ่นที่น่าสนใจคือ Blue Snowball Ice ซึ่งเป็นไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่ดีมาก เหมาะผู้ที่มีงบประมาณน้อยกว่า

 

ไมโครโฟนเกมมิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้วันนี้

1. HyperX QuadCast S

HyperX QuadCast S

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดพร้อมไฟ RGB

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Bidirectional, Cardioid, Omnidirectional, Stereo | ขนาด: 10 x 5 x 5 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

ฮาร์ดแวร์สำหรับเล่นเกมในปัจจุบันเต็มไปด้วยแสง RGB ตั้งแต่คีย์บอร์ดเกมที่ดีที่สุดไปจนถึงโมดูล RAM ระดับล่าง การมีไมโครโฟน RGB ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณต้องการลูกเล่นสีจากไมโครโฟนของคุณกับแสงที่กำหนดเองจากแหล่งอื่น ๆ ในการตั้งค่า PC ของคุณ HyperX QuadCast S ก็เป็นไมโครโฟนที่ตอบโจทย์มาก

คุณสามารถปรับแสงด้านหน้าได้พร้อมกับแฟลชด้านหลังที่ให้แสงค่อนข้างสว่าง รองรับประสิทธิภาพการทำงานด้วย QuadCast S โดยไม่ต้องมีการตั้งค่าพิเศษใด ๆ และยังมีตัวกรองเสียงในตัว ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเสียงกระแทกโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ไม่มีเสียงดังน่ารําคาญแทรกเข้ามา ถ้าคุณต้องการเก็บไมโครโฟนไว้ใกล้กับเมาส์และแป้นพิมพ์ของคุณ ก็มีรุ่นนี้ที่เหมาะกับการใช้งาน

เหตุผลในการซื้อ:

  • คุณภาพเสียงดี
  • แสงที่ปรับแต่งได้
  • เมาท์ช็อตและป๊อปฟิลเตอร์ในตัว

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • แพงกว่าควอดคาสท์มาตรฐาน

 

2. Blue Yeti

Blue Yeti

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดโดยรวม

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Bidirectional, Cardioid, Omnidirectional, Stereo | ขนาด: 11.6 x 4.9 x 4.7 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

แน่นอนว่ามีไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่เป็นรุ่นใหม่กว่าและมีราคาถูกกว่ารุ่นนี้ แต่โดยรวมแล้ว Blue Yeti ยังเป็นรุ่นที่ดีที่สุดในการทดสอบ ด้วยคุณภาพเสียงที่เหมาะกับการบันทึกแบบมืออาชีพและการแชทด้วยเสียงในเกมหรือ Discord นอกจากนี้ยังง่ายต่อการตั้งค่าและใช้งานเป็นไมโครโฟน PC ได้ด้วย

คุณจะไม่สามารถปรับความสูงของขาตั้งได้ แต่การปรับเอียงก็เพียงพอที่จะทำให้ Yeti อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกสบายและสามารถใช้ขาตั้งเพื่อทดแทนแขนไมโครโฟนได้เช่นกัน ทำให้ Blue Yeti เป็นตัวเลือกยอดนิยมของทุกคนตั้งแต่นักเล่นเกม PC ไปจนถึงสตรีมเมอร์มืออาชีพ

เหตุผลในการซื้อ:

  • มีโหมดใช้งานหลากหลาย
  • ราคาดี
  • คุณภาพเสียงสูง

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ปรับความสูงไม่ได้

 

3. JLab Talk

JLab Talk

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่คุ้มค่าที่สุด

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Bidirectional, Cardioid, Omnidirectional, Stereo | ขนาด: 9.9 x 7.6 x 7.6 นิ้ว (พร้อมขาตั้งกล้องขยาย) | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

หากมีงบประมาณน้อยเกินกว่าจะซื้อ Blue Yeti เราแนะนำให้ลองพิจารณาไมโครโฟน JLab Talk ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ เพราะมีการจับเสียงที่นุ่มลึก และทำงานได้ดีทันทีที่คุณเสียบสาย USB

เรายังชื่นชอบวิธีการจัดการขาตั้งเพื่อให้สามารถปรับความสูงได้ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่ Blue Yeti ก็ไม่มี ขาตั้งนี้อาจจะต้องการพื้นที่บนโต๊ะทำงานของคุณอีกเล็กน้อย ดังนั้นอย่าลืมเผื่อพื้นที่ใกล้คีย์บอร์ดเอาไว้ด้วย หรือใช้แนบเป็นแขนไมโครโฟนแทนก็ได้

เหตุผลในการซื้อ:

  • คุณภาพเสียงที่ดี
  • คุ้มค่าเงินที่จ่าย
  • ใช้งานได้อเนกประสงค์

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • มีเสียงรบกวนพื้นหลัง
  • โหมด Bidirectional ทำงานได้ไม่ดีนัก

 

4. Blue Yeti X

Blue Yeti X

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมระดับไฮเอนด์ที่ดีที่สุด

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Bidirectional, Cardioid, Omnidirectional, Stereo | ขนาด: 11.4 x 4.3 x 4.8 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

แน่นอนว่าไมโครโฟนเกมมิ่งรุ่นอัปเกรดจาก Yeti Blue ติดอันดับรุ่นที่ดีที่สุดเช่นกัน Yeti X ไม่ได้ให้คุณภาพเสียงที่แตกต่างกันมากนัก แต่มีการออกแบบ Yeti ที่กว้างและปรับให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

Yeti X ย้ายแผงการควบคุมจากด้านหลังของไมโครโฟนไปด้านหน้า ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงและทำการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้อย่างละเอียด มีจอแสดงผล LED แสดงระดับเสียงอินพุตไมโครโฟนของคุณตลอดเวลา ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเสียงดังชัดเจนระหว่างการเล่นเพียงพอหรือไม่ แน่นอนว่า Blue Yeti ที่ราคาต่ำกว่า แต่ก็เพียงพอกับการใช้งาน แต่ถึงอย่างนั้นการปรับแต่งของ Yeti X ก็อาจจะมีประโยชน์กับความต้องการของคุณก็ได้

เหตุผลในการซื้อ:

  • คุณภาพเสียงแบบ Yeti Blue
  • มีการควบคุมที่ดีขึ้น
  • ยืดหยุ่น แต่ไม่ซับซ้อนเกินไป

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ราคาแพงกว่า

 

5. Elgato Wave: 3

Elgato Wave 3

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนเกมมิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสตรีมเมอร์

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 6.0 x 2.6 x 1.6 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

The Wave: 3 เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับสตรีมเมอร์มากกว่าเป็นแค่ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมทั่วไป มันถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับตัวควบคุม Elgato Stream Deck โดยเฉพาะ และใช้แอป Wave Link ทำให้จัดการเสียงที่แตกต่างกันได้ แต่ถ้าคุณต้องการเล่นเกมและปิดเว็บแคม ก็อาจจะไม่ต้องใช้คุณสมบัตินี้

แต่แม้ว่าคุณจะไม่ใช้สตรีม คุณสมบัติอื่น ๆ ของ Wave: 3 ก็ยังทำงานได้ดีในการใช้งานในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและยังเป็นไมโครโฟน USB ที่ใช้งานง่ายอีกตัวหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ใช่ไมโครโฟนระดับมืออาชีพที่มีขั้วต่อ XLR ถ้าจัดตำแหน่งอย่างถูกต้อง และเลือกรูปแบบการบันทึกที่เหมาะสม คุณอาจต้องระวังเสียงรบกวนนิดหน่อย เพราะการบันทึกเสียง Cardioid จะรับเสียงรบกวนพื้นหลังเข้ามา

เหตุผลในการซื้อ:

  • ออกแบบมาสำหรับการสตรีมโดยเฉพาะ
  • มีการตั้งค่าที่ใช้งานง่าย
  • ดีไซน์เรียบง่าย

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ไม่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นอื่น ๆ
  • ไวต่อเสียงรบกวนพื้นหลัง

 

6. Blue Yeti Nano

Blue Yeti Nano

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนเกมมิ่งพกพาที่ดีที่สุด

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid, Omnidirectional | ขนาด: 8.3 x 3.8 x 4.3 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

Blue Yeti Nano นั้นจะมีคุณสมบัติผสมผสานระหว่าง Blue Yeti มาตรฐานและ Blue Snowball Ice นำเสนอคุณภาพการบันทึกแบบเดียวกับรุ่นอื่น แต่มาในขนาดที่เล็กลง เหมาะกับการพกพา และราคาที่ต่ำกว่า

แน่นอนว่า Blue Yeti Nano ฟังดูดีและยังคงมาในราคาที่ไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับคู่แข่ง JLab Talk ให้เสียงที่ดีกว่าเล็กน้อย และมีรูปแบบทิศทางพิเศษ พร้อมขาตั้งที่ปรับได้ แต่ Nano ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกับการบันทึก Cardioid ที่ทำงานได้ดีสำหรับการเล่นเกมและการสตรีม พร้อมโหมดรอบทิศทาง รองรับการอัดพอดแคสต์ด้วยลําโพงหลายตัว

เหตุผลในการซื้อ:

  • คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
  • โครงสร้างมั่นคง
  • ราคาถูกกว่า Yeti Blue

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ไม่มีโหมดสเตอริโอ
  • มีการควบคุมขั้นพื้นฐานเท่านั้น

 

7. EPOS B20

EPOS B20

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนเกมมิ่งที่มีดีไซน์น่าสนใจ

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Bidirectional, Cardioid, Omnidirectional, Stereo | ขนาด: 9.4 x 4.1 x 4.1 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

เช่นเดียวกับ Elgato Wave: 3 ไมโครโฟนรุ่น B20 นี้ออกแบบมาเพื่อเป็นไมโครโฟนสำหรับสตรีมมิ่ง แต่ไม่มีเลเซอร์โฟกัส คุณจึงใช้งานได้สะดวกกับการใช้แบบส่วนตัว พร้อมคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์อย่างปุ่มและหน้าปัด ตั้งค่าง่ายผ่าน USB และซอฟต์แวร์เสริม EPOS Gaming Suite สำหรับการปรับแต่งขั้นสูง เหมาะกับการใช้งานในบริเวณที่มีเสียงรบกวน

B20 ยังเป็นหนึ่งในไมโครโฟนเกมที่มีดีไซน์สะอาดตา และดูเป็นมืออาชีพ เทียบกับรุ่นอื่นอย่าง QuadCast S ที่อาจจะมีการตกแต่งมากเกินไป ราคายังค่อนข้างแพง และคุณภาพเสียงดีแต่ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ

เหตุผลในการซื้อ:

  • ดีไซน์คมชัดโดดเด่น
  • โครงโลหะแข็งแรง
  • มีการควบคุมมากมาย

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ราคาแพง
  • ไม่มีตัวบ่งชี้ระดับเสียง
  • คุณภาพเสียงดีปานกลาง

 

8. Blue Snowball Ice

Blue Snowball Ice microphone

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนเกมมิ่งราคาถูกที่ดีที่สุด

ประเภทไมโครโฟน: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 10.0 x 7.9 x 4.9 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

ถ้าคุณใช้จ่ายงบทั้งหมดไป PC แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะคุณยังสามารถซื้อ Blue Snowball Ice ได้ในราคาไม่แพง ไมโครโฟน USB แบบ rotund รุ่นนี้มีดีไซน์แบบรุ่น Blue ดั้งเดิม พร้อมความเรียบง่ายในการใช้งาน ด้วยการเสียบปลั๊ก มีขาตั้งที่ปรับแต่งได้

คุณภาพเสียงเป็นสิ่งที่เราประทับใจมาก ๆ แม้ว่าจะไม่เท่ากับ Yeti หรือ Jlab Talk และแม้ว่าจะมีแค่โหมด cardioid ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเล่นเกมเลย แน่นอนว่าไมโครโฟนอื่น ๆ อีกมากมายมีรูปแบบเสียงหลากหลายกว่า แต่สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะและบันทึกเสียงตัวเอง ก็เป็นคุณสมบัติที่คุณต้องการ

เหตุผลในการซื้อ:

  • ราคาไม่แพง
  • ติดตั้งง่าย
  • รวมขาตั้งไว้ด้วย

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์
  • ไม่มีคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ

 

วิธีการเลือกไมค์เกมมิ่งที่ดีที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียวของไมโครโฟนเกมมิ่ง คือคุณภาพเสียง ไมโครโฟนที่คุณซื้อจะต้องเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่าไมโครโฟนบนชุดหูฟัง ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเหตุผลที่เราอยากเน้นย้ำเรื่องคุณภาพเสียงในการรีวิวแต่ละรุ่นมากกว่าคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ หรือการใช้วัสดุระดับพรีเมียม

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่ดี แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าไมโครโฟนที่คุณใช้ทำให้คุณสื่อสารได้ดีมากน้อยแค่ไหนในระหว่างการเล่นเกมที่คุณต้องใช้เสียงระหว่างการแข่งขัน พร้อมกับสมรรถนะในการได้ยินเอฟเฟกต์และเสียงผู้เล่นคนอื่น ๆ

การใช้งานก็มีความสำคัญเช่นกัน ไมโครโฟนทุกรุ่นในรีวิวนี้สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่าย อีกสิ่งที่คุณอาจจะต้องตัดสินใจคือส่วนของราคา โดยทั่ว ๆ ไป ไมโครโฟนในระดับราคาที่ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท จะถือว่าเป็นไมโครโฟนเกมมิ่งที่มีคุณภาพดี แต่ก็ยังมีไมโครโฟนในราคาที่ประหยัดกว่า แต่ตัวเลือกของคุณจะมีจำกัด ไมโครโฟนหลายรุ่นอาจจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีกว่าเดิม พร้อมคุณสมบัติเฉพาะที่คุณต้องการ ซึ่งอาจจะไม่มีในรุ่นราคาประหยัด

 

เราทดสอบไมค์เกมมิ่งที่ดีที่สุดอย่างไร

กระบวนการทดสอบไมโครโฟนทุกชนิดของเราจะพิจารณาที่การบันทึกและนำมาฟังเสียง วิธีนี้ทำให้เรามีไฟล์เสียงจำนวนมากสำหรับการเปรียบเทียบที่ชัดเจนเมื่อเอาแต่ละรุ่นมาเทียบกัน โดยไม่ต้องทดสอบพร้อมกันหลายรุ่นในทีเดียว

ไมโครโฟนเกมมิ่งจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมจากรุ่นอื่น ๆ ในด้านการตั้งค่า VoIP ว่ามีเสียงอย่างไรเมื่อเทียบกับการบันทึกในอุปกรณ์พื้นฐาน ทีมงานของเรายังได้ลองใช้ไมโครโฟนบน Discord และแชทด้วยเสียงในระหว่างการเล่นเกมต่าง ๆ พร้อมบันทึกความคิดเห็นจากผู้ฟัง

หากผู้ผลิตได้แนะนําซอฟต์แวร์บางอย่างเพื่อช่วยจัดการไมโครโฟนในรุ่นนั้น ๆ เราก็จะลองใช้งานตัวซอฟต์แวร์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดหลายรุ่นสามารถทำงานได้ดีแม้มีแค่ฮาร์ดแวร์

  • รัฐธนา เหลืองธาดา
    นักเล่นเกมมืออาชีพและนักเขียนเกม

    มาร์ค เป็นเกมเมอร์มืออาชีพ มีและหนึ่งในสมาชิกของทีม Esports ไทยมากว่า 5 ปี หรือที่รู้จักในชื่อ 'Viper' ผ่านการแข่งขันเกมระดับสูงสุดในทัวร์นาเมนต์ Esports ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน และเติบโตจากผู้เล่นในทีมมาเป็นโค้ชและผู้จัดการทีม Alpha Red Esports สามารถเล่นได้ทั้งเกมคอนโซลและพีซีโดยเน้นที่พีซีเป็นหลัก จึงมีประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการทดลองใช้คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการเลือกเฟ้นเก้าอี้เล่นเกม คีย์บอร์ด เมาส์ที่แตกต่างกันด้วย

  • กิตติพงษ์ โยธาภักดี
    นักเขียนเทคโนโลยี

    ณัฐ เป็นกูรูด้านเทคโนโลยีและไอทีประจำ Pro Review โดยอยู่ในวงการไอทีมานานกว่า 10 ปี โดยสร้างเนื้อหา ข่าวสาร และบทวิจารณ์สินค้าสำหรับเว็บไซต์เทคโนโลยีหลายแห่งในประเทศไทย จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอกภาษาอังกฤษ ทำให้เขาติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทั่วโลกและติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ และข่าวล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทดลองใช้สินค้าไอทีก่อนที่จะวางจำหน่าย ทำให้บทความของเขาเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด