เราได้ทดสอบสุดยอดไมโครโฟนพอดคาสต์ที่ดีที่สุดในงบที่หลากหลาย
พอดคาสต์เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และการมีไมโครโฟนพอดคาสต์ที่ดีสักตัวหนึ่งจะทำให้คุณทำรายการด้วยตัวเองได้อย่างโปร หรือบางทีอาจจะทำรายการทีละ 2 หรือ 3 คนก็ได้ หากคุณมีแขกรับเชิญและหรือผู้ดำเนินรายการร่วม
ไมโครโฟน USB ที่ดี คือ ไมโครโฟนที่ทำงานได้ดีและดูเรียบง่าย แต่สำหรับพอดคาสต์แล้ว การเลือกไมโครโฟนที่มีออกแบบมาเฉพาะทางหรือเลือกซื้อแบบประสิทธิภาพสูงกว่าทั่วไปจะคุ้มค่ากว่า เพราะรายการของคุณจะไม่มีอะไรเลย นอกจากเสียงของคุณเพียงอย่างเดียว จึงต้องทำให้เสียงที่อัดมาฟังดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณกำลังจะได้อ่านรีวิวสุดยอดไมโครโฟนพอดคาสต์ที่ดีที่สุดที่เราได้ทดลองใช้ด้วยตัวเอง
- HyperX QuadCast S
- #1
- Blue Yeti
- #2
- JLab Talk Go
- #3
- ไมโครโฟนที่ดีที่สุดโดยรวม
- เรายังให้คะแนนไมโครโฟนสำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุดด้วย…
- …และไมโครโฟนสตรีมมิ่งที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ต้องอย่าลืมว่าคุณควรจะมีอุปกรณ์อื่น ๆ มาประกอบด้วย เช่น หูฟังที่ดีที่สุด แล็ปท็อปที่ดีที่สุด และคู่มือเว็บแคมที่ดีที่สุดของเรา เริ่มก่อนได้เปรียบ แล้วยังจะได้ของมาในราคาที่ถูกกว่าด้วย
ไมค์ podcast ที่ดีที่สุดคืออะไร
ถ้าคุณสามารถเชื่อมต่อแบบ XLR ได้ Rode PodMic เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของไมโครโฟนพอดแคสต์ที่ดีที่สุดที่คุณควรซื้อ เพียงแต่ต้องซื้อขาตั้งมาต่างหาก ไม่นับเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นไมค์รุ่นที่มีข้อเสียน้อยที่สุดแล้ว นี่จึงเป็นไมโครโฟนของนักทำพอดแคสต์ที่ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม พร้อมราคาจับต้องได้
นอกจากจะใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับการเล่นเกมและการสตรีม สินค้ายอดนิยมอย่าง Blue Yeti ยังเป็นไมโครโฟนที่เหมาะสำหรับพอดแคสต์ด้วย คุณภาพการบันทึกนั้นยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาในราคาที่จับต้องได้ และด้วยโหมดการบันทึกแบบ 2 ทิศทางและรอบทิศทาง คุณจึงสามารถใช้ไมโครโฟนตัวเดียวสำหรับอัดรายการที่มีผู้พูดหลายคนได้ ซึ่งเหมาะมากหากคุณกำลังพอดแคสต์และมีงบจำกัด
สำหรับไมโครโฟนพอดคาสต์ที่เชื่อมต่อกับ USB รุ่น JLab Talk ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจ เสียงและทำงานของมันเหมือน Blue Yeti ที่ราคาถูกกว่า ในขณะเดียวกัน Blue Yeti X ก็ดีไม่แพ้กันสำหรับผู้ที่ยอมจ่ายเงินมากขึ้น เพื่อให้สามารถปรับการควบคุมให้ดีขึ้นได้
ไมค์ podcast ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้แล้วตอนนี้
1. Rode PodMic
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สุดยอดไมโครโฟนพอดแคสต์ที่ดีที่สุดโดยรวม
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 6.8 x 4.3 x 2.4 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: 3-pin XLR
PodMic มีขนาดเล็ก แต่เปี่ยมด้วยความสามารถในการบันทึกเสียงคุณภาพสูง ในขณะที่คนทำพอดแคสต์อย่างจริงจังควรปรับแต่งการบันทึกของตนอย่างละเอียดก่อนเผยแพร่รายการ แต่สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ PodMic คือไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากก็ได้เสียงคมชัดและชัดเจนตั้งแต่แรก
เพียงแต่คุณจะต้องซื้อขาตั้งแยกต่างหาก และสายและสายเชื่อมต่อ XLR ก็ไม่ได้เสียบเข้ากับแล็ปท็อปหรือพีซีได้ง่ายนัก แต่ตัวไมโครโฟนเองนั้นมีราคาถูกจนมีเงินเหลือไปซื้อขาตั้งและอินเทอร์เฟซเพิ่มได้ ซึ่งผลลัพธ์ของเสียงที่ได้จากไมโครโฟนรุ่นนี้มีคุณภาพเหนือกว่าไมโครโฟน USB หลายรุ่นที่มีราคาแพงกว่าเสียอีก
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- เสียงที่ยอดเยี่ยม
- การผลิตคุณภาพสูง
- ราคาถูก
- ตัวกรองเสียงป๊อปในตัว
จุดด้อยของรุ่นนี้:
- XLR ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
- ไม่รวมขาตั้ง
2. Blue Yeti
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ไมค์พอดแคสต์ที่ดีที่สุดพร้อมโหมดบันทึกที่หลากหลาย
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 11.6 x 4.9 x 4.7 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB
เมื่อต้องจัดอันดับไมโครโฟนที่ดีที่สุด Blue Yeti ก็ไม่เคยหลุดโผ เราให้คะแนนที่สูงกับไมโครโฟนที่ใช้งานง่ายรุ่นนี้สำหรับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกเสียง และการพอดคาสต์ที่บ้าน เช่นเดียวกับการสตรีมเกมหรือการวิดีโอคอลผ่าน Skype
นอกจากจะทำงานได้ดีในโหมด cardioid แล้ว (รูปแบบการบันทึกเฉพาะเสียงที่มาจากข้างหน้าเท่านั้น) Blue Yeti ยังมีรูปแบบการบันทึกแบบ 2 ทิศทาง รอบทิศทาง และสเตอริโอ ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นในการทำรายการพอดแคสต์ เนื่องจากคุณสามารถบันทึกการสัมภาษณ์หรือบันทึกการสนทนาทั้งแบบเดี่ยวหรือกลุ่มได้ด้วยไมโครโฟนเพียงตัวเดียว
3. JLab Talk
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สุดยอดไมโครโฟนราคาถูกสำหรับพอดคาสต์
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 9.9 x 7.6 x 7.6 นิ้ว (พร้อมขาตั้งขยาย) | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB
เราเคยคิดว่า Blue Snowball Ice เป็นไมโครโฟนราคาถูกที่ดีที่สุด แต่ JLab Talk ติดอันดับไมโครโฟนที่ดีที่สุดในช่วงราคาประหยัดมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งทำงานได้ยอดเยี่ยมมากสำหรับไมค์แบบ USB ที่เปิดตัวในราคาไม่ถึง 3,000 บาท เช่นเดียวกับ Blue Yeti มันติดตั้งและใช้งานง่าย และคุณยังได้รับรูปแบบการบันทึก 4 แบบด้วยเช่นกัน
เรายังชอบขาตั้งแบบ 3 ขา ปรับได้ และปุ่มปรับขยาย/เพิ่มระดับเสียงที่เรืองแสงเป็นสีน้ำเงินหรือสีเขียว ขึ้นอยู่กับระดับที่คุณกำลังปรับระดับ หากคุณวางแผนจะซื้อไมโครโฟนหลายตัวสำหรับแขกและผู้ดำเนินรายการ JLab Talk เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- คุ้มราคา
- ให้คุณภาพเสียงสูง
- รูปแบบ 4 ทิศทาง
- ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน
จุดด้อยของรุ่นนี้:
- รับเสียงรบกวนรอบข้างได้บ้าง
- โหมด 2 ทิศทางไม่สมดุล
4. Blue Yeti X
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ไมโครโฟนพอดแคสต์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 11.4 x 4.3 x 4.8 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB
จนถึงตอนนี้ เราได้เห็นไมโครโฟนพอดคาสต์ที่คุ้มค่าหลายตัวแล้ว แต่ถ้าคุณสามารถมีไมค์สำรองเพิ่มเติมเพื่อเปลี่ยนใช้ด้วยล่ะ? เราแนะนำ Blue Yeti X: Yeti รุ่นพี่ที่ขนาดใหญ่กว่า และอัพเกรดขึ้นมาจาก Yeti รุ่นมาตรฐานที่ถูกใจผู้คน
หนึ่งในการอัพเกรดที่เราชอบ ได้แก่ ตัวควบคุมการขยายที่ด้านหน้า ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเอื้อมไปที่ด้านหลังเพื่อทำการปรับเปลี่ยน และตัววัดระดับในตัวที่ทำให้คุณสามารถเช็คได้ว่าคุณชอบการตั้งค่านั้นแล้วหรือยังได้ง่ายขึ้น
สิ่งเหล่านี้อาจฟังดูไม่ใช่ความแตกต่างที่สำคัญ เมื่อพิจารณาว่า Blue Yeti รุ่นมาตรฐานนั้นราคาถูกกว่าแค่ไหน แต่ในสถานการณ์การบันทึกเสียงแบบสด เครื่องมือพิเศษเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณปรับแก้เสียงได้ทันที ช่วยประหยัดเวลาในการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- การควบคุมที่พัฒนาแล้ว
- เสียงที่ยอดเยี่ยม
- Plug-and-play
จุดด้อยของรุ่นนี้:
- ราคาแพงกว่ารุ่น Yeti มาตรฐานมาก
5. Elgato Wave: 3
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ไมค์สตรีมมิ่งที่เหมาะกับพอดแคสต์ด้วย
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 6.0 x 2.6 x 1.6 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB
The Elgato Wave: 3 ไม่ใช่ไมโครโฟนสำหรับพอดแคสต์โดยเฉพาะ และไม่เหมือนไมค์อย่าง Blue Yeti หรือ JLab Talk ด้วย แล้วมันเป็นหนึ่งในไมโครโฟนพอดคาสต์ที่ดีที่สุดได้อย่างไร? สำหรับมือใหม่มันเป็นไมโครโฟนแบบ cardioid ที่ให้เสียงดีมาก ดีไซน์ย้อนยุคเข้ากันได้ดีกับพื้นที่ในสตูดิโอทุกแห่ง
ที่สำคัญกว่านั้น สำหรับคนที่เน้นการสตรีมก็สามารถใช้งานไมค์รุ่นนี้ทำพอดคาสต์ได้จริง มันได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับ Elgato Stream Deck ซึ่งเป็นคอนโซลแบบหลายปุ่มที่สตรีมเมอร์ใช้เพื่อปรับแต่งเสียงขณะถ่ายทอดสด คุณสามารถปรับการตั้งค่าเพื่อให้ใช้ทำพอดแคสต์ได้อย่างง่ายดาย ด้วย Stream Deck ที่ลดความซับซ้อนในการควบคุมไมโครโฟนของคุณ เพื่อให้คุณสามารถโฟกัสไปที่การสนทนาและการพูดคุยได้
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- การบันทึก cardioid ที่ชัดเจน
- การตั้งค่าที่ใช้งานง่าย
- การออกแบบที่สะอาดตา
จุดด้อยของรุ่นนี้:
- ตัวควบคุมปรับเปลี่ยนได้ไม่มาก
- รับเสียงแวดล้อมรอบข้าง
6. HyperX QuadCast S
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ไมโครโฟนพร้อมพอดแคสต์มาพร้อมไฟ RGB
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 10 x 5 x 5 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB
เช่นเดียวกับ Wave 3 เพราะ QuadCast S สามารถใช้ในงานพอดคาสต์ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อทั้งที่ไม่ได้ทำมาเพื่อพอดคาสต์โดยเฉพาะ Elgato Wave 3 ถูกสร้างขึ้นเพื่อการสตรีม ส่วน HyperX นั้นก็ดีไซน์มาเพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก ไฟ RGB ไม่ใช่แค่ข้อดีเดียวของมัน
ถึงอย่างนั้นก็ยังใช้ทำพอดคาสต์แบบทั่วไปได้ดี QuadCast S ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยการตั้งค่าเพียงเล็กน้อย สามารถติดตั้งกับบูมอาร์มหรือขาตั้งแบบอื่นได้อย่างง่ายดาย และมีฟีเจอร์พิเศษที่มีประโยชน์อีกหลายอย่าง ช่วยประหยัดเงินในการซื้ออุปกรณ์เสริม ซึ่งรวมถึงตัวยึดกันกระแทกที่ช่วยลดเสียงกระแทกของไมโครโฟนที่อาจเกิดขึ้นขณะบันทึกโดยไม่ได้ตั้งใจได้ และตัวกรองเสียงป๊อปในตัวเพื่อเสียงพูดที่ไพเราะยิ่งขึ้น
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- คุณภาพเสียงสูง
- แสงที่ปรับแต่งได้
- Shock mount ในตัวและตัวกรองป๊อปอัพ
จุดด้อยของรุ่นนี้:
- ราคาค่อนข้างแพง
- ไฟ RGB อาจไม่ใช่รสนิยมของทุกคน
7. EPOS B20
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ไมโครโฟนระดับพรีเมียมพร้อมซอฟต์แวร์อัจฉริยะ
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 9.4 x 4.1 x 4.1 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB
ถ้าสำหรับคุณ QuadCast S ดูเยอะเกินไป คุณอาจจะประทับใจกับลวดลายที่ดูโฉบเฉี่ยว ดูดี มีสไตล์ของ EPOS B20 ไมโครโฟน USB รุ่นนี้ ทำได้ทุกอย่างที่จำเป็น (เช่น การควบคุม gain ในตัว) และเพิ่มรูปแบบการบันทึกเสียงแบบ 2 ทิศทาง รอบทิศทาง และสเตอริโอ ทั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้ดี โดยเฉพาะโหมด 2 ทิศทาง แม้ว่าโหมด cardioid จะเป็นโหมดที่ดีที่สุดสำหรับการบันทึกเสียงเดี่ยว
เพื่อศักยภาพสูงสุดของ B20 อย่าลืมดาวน์โหลดและติดตั้ง EPOS Gaming Suite ที่สำคัญอย่าดูแค่ชื่อแล้วคิดว่ามันจะเหมาะกับการเล่นเกมเท่านั้น เพราะนี่คือชุดเครื่องมือที่มีการควบคุมเสียงรบกวนด้วย สามารถช่วยให้การทำพอดคาสต์ดูเป็นทางการมากขึ้น ให้เสียงที่ดีขึ้น
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- แอปพลิเคชันมีประโยชน์
- คุณภาพการผลิตสูง
- ให้รูปลักษณ์ที่เป็นทางการ
จุดด้อยของรุ่นนี้:
- ราคาสูง
- ไม่มี gain /ตัวชี้ทิศทางเสียง
8. Movo UM700
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
ไมโครโฟนราคาจับต้องได้สำหรับพอดแคสต์
ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 11.6 x 4.4 x 3.8 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB
UM700 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่แข็งแกร่งในทุกด้าน ใกล้เคียงกับ Blue Yeti ที่มีราคาจับต้องได้ คุณภาพงานผลิตก็ไม่ได้แย่กว่าแต่อย่างใด และคุณสามารถสลับไปมาระหว่างรูปแบบการบันทึกต่าง ๆ ได้ หากต้องการบันทึกการสนทนากลุ่มโดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟนหลายตัว
คุณภาพเสียงดี อาจต้องปรับแต่งการบันทึกบ้างเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติหากคุณต้องการให้เสียงพอดคาสต์ของคุณมีความเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว คุณจะได้รับตัวควบคุมครบชุดเช่นกัน รวมถึงปุ่มปิดเสียงและปุ่ม gain ลองพิจารณาซื้อ UM700 หากคุณต้องการดีไซน์สไตล์ Yeti ในราคาที่ถูกกว่า
จุดเด่นของรุ่นนี้:
- ราคาที่สู้คู่แข่งได้
- ง่ายต่อการใช้งาน
- การออกแบบที่ทนทาน
จุดด้อยของรุ่นนี้:
- ไวต่อแรงกระแทกและการกระแทก
- ยังมีตัวเลือกอื่นที่น่าจะดีกว่า
วิธีเลือกไมค์ podcast
คุณภาพเสียง
คุณภาพการบันทึกเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับไมโครโฟนทุกประเภท แต่มันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกซื้อไมโครโฟนพอดคาสต์ สำหรับการใช้งานประเภทอื่น เช่น การเล่นเกม คุณอาจเลือกรุ่นที่คุณภาพเสียงเป็นเรื่องรองได้ แต่ในสื่อที่ใช้เฉพาะเสียง เสียงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่างพอดคาสต์นั้น คุณควรใช้สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น
แน่นอนว่าหลังการอัดเสียง ก็จะต้องมีการตัดต่อให้เสียงดีขึ้นบ้าง แต่การเลือกใช้ไมโครโฟนรุ่นใดรุ่นหนึ่งตามตัวเลือกที่เราแนะนำไว้ด้านบน คุณจะสามารถลดขั้นตอน ลดเวลาที่ใช้ในขั้นตอนหลังการผลิตได้
รูปแบบการบันทึก
ควรพิจารณาถึงรูปแบบของพอดคาสท์ของคุณและเลือกไมโครโฟนที่เหมาะกัน หากคุณกำลังบันทึกเฉพาะเสียงตัวเอง ส่วนแขกรับเชิญจะออนไลน์เข้ามาคุยด้วย สิ่งที่คุณต้องมีคือไมโครโฟนที่มีรูปแบบการบันทึกแบบ cardioid ซึ่งรูปแบบการบันทึกเสียวแบบนี้ก็ใช้งานได้ดี เมื่อต้องพูดคุยกันเป็นกลุ่ม โดยผู้พูดแต่ละคนจะต้องมีไมโครโฟนเป็นของตัวเอง
หากคุณมีงบประมาณจำกัด ซื้อได้แค่ไมโครโฟนตัวเดียวเท่านั้น คุณจะต้องมีไมโครโฟนที่สามารถบันทึกรูปแบบได้หลากหลายยิ่งขึ้น โหมด 2 ทิศทางช่วยให้คุณบันทึกเสียงคนที่อยู่หน้าและหลังไมโครโฟนได้ จึงเหมาะสำหรับการพูดคุยแบบตัวต่อตัว
ควรใช้รูปแบบรอบทิศทางเมื่อมีผู้พูดหลายคนล้อมรอบไมโครโฟนตัวเดียว ในขณะที่รูปแบบสเตอริโอเหมาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้พูดหลายคนนั่งเรียงกันที่ด้านหน้าของไมโครโฟน แต่รูปแบบการบันทึกเสียงแบบนี้จะไม่สามารถบันทึกเสียงทุกคนในระดับเสียงที่เท่ากันได้ จึงต้องมีการแก้ไขภายหลังการบันทึกด้วย แต่ฟังดูก็รู้ว่าผู้พูดแต่ละคนอยู่ในตำแหน่งใด จึงไม่ยากต่อการแก้ไขนัก
เราทดสอบไมค์ podcast ที่ดีที่สุดอย่างไร
เราทดสอบไมโครโฟนโดยใช้วิธีการที่คล้ายกันกับวิธีที่คุณบันทึกและผลิตพอดคาสต์ เช่น พูดใส่ไมโครโฟน ใช้รูปแบบการบันทึกที่แตกต่างกัน และฟังย้อนกลับเพื่อฟังว่าเสียงที่แตกต่างนั้นเป็นอย่างไร และจำเป็นต้องแก้ไขหลังการถ่ายทำหรือไม่
ในการเข้าสู่ขั้นตอนการบันทึก เรายังต้องตั้งค่าและกำหนดค่าไมโครโฟนแต่ละตัว ซึ่งทำให้รู้ว่าแต่ละตัวทำงานได้ดีแค่ไหน การตั้งค่ายากง่ายเพียงใด ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้จะอยู่ในรีวิวแบบเต็มของไมโครโฟนแต่ละตัว โดยนี้มีลิงก์อยู่ที่ด้านบนว่าขั้นตอนเหล่านี้ง่ายหรือยากเป็นพิเศษ