ProReview เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร อ่านเพิ่มเติม
ไมโครโฟนที่ดีที่สุดในปี 2022
Pro Review » อิเล็กทรอนิกส์ » รีวิว 11 อันดับ ไมโครโฟน ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

รีวิว 11 อันดับ ไมโครโฟน ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

นี่คือไมโครโฟนที่ดีที่สุดสำหรับการบันทึกเสียงและการทำงานจากที่บ้าน อ้างอิงจากการทดสอบของเรา

สุดยอดไมโครโฟนที่ดีที่สุดเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีการบันทึกเสียงที่ดีที่สุดในทุกรูปแบบ  ทั้งไมโครโฟนสำหรับการร้องเพลง ไมโครโฟนแบบ Shotgun สำหรับต่อกับกล้องวิดีโอ และไมโครโฟน USB ที่ง่ายต่อการใช้งาน เราได้ทำการทดสอบไมโครโฟนทั้งหมดด้วยตัวเอง คุณจึงมั่นใจได้ว่าไมโครโฟนรุ่นต่าง ๆ ที่เรารวบรวมมาในรีวิวด้านล่างสามารถให้คุณภาพเสียงที่คุณต้องการได้

หากคุณต้องการเพียงแค่ไมโครโฟนแบบเสียบปลั๊กธรรมดาสำหรับใช้งานวิดีโอแชทและทำงานจากที่บ้าน เราขอแนะนำไมโครโฟนแบบ USB — แต่ความเรียบง่ายไม่ได้หมายความว่าต้องทำงานได้แค่พื้น ๆ บ่อยครั้งก็มีฟังก์ชันพิเศษที่เหมาะสำหรับการบันทึกพอดแคสต์หรือสตรีมมิง หากต้องการค้นหาว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับความต้องการของคุณ โปรดอ่านตัวเลือกสุดยอดไมโครโฟนที่ดีที่สุดของเราต่อ และอย่าลืมอ่านรีวิวสุดยอดไฟ ring lights ที่ดีที่สุดและสุดยอดเว็บแคมที่ดีที่สุดด้วย

ไมโครโฟนรุ่นไหนคือรุ่นที่ดีที่สุด?

ไมโครโฟนรุ่นไหนคือรุ่นที่ดีที่สุด

Blue Yeti มอบความสมดุลทั้งในการทำงาน คุณภาพการบันทึก และราคา มันมีประสิทธิภาพสำหรับการทำพอดคาสต์เช่นเดียวกับการบันทึกเสียงเดี่ยว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เป็นหนึ่งในสุดยอดไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดด้วย มีรูปแบบทิศทางที่หลากหลายที่ให้คุณบันทึกเสียงได้อย่างมั่นใจ

ตัวเลือกอื่นอันดับต้น ๆ อย่าง JLab Talk ที่มีโหมดการบันทึกแบบเดียวกัน รวมถึงประสิทธิภาพที่สู้ได้ในราคาที่ถูกกว่า สำหรับไมโครโฟนในระดับราคาที่ใกล้เคียง คุณสามารถเลือก Rode PodMic ซึ่งเป็นไมโครโฟนของ podcaster ที่ยอดเยี่ยมได้ แต่ว่ามันใช้การเชื่อมต่อ XLR แทน USB และสำหรับตัวเลือกที่มีคุณสมบัติธรรมดาในราคาเป็นมิตรให้พิจารณา Blue Snowball Ice

ไมโครโฟนของ Blue และ JLab Talk มีข้อดีที่ความเรียบง่ายแบบ plug-and-play และถ้าคุณจะต้องการบันทึกเสียงโซโลของคุณให้ดีขึ้น Rode Podcaster ก็เป็นตัวเลือกระดับพรีเมียมที่ยอดเยี่ยม มันบันทึกเสียงได้ยอดเยี่ยม และคมชัดจากลำโพงเพียงตัวเดียว เหมาะสำหรับการบันทึกพ็อดคาสท์หรือเปลี่ยนเข้าสู่การไลฟสตรีม ราคาของมันอาจไม่ถูกนัก แต่ก็เป็นไมโครโฟนสำหรับการทำพอดคาสต์ตัวเดียวอยู่

อีกทางเลือกหนึ่งคือ HyperX SoloCast ซึ่งเป็นหนึ่งในไมโครโฟนสำหรับการเริ่มต้นที่ดี ให้เสียงร้องและเสียงที่หนักแน่นและชัดเจน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับขาตั้งไมโครโฟนแบบปรับได้ ติดตั้งง่าย และปุ่มปิดเสียงเพื่อป้องกันเสียงรบกวนรอบข้างติดเข้าไปในการบันทึก

 

รูปแบบเสียงต่าง ๆ หมายความว่าอย่างไร

รูปแบบเสียงต่าง ๆ หมายความว่าอย่างไร

ไมโครโฟนบางตัวในรายการนี้มีตัวเลือกต่าง ๆ สำหรับหลายรูปแบบเสียง เช่น แบบ 2 ทิศทาง แบบ cardioid แบบรอบทิศทาง และแบบสเตอริโอ บางรุ่นก็มีแค่แบบ cardioid ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายสั้น ๆ ของแต่ละรูปแบบ เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าจะใช้รูปแบบใด:

  • Cardioid: รูปแบบนี้รับเสียงที่มาจากทิศทางเดียว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแหล่งกำเนิดเสียงแหล่งเดียวที่พูดกับไมโครโฟนโดยตรง เช่น ในการประชุมหรือบันทึกเสียงพากย์
  • แบบ 2 ทิศทาง: รูปแบบนี้จะรับเสียงที่มาจาก 2 ทิศทางเท่านั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับลำโพง 2 ตัวที่อยู่ตรงข้ามกัน
  • รอบทิศทาง: รูปแบบนี้รับเสียงที่มาจากรอบ ๆ ไมค์ ซึ่งเหมาะสำหรับการอัดเสียงกลุ่มคนที่อยู่รอบไมโครโฟน
  • สเตอริโอ: รูปแบบนี้จะรับเสียงที่ด้านหน้าของไมโครโฟนและจากด้านข้าง เหมาะสำหรับวงดนตรีหรือแผงลำโพงที่หันไปทางเดียวกัน

 

ไมโครโฟนที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้วันนี้

1. JLab Talk

Jlab Talk

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนที่ดีที่สุดในราคาต่ำว่า 3,000 บาท

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 9.9 x 7.6 x 7.6 นิ้ว (พร้อมขาตั้งขยายได้) | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

JLab Talk เป็นไมโครโฟน USB ตัวแรกจากผู้เชี่ยวชาญด้านหูฟังอย่าง JLab ถึงจะเป็นตัวแรกแต่ก็ใช่ว่าจะไม่ดี จากการทดลองใช้พบว่า คุณภาพการบันทึกดี ฟีเจอร์ดี และความสะดวกในการใช้งานของ JLab Talk ทำให้มันเป็นอุปกรณ์ที่สามารถสู้กับ Blue Yeti ที่ได้รับความนิยมตลอดกาลได้สูสี

ด้วยราคาขายปลีกที่ไม่ถึง 3,000บาท (และราคาลงอย่างมากด้วยตั้งแต่เปิดตัว) นี่จึงเป็นุร่นที่มีราคาจับต้องได้พอ ๆ กับ Blue Yeti Nano แต่คุณสมบัติเหมือนกับรุ่นที่มีราคาแพงกว่า เช่น Yeti รุ่นมาตรฐานและ EPOS B20 โดยมีรูปแบบการบันทึกที่แตกต่างกัน 4 แบบ

จากการใช้งานโหมด 2 ทิศทางไม่สอดคล้องกันเท่ากับโหมดรอบทิศทาง แต่ก็สามารถใช้โหมดรอบทิศทางแทนโหมด 2 ทิศทางได้ และโหมด Cardioid และสเตอริโอของ Talk ก็น่าประทับใจอย่างยิ่ง

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • คุ้มราคา
  • คุณภาพเสียงดี
  • มีรูปแบบการรับเสียง 4 แบบ
  • ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • มีเสียงแบ็คกราวติดมาด้วย
  • โหมด 2 ทิศทาง ไม่ดีเท่าไหร่

 

2. Rode PodMic

Rode Podmic

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

สุดยอดไมโครโฟนสำหรับการพอดแคสต์แบบจริงจัง

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 6.8 x 4.3 x 2.4 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: 3-pin XLR

Rode PodMic เป็นหนึ่งในไมโครโฟนพอดแคสต์ที่ดีที่สุดและไว้ใจได้ในการใช้ในสตูดิโอ แม้จะใช้ขั้วต่อ XLR แทน USB แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนจนเกินไป หนึ่งในสิ่งที่เราชอบที่สุดเกี่ยวกับ PodMic ก็คือ ไม่ต้องใช้เวลานานในการปรับแต่งเพื่อให้ได้เสียงที่ยอดเยี่ยม

ตัวกรองเสียงป๊อปภายในช่วยให้ควบคุมการบันทึกได้ และรูปทรงที่แข็งแรงช่วยขจัดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการ เมื่อคุณเผลอเคาะโต๊ะหรือจำเป็นต้องเปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว

อีกครั้ง นี่ไม่ใช่ไมโครโฟนสำหรับมือใหม่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีขาตั้ง แต่ข้อดีอีกอย่างของ PodMic ก็คือ ราคาถูกมากจนคุณสามารถมีเงินเหลือมาซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย และมันไม่ได้แพงไปกว่า Rode NT-USB Mini ซึ่งเป็นไมโครโฟน USB ทั่วไปเลย

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • เสียงที่ยอดเยี่ยม
  • คุณภาพสูง
  • ราคาถูก
  • ตัวกรองเสียงป๊อปภายในตัว

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
  • ไม่มีขาตั้งมาให้

 

3. Blue Yeti

Blue Yeti

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

สุดยอดไมโครโฟนที่ดีที่สุดโดยรวม

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 11.6 x 4.9 x 4.7 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

Blue Yeti ออกสู่ตลาดมากว่า 10 ปี และไม่ได้ถูกปรับเปลี่ยนไปมากนัก นับตั้งแต่เปิดตัว พูดตรง ๆ คงไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากหรอก เพราะเป็นไมโครโฟนที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

มันเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ชาญฉลาดและใช้งานได้หลากหลาย คุ้มค่าเงิน มีทุกอย่างที่มือสมัครเล่นและผู้ใช้งานกึ่งโปรจำเป็นต้องใช้ในการบันทึกผลงานของตนเอง Blue Yeti เป็นไมโครโฟน condenser คุณภาพสูงพร้อมขาตั้งในตัว สามารถเชื่อมต่อ USB และสามาถพับได้ พร้อมมี 4 โหมดในรูปแบบที่แตกต่างกัน

ด้วย Blue Yeti คุณสามารถบันทึกเสียงในโหมด cardioid สเตอริโอ รอบทิศทาง หรือ 2 ทิศทาง มีไมโครโฟนน้อยมากที่มีรูปแบบเสียงที่หลากหลายแบบนี้ รวมถึงมีไม่กี่รุ่นที่สามารถทำงานสลับกันไปมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นด้วยรูปแบบเสียงที่หลากหลายของ Blue Yeti คุณสามารถบันทึกอะไรก็ได้ตั้งแต่พอดคาสต์ การสัมภาษณ์ การแสดงดนตรี ไปจนถึงการอภิปรายแบบโต๊ะกลม

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • อเนกประสงค์
  • ราคาสมเหตุสมผล
  • คุณภาพเสียงดีเยี่ยม

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • ไม่แม่นยำเท่าไมโครโฟนเฉพาะทาง
  • มี Mount ที่ธรรมดามาก ๆ

 

4. HyperX QuadCast

Hyperx Quadcast

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

สุดยอดไมโครโฟนของ HyperX สำหรับการเล่นเกม

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 9.8 x 5.1 x 4.0 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

HyperX QuadCast เป็นไมโครโฟนที่มีสไตล์และแข็งแรง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ไม่ชอบไมโครโฟนที่ให้มากับชุดหูฟัง หรือผู้ที่ต้องการเข้าสู่พื้นที่การสตรีม QuadCast นี่คือไมโครโฟน condenser ที่มีขาตั้งในตัวและมีตัวยึดกันกระแทก ดังนั้นเมื่อเชื่อมต่อไมค์กับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB ก็พร้อมเริ่มบันทึกเสียงทันที

ผู้ใช้ส่วนใหญ่อาจเริ่มต้นใช้งานแบบ cardioid แต่ก็สามารถใช้งานรูปแบบเสียงแบบ 2 ทิศทาง รอบทิศทาง และแบบสเตอริโอได้ด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถนำบุคคลอื่นเข้ามาในสตูดิโอเพื่อบันทึกเสียงได้หากต้องการ

QuadCast เป็นหนึ่งในไมโครโฟนที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม เพราะคุณสมบัติส่วนใหญ่เป็นแบบ analog จึงไม่จำเป็นต้องทะเลาะกับซอฟต์แวร์เมื่อต้องการเปลี่ยนรูปแบบเสียง ปรับค่า gains หรือแม้แต่ปิดเสียงไมโครโฟนได้ นอกจากนี้ยังมีแพทเทิร์นแสงสีดำและสีแดงที่ค่อนข้างดุดัน แต่จะชอบรึเปล่าก็ขึ้นอยู่กับเกมเมอร์แต่ละคน บางคนอาจจะชอบ แต่บางคนก็คิดว่ามันดูล้าสมัยไปหน่อย

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • มีขาตั้งและฐานกันกระแทกในตัว
  • รูปแบบเสียงที่หลากหลาย
  • การควบคุม gain แบบ analog

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • สีไฟฉูดฉาด
  • การกรองเสียงป๊อปที่ไม่สมบูรณ์

 

5. Blue Snowball Ice

Blue Snowball Ice

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมในราคาถูก

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 10.0 x 7.9 x 4.9 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

หากคุณต้องการอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ดีกว่าไมโครโฟนในตัวของแล็ปท็อป แต่มีความอดทนน้อย (หรือทุนน้อย) รุ่นนี้จะเหมาะกับคุณ Blue Snowball Ice เป็นไมโครโฟนเรียบง่ายที่สุดและราคาถูกที่สุดที่คุณสามารถหาซื้อได้ ผลิตจากผู้ผลิตรายใหญ่

Snowball Ice เป็นไมค์ทรงกลมที่มีขนาดกะทัดรัดและค่อนข้างมีสไตล์ มีให้เลือกทั้งแบบสีดำหรือสีขาว แค่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB ก็เริ่มบันทึกเสียงได้แล้ว แค่นี้เลย แต่ไม่มีตัวเลือกให้คุณปรับเปลี่ยนได้ตามใจ

Snowball Ice ใช้รูปแบบ cardioid ทำให้เหมาะสำหรับการประชุมทางวิดีโอหรือสนทนากับเพื่อนในเกม สเปกไม่ได้ไฮเอนด์ขนาดจะใช้บันทึกพอดคาสต์ได้ แต่ถ้าคุณต้องการไปปรากฏตัวแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ในพอดคาสต์ของคนอื่น Snowball Ice สามารถตอบโจทย์นี้ได้

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • ราคาไม่แพง
  • ติดตั้งง่าย
  • รวมขาตั้ง

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • ไม่เหมาะกับการใช้งานระดับไฮเอนด์
  • ไม่มีคุณสมบัติพิเศษ

 

6. Sennheiser MKE 400

Sennheiser Mke 400

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

สุดยอดไมโครโฟนสำหรับการทำคอนเทนต์

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Supercardioid | ขนาด: 5 x 2.6 x 1.5 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: 3.5 mm

นักถ่ายวิดีโอทั้งมือใหม่และมือสมัครเล่นควรลองใช้ Sennheiser MKE 400 ไมโครโฟนแบบ shotgun นี้ใช้รูปแบบการบันทึกแบบ supercardioid ที่มีทิศทางสูง เพื่อให้ได้เสียงพูดที่ชัดเจน แม้ว่าจะถ่ายทำในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนจากแบ็คกราวมาก

สิ่งที่ทำให้ MKE 400 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างคอนเทนต์ DIY คือ ความง่ายในการใช้งาน สามารถต่อเข้ากับ hot shoe ของกล้องและเสียบผ่านสาย 3.5 มม. ได้ แต่ MKE 400 ก็มีฟีเจอร์เพื่อความเรียบง่ายแบบ Plug-and-play เช่นเดียวกันกับในสมาร์ทโฟน เพียงเชื่อมต่อผ่านช่องเสียบหูฟังของโทรศัพท์มือถือ คุณก็จะสามารถถ่ายคลิปเสียงอันยอดเยี่ยมได้โดยไม่ต้องใช้กล้อง DSLR หรือกล้อง mirrorless

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • การออกแบบที่กะทัดรัด
  • ใช้งานง่าย รวมถึงใช้กับโทรศัพท์ด้วย
  • คุณภาพเสียงที่ดี

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • การควบคุมพื้นฐาน
  • มีเสียงลมติดมาด้วย

 

7. Blue Yeti Nano

Blue Yeti Nano

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

สุดยอดไมโครโฟน Blue Yeti ขนาดกะทัดรัดที่ยอดเยี่ยม

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid รอบทิศทาง | ขนาด: 8.3 x 3.8 x 4.3 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

ใช่ มันเป็นไมโครโฟนของ Blue อีกตัวหนึ่ง Yeti Nano เป็นไมโครโฟน USB คุณภาพสูงตัวหนึ่ง โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นรุ่นเรือธงของ Blue Yeti แบบ Stripped back ที่กะทัดรัดและมาในราคาที่ดีกว่า

นั่นหมายความว่าคุณจะได้คุณภาพการบันทึกเสียงที่ใกล้เคียงกันมากในรูปแบบ cardioid และ omnidirectional รวมถึงรูปทรงที่เป็นทางการและโครงสร้างทำจากโลหะที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ JLab Talk ในราคาต่ำกว่า 3,000 บาท เป็นรุ่นที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีโหมดสเตอริโอ แต่ Blue Yeti Nano รุ่นนี้ที่มีขนาดเล็กกว่า ก็ยังคงสมควรได้รับตำแหน่งไมโครโฟนที่ดีที่สุดในรีวิวนี้ด้วย

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • เสียงดีเยี่ยม
  • มี Study build
  • ราคาถูกกว่า Blue Yeti

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • ไม่มีโหมดสเตอริโอ
  • การควบคุมมีแค่ระดับพื้นฐานเท่านั้น

 

8. Elgato Wave 3

Elgato Wave 3

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

สุดยอดไมโครโฟนสำหรับการสตรีม

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 6.0 x 2.6 x 1.6 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

มองแบบผิวเผิน Elgato Wave: 3 ดูเหมือนไมโครโฟนรุ่นอื่น ๆ ในรีวิวนี้มาก มันเป็นไมโครโฟนแบบ USB ที่มีรูปแบบ cardioid  ปรับแต่งให้เหมาะกับพื้นที่เล่นเกมโดยเฉพาะ สิ่งที่ทำให้ Wave: 3 แตกต่างจากอุปกรณ์ที่คล้ายกันคือการเชื่อมต่อกับ Elgato Stream Deck ที่หลากหลายได้

เมื่อใช้ Stream Deck ร่วมกับไมโครโฟน คุณสามารถเปลี่ยนการรับเสียงของไมโครโฟนและมิกซ์เสียงโดยไม่ต้องสัมผัสกับตัวไมโครโฟนเลย ซึ่งดีมากเมื่อคุณต้องให้ความสนใจกับขนาดวิดีโอและฟีเจอร์ในการสตรีมที่สำคัญอื่น ๆ มากกว่า

ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยทำให้ Wave: 3 เป็นไมโครโฟนสตรีมมิ่งที่ดีที่สุด (ถึงจะเป็นไมโครโฟนคุณภาพสูงด้วยก็ตาม) โดยมีการควบคุมที่ใช้งานง่าย รูปแบบ cardioid ที่ชัดแจน และโปรไฟล์ขนาดเล็กที่ใช้งานได้ง่ายบนโต๊ะทำงาน ตัวเครื่องสีดำเรียบ ๆ ของไมค์และแสงที่ดูมีรสนิยม มีการตั้งค่าเสียงในการเล่นเกม ง่ายต่อการปรับและตรวจสอบระดับเสียงของคุณได้ในแบบเรียลไทม์ ในแง่ของคุณภาพเสียงอาจไม่ได้ดีไปกว่าไมโครโฟนรุ่นอื่นในรีวิวนี้ แต่แค่คุณสมบัติการสตรีมเพียงอย่างเดียวก็ทำให้รุ่นนี้คุ้มค่าแล้ว

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • เหมาะสำหรับการสตรีม
  • การตั้งค่าที่ใช้งานง่าย
  • การออกแบบที่เรียบง่าย

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • ไม่มีคุณสมบัติโดดเด่น
  • มีเสียงรบกวนรอบข้างติดเข้าไปได้

 

9. HyperX SoloCast

Hyperx Solocast

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

สุดยอดไมโครโฟนราคาประหยัด

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 6.9 x 3.1 x 3.1 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB-C กับ USB

HyperX SoloCast เป็นไมโครโฟน USB ราคาประหยัด แต่คุณภาพการบันทึกนั้นดีมาก ๆ มีรูปแบบการบันทึกแบบ cardioid สามารถแข่งขันกับไมโครโฟนชั้นนำของหมวดหมู่นี้ได้อย่างสูสี โดยให้เสียงที่หนักแน่นและเต็มอิ่ม

เมื่อใช้งานจะเห็นได้ชัดว่า เอฟเฟกต์เสียงสะท้อนที่ได้ยินจะน้อยลงมากเมื่อบันทึกเสียง รวมถึงเสียงรบกวนก็น้อยลงมาก เช่น เสียงการคลิกเมาส์และเสียงเครื่องยนต์กลไกต่าง ๆ เราชอบความกะทัดรัดและขาตั้งที่ปรับได้ สามารถจัดวางไมโครโฟนในมุมต่าง ๆ ได้ มีแม้กระทั่งปุ่มปิดเสียงในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

ไมค์นี้มาพร้อมฟีเจอร์ Plug-and-Play และจะตอบสนองความต้องการที่ง่ายที่สุดได้ เช่น การควบคุมพื้นฐาน และรูปแบบการบันทึกแบบเดี่ยว ซึ่งก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ไม่กี่อย่างที่มีให้ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ SoloCast น่าใช้น้อยลงเลย

 

10. HyperX QuadCast S

Hyperx Quadcast S

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมพร้อมแสงสีที่ปรับแต่งได้

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: แบบ 2 ทิศทาง, Cardioid, รอบทิศทาง, สเตอริโอ | ขนาด: 10 x 5 x 5 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

คุณสามารถประหยัดเงินได้ด้วยการซื้อ HyperX Quadcast รุ่นมาตรฐานที่มีรายละเอียดตามที่เราให้ไว้ด้านบน แต่ถ้าคุณมีพีซีสำหรับเล่นเกมที่รองรับไฟ RGB และต้องการให้ไมโครโฟนมีไฟที่เข้ากันด้วย รุ่น QuadCast S จะมีสีสันกว่า ควรค่าแก่การซื้อ

แต่ไม่ใช่แค่การปรับแสงได้ที่ทำให้รุ่นนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดไมโครโฟนที่ดีที่สุด แต่รุ่นนี้ยังมีคุณภาพการบันทึกที่มีรายละเอียดครบถ้วน มีตัวกรองเสียงป๊อปในตัว และฐานกันกระแทก  สามารถติดตั้งเข้ากับขาตั้งของคุณเองได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับ Blue Yeti และ JLab Talk มันยังมีโหมดการบันทึกที่แตกต่างกัน 4 โหมด ดังนั้นคุณจึงสามารถปรับแต่งการตั้งค่าสำหรับการบันทึกแบบเดี่ยวหรือแบบกลุ่มได้

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • คุณภาพเสียงดี
  • แสงที่ปรับแต่งได้
  • โช้คอัพในตัวและตัวกรองเสียงป๊อป

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • QuadCast รุ่นมาตรฐานมีราคาถูกกว่า

 

11. Rode NT-USB Mini

Rode Nt Usb Mini

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ไมค์สำหรับมือใหม่พร้อมคุณภาพเสียงที่ดี

ประเภทไมค์: Condenser | รูปแบบเสียง: Cardioid | ขนาด: 5.6 x 2.2 x 3.5 นิ้ว | ประเภทการเชื่อมต่อ: USB

ตามที่ระบุไว้ในรีวิวของเรา Rode NT-USB Mini เป็น “ไมโครโฟนที่มีประสิทธิภาพ” ซึ่งทำงานได้ดีในราคาต่ำกว่า 4,000 บาท สามารถบันทึกได้น่าดึงดูดใจ พร้อมเสียงที่พอเหมาะ ซึ่งดีกว่าเสียงที่ได้จากไมโครโฟนของสมาร์ทโฟนอย่างแน่นอน มีช่องเชื่อมต่อ aux เพื่อเชื่อมต่อหูฟังด้วยทำให้ได้ยินเสียงของคุณด้วย พร้อมด้วยพอร์ต USB-C ที่ทำให้การเชื่อมต่อกับเดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อปง่ายขึ้นมาก คุณภาพงานสร้างนั้นดีสุด ๆ สำหรับราคาเพียงเท่านี้ วัสดุตัวเครื่องทำจากพลาสติกและโลหะ ทำให้ดูเป็นไมค์ของมือโปร

Rode NT-USB มีปัญหาเรื่อง gain และการปรับซอฟต์แวร์ภายในก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่มันก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำพอดแคสต์และสตรีมเมอร์มือใหม่

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • ง่ายต่อการใช้
  • เสียงที่เหมาะสม
  • เอาต์พุตหูฟังในตัว

จุดด้อยของรุ่นนี้:

  • ค่า gain ค่อนข้างสูง
  • ขาตั้งแบบแข็ง ปรับไม่ได้

 

วิธีเลือกไมโครโฟนให้เหมาะกับคุณ

การจะหาว่ารุ่นไหนจะไมโครโฟนที่ดีที่สุดเหมาะกับคุณที่สุด ให้ดูที่การใช้งาน ในรีวิวนี้คุณจะเห็นภาพรวมคร่าว ๆ ของไมโครโฟนแต่ละแบบ ทั้งแบบอเนกประสงค์ ไมโครโฟนพอดแคสต์ ไมโครโฟนสำหรับทำเพลง ฯลฯ โดยพื้นฐานแล้วให้พิจารณาว่าคุณต้องการไมโครโฟนสำหรับทำอะไรมากที่สุด จากนั้นก็หาไมโครโฟนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

เช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่น ๆ ส่วนใหญ่ ไมโครโฟนราคาถูกมักจะมีฟีเจอร์แค่แบบพื้นฐานทั่วไป ส่วนไมโครโฟนที่มีราคาแพงกว่ามักจะมีความพิเศษมากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าไมโครโฟนราคาถูกจะแย่กว่า เพียงแต่ถ้าคุณต้องการคุณภาพแบบกึ่งมืออาชีพ คุณก็ควรจ่ายในราคากึ่งมืออาชีพด้วย

ลองเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ผลิตแต่ละราย เพื่อเรียนรู้ว่าไมค์แต่ละตัวดีไซน์มาให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบไหน เว็บไซต์อย่างเป็นทางการมักจะบอกว่าไมโครโฟนรุ่นนั้น ๆ เหมาะกับการทำพอดแคสต์ เล่นเกม ทำเพลง หรือใช้กับแอปพลิเคชันอื่น ๆ หรือไม่ แต่หากหาไม่เจอ เราแนะนำว่ารูปแบบ cardioid โดยทั่วไปเป็นรูปแบบเสียงที่มีประโยชน์ที่สุด หากต้องการบันทึกเสียงด้วยตัวเองที่บ้าน ไมโครโฟนประเภทอื่น ๆ ก็ดี แต่จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อมีคนอื่นมาบันทึกเสียงด้วย หรือมีแหล่งกำเนิดเสียงมากกว่า 1 แหล่งเท่านั้น

  • กิตติพงษ์ โยธาภักดี
    นักเขียนเทคโนโลยี

    ณัฐ เป็นกูรูด้านเทคโนโลยีและไอทีประจำ Pro Review โดยอยู่ในวงการไอทีมานานกว่า 10 ปี โดยสร้างเนื้อหา ข่าวสาร และบทวิจารณ์สินค้าสำหรับเว็บไซต์เทคโนโลยีหลายแห่งในประเทศไทย จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอกภาษาอังกฤษ ทำให้เขาติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทั่วโลกและติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ และข่าวล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทดลองใช้สินค้าไอทีก่อนที่จะวางจำหน่าย ทำให้บทความของเขาเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด