เครื่องฟอกอากาศอาจแก้ปัญหาของคุณไม่ได้ทุกอย่าง แต่มันจะทำให้อากาศในบ้านคุณสะอาดอยู่เสมอแน่นอน และนี่คือ 5 เหตุผลที่คุณต้องมีเครื่องฟอกอากาศ
บ่อยครั้งที่เรายินว่าเครื่องฟอกอากาศที่ดีเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้านของคุณ แต่ความจริงแล้วคุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศในโฆษณามักจะเกินจริงไปสักหน่อย และเครื่องฟอกอากาศบางตัว อย่างเครื่องฟอกอากาศไอออนิกที่มีฟังก์ชันผลิตโอโซนอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณด้วยซ้ำ
ตามที่องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐระบุว่าวิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงคุณภาพอากาศในอาคารคือการกำจัดที่มาของมลพิษและระบายอากาศภายในออกแล้วแทนที่ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์จากภายนอก นอกจากนี้เครื่องฟอกอากาศยังไม่สามารถกำจัดฝุ่น สะเก็ดผิวหนัง และอนุภาคอื่น ๆ ที่ไม่ได้ลอยอยู่ในอากาศได้
อีกอย่างเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เครื่องฟอกอากาศจะต้องเปิดทำงานไว้เกือบตลอดเวลา นั่นอาจทำให้ค่าไฟของคุณเพิ่มขึ้นมหาศาลได้ ฉะนั้นคุณจึงต้องดูอัตราการใช้ไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้พอคำนวณได้ว่าต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มอีกประมาณเท่าไหร่
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเครื่องฟอกอากาศจะใช้ไม่ได้จริง อันที่จริงเครื่องฟอกอากาศที่ดีนั้นสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก ๆ เช่น ควัน ฝุ่น สะเก็ดผิวหนังสัตว์ และละอองเกสรดอกไม้ได้ดีมาก โดยมีหลักฐานว่าผู้ใช้เครื่องฟอกอากาศจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อใช้อุปกรณ์พวกนี้ในบ้าน แม้จะยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาวก็ตาม
และถึงคุณจะไม่จำเป็นต้องมีเครื่องฟอกอากาศ แต่การจะมีไว้สักเครื่องที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ในห้องของคุณก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร และนี่คือ 5 สถานการณ์ที่เครื่องฟอกอากาศอาจช่วยคุณได้
1. คุณมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หรือหอบหืด
คนที่มีอาการภูมิแพ้ ผู้ป่วยหอบหืด หรือคนที่มีปัญหาการหายใจอื่น ๆ เมื่อหันมาใช้เครื่องฟอกอากาศจะสังเกตเห็นว่าอาการบางอย่างลดลง เช่น การหายใจมีเสียงหวีดและการไอ เมื่อใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA แผ่นกรองอาการคุณภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถดักจับอนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.7% และอย่าซื้อรุ่นที่รับประกันแค่ว่าใช้แผ่นกรอง “คล้าย HEPA” หรือ “สไตล์ HEPA” เพราะมันแค่คล้ายแต่ว่าไม่สามารถทำงานได้อย่าง HEPA
เครื่องฟอกอากาศหลายตัวสามารถดักจับสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองอย่างละอองเกสร สะเก็ดผิวหนังสัตว์ และฝุ่นได้ดี ซึ่งจะไม่ทำให้ปัญหาระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หรือหอบหืดของคุณแย่ลง
แต่ถึงอย่างนั้นสถาบัน American Academy of Allergy, Asthma and Immunology ก็ไม่ได้แนะนำอย่างเฉพาะเจาะจงว่าคนที่มีอาการภูมิแพ้ควรใช้เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา แต่มีงานวิจัยบอกว่าอุปกรณ์ที่มีแผ่นกรองอากาศ HEPA “ดูเหมือนจะ” มีประโยชน์ ตราบใดที่มีการดูแลรักษาเครื่องอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่มีงานวิจัยไหนที่ระบุชัดเจนว่าแผ่นกรองนั้นมีผลทางบวกต่อสุขภาพ
2. คุณมีสัตว์เลี้ยง
ไม่มีสัตว์เลี้ยงประเภทไหนที่สามารถรับประกันได้ 100% ว่าจะไม่ทำให้เจ้าของมีอาการแพ้ แม้แต่สุนัขที่ไม่ผลัดขนก็ยังมีผิวหนังและสะเก็ดผิวหนังร่วงหล่นและปลิวไปในอากาศได้ แถมที่ขนของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จะมีฝุ่นและละอองเกสรเกาะอยู่ ดังนั้นแม้คุณจะไม่ได้แพ้ขนของสัตว์เลี้ยงโดยตรง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าขนของพวกมันจะไม่สร้างปัญหาให้คุณ
เครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูงสมราคาต้องมาพร้อมกับแผ่นกรองขั้นต้นที่สามารถดักจับสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ เช่น ขนของสัตว์เลี้ยง ก่อนที่มันจะไปถึงแผ่นกรองอากาศหลักอย่าง HEPA ส่วนเครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรองคาร์บอนหรือชาร์โคลสามารถดักจับสารประกอบที่มีกลิ่นก็อาจช่วยลดกลิ่นสัตว์เลี้ยงในอากาศได้ด้วย
อย่าลืมทำความสะอาดบ้าน และอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง เป็นประจำด้วย เพราะตัวกรองอากาศช่วยลดผลกระทบจากสะเก็ดผิวหนังสัตว์เลี้ยงลง แต่ก็ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ทั้งหมด
3. คนที่สูบบุหรี่ หรืออาศัยอยู่กับคนสูบบุหรี่
ควันบุหรี่มีผลเสียอย่างมากต่อสุขภาพของผู้สูบและคนที่อาศัยอยู่ด้วย การได้รับควันบุหรี่จากคนอื่นโดยที่เราไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหนก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดอยู่ดี ซึ่งการเปิดหน้าต่างเฉย ๆ ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่จะต้องมีการระบายอากาศภายในบ้านที่ดี และการกรองอากาศอย่างการใช้แผ่นกรองอากาศ HEPA ที่ดักจับฝุ่นขนาดเล็กได้ ระดับพีเอ็ม 2.5 หรือ 2.5 ไมครอน สามารถช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้บางส่วน
ควันบุหรี่เป็น 1 ใน 3 อนุภาคที่มีระบุไว้ในการวัดอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) ของเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งมีการวัดเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อนาที ยกตัวอย่างเช่น หากค่า CADR สำหรับฝุ่นอยู่ที่ 80 แปลว่าในทุก 1 นาที เครื่องรุ่นนั้นสามารถกำจัดฝุ่นได้ 80 ลูกบาศก์ฟุต
ควันบุหรี่เป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดใน 3 ประเภท เมื่อเทียบกับฝุ่นและละอองเกสร ดังนั้นก็ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีค่า CADR สูง ถ้าควันบุหรี่เป็นหนึ่งในปัญหาที่คุณกังวล
4. คุณอาศัยอยู่กับเด็ก หรือมีเพื่อนร่วมห้อง
คุณอาจเป็นคนที่รักสะอาดและมีระเบียบที่สุดในโลก แต่คุณไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของลูก ๆ เพื่อนร่วมห้อง หรือแขกของคุณได้ ถ้าคนอื่นไม่ขยันทิ้งขยะเท่าคุณ หรือถ้าพวกเขาไม่ปัดกวาดฝุ่น สิ่งสกปรก เก็บขนของสัตว์เลี้ยง และละอองเกสรที่ติดมาจากนอกบ้าน เครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยรับภาระในการกรองและขจัดมลพิษเหล่านั้นได้
5. คุณอาศัยอยู่ติดถนนใหญ่หรือใกล้พื้นที่ก่อสร้าง
เครื่องฟอกอากาศสามารถดักจับอนุภาคในอากาศ เช่น ฝุ่น ซึ่งจะลอยขึ้นมาในช่วงที่มีการก่อสร้างหรือเมื่อรถวิ่งไปตามถนน การปิดหน้าต่างก็ช่วยกันฝุ่นได้ระดับหนึ่ง แต่เครื่องฟอกอากาศจะช่วยกรองฝุ่นที่หลุดรอดเข้ามาได้ การใช้เครื่องฟอกอากาศจะช่วยให้คุณหายใจได้ดีขึ้นเล็กน้อย
เครื่องฟอกอากาศจะมีประโยชน์มาก หากคุณกำลังปรับปรุงบ้านอยู่ แต่แน่นอนว่าในระยะยาวการใช้ชีวิตในเขตก่อสร้างอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพนัก ดังนั้นก็ควรใช้วิธีการอื่นเพื่อปกป้องตัวคุณเองจากฝุ่นก่อสร้างด้วย โดยเฉพาะเมื่อสถานที่ก่อสร้างนั้นมีเชื้อรา ใยหิน ตะกั่ว แล็คเกอร์ หรือสีด้วย
วิธีอื่น ๆ ในการปรับปรุงคุณภาพอากาศที่บ้าน
แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศที่ดีจะสามารถกรองอนุภาคบางตัวออกไปจากอากาศได้เป็นอย่างดี แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลคุณภาพอากาศในบ้านเรือน ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้าน ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้เครื่องฟอกอากาศก็ตาม ได้แก่
- ทำความสะอาดบ้านของคุณอย่างสม่ำเสมอ ดูดฝุ่น ปัดฝุ่น และเช็ดพื้นผิวและมุมที่อาจมีสิ่งสกปรก เส้นผม และรังแคตกอยู่ เครื่องฟอกอากาศไม่สามารถขจัดอนุภาคต่าง ๆ ที่เกาะติดบนโต๊ะ พื้น และเฟอร์นิเจอร์ได้
- ระบายอากาศในห้องครัว ห้องซักรีด และห้องน้ำของคุณสม่ำเสมอ ก๊าซ กลิ่น และความชื้น มักจะสะสมอยู่ในบริเวณนี้ โดยใช้ช่องระบายอากาศและพัดลมดูดอากาศ เช่น เครื่องดูดควันเหนือเตา เพื่อให้อากาศถ่ายเท
- เปิดหน้าต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เพื่อให้คุณได้รับอากาศบริสุทธิ์จากด้านนอก แต่ต้องหลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่างหากคุณภาพอากาศภายนอกอาคารไม่ดี
- ซักผ้าปูที่นอนอาทิตย์ละครั้ง ไรฝุ่น และสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยงสามารถสะสมในผ้าปูที่นอนของคุณได้ ซักผ้าปูที่นอน ผ้าขนหนู และผ้าคลุมอื่น ๆ ในน้ำร้อนทุกสัปดาห์ และใช้ที่นอนและปลอกหมอนที่ไม่มีสารก่อภูมิแพ้
- งดใช้เทียน เครื่องหอม ผลิตภัณฑ์เครื่องหอม และอะไรก็ตามที่ต้องจุดไฟ มีควัน หรือมีกลิ่นที่อาจส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในอาคารของคุณ
- ใช้เครื่องลดความชื้น แบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตได้ดีในที่ชื้น ดังนั้นควรรักษาความชื้นในบ้านให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในรายชื่อเครื่องลดความชื้นที่ดีที่สุดของเรา
ข้อสรุป
การเลือกเครื่องฟอกอากาศ ขึ้นอยู่กับความคาดหวังของคุณว่าต้องการให้เครื่องฟอกอากาศทำอะไรได้บ้าง อุปกรณ์พวกนี้ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้านของคุณได้ แต่ก็อย่าพึ่งพามันแค่อย่างเดียว และอย่าคาดหวังให้พวกมันทำอะไรได้มากกว่าที่ถูกดีไซน์ไว้ อย่าลืมว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถกรองสิ่งสกปรก ฝุ่น ควัน และละอองเกสรในอากาศได้ แต่มันไม่สามารถทำความสะอาดพรม ล้างจาน หรือทำอาหารได้
เนื้อหาเครื่องฟอกอากาศเพิ่มเติม:
- เครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยโรคหอบหืดได้หรือไม่
- เครื่องฟอกอากาศ vs ต้นไม้ฟอกอากาศ — อะไรดีกว่ากัน
- เครื่องฟอกอากาศ VS เครื่องเพิ่มความชื้น ต้องใช้อะไร