วิธีเลือก Apple Watch ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch 8, Apple Watch Ultra หรือ Apple Watch SE
สำหรับเรา Apple Watch รุ่นที่ดีที่สุดก็คือรุ่นที่ตรงกับความต้องการของคุณที่สุดนั่นเอง ลองถามตัวเองดูว่าคุณต้องการซื้อ Apple Watch ไปเพื่อติดตามการออกกำลังกาย ต้องการอุปกรณ์เสริมให้ iPhone ของคุณ หรือต้องการอุปกรณ์ที่สามารถช่วยชีวิตคุณได้ในกรณีฉุกเฉิน
Apple Watch หลายรุ่นสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ทั้งหมด แต่บางรุ่นก็ทำได้ดีกว่ารุ่นอื่น แม้เราจะเห็นความแตกต่างชัดเจนเมื่อ Apple ออกนาฬิกาใหม่ในทุก ๆ ปี แต่ Apple Watch แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนั่นทำให้ทุกรุ่นเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดในทุก ๆ ปี แน่นอนว่า Apple Watch ที่ออกใหม่ทุกรุ่น จะเป็นรุ่นที่ดีขึ้นเสมอ
ความดีงามของ Apple Watch รุ่นใหม่อย่าง Series 8, Ultra และ Watch SE (2022) คือ มันเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีประโยชน์กับผู้ใช้ทุก ๆ คน แต่แน่นอนว่าก็ต้องแลกมาพร้อมกับราคาที่สูงอยู่พอควร โดย Apple ได้หยุดการจำหน่าย Apple Watch SE รุ่นแรก และ Apple Watch Series 3 ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2017 แล้ว
- Apple Watch Series 8
- #1
- Apple Watch SE (2022)
- #2
- Apple Watch Ultra
- #3
คุณอาจหาซื้อ Apple Watch รุ่นดั้งเดิมมือสองได้ทางออนไลน์ เนื่องจากผู้ใช้เดิมก็ต้องการขายเพื่ออัพเกรดรุ่นใหม่เช่นกัน แต่ทั้ง รุ่นนี้จะไม่สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ watchOS ล่าสุดได้แล้ว นี่จึงเป็นอีกข้อจำกัดเมื่อเทียบกับนาฬิการุ่นที่ใหม่กว่า
คู่มือการซื้อ smart watch เพิ่มเติม:
- วิธีเลือก Smart Watch ที่เหมาะกับคุณ
- สมาร์ทวอทช์ Samsung ที่ดีที่สุดในขณะนี้
- แนะนำนาฬิกาสปอร์ตชั้นนำในตลาด
6 แนะนำ รุ่น Apple Watch ได้แก่
- 1. Apple Watch Series 8
- 2. Apple Watch SE (2022)
- 3. Apple Watch Ultra
- 4. Apple Watch Series 7
- 5. Apple Watch Series 6
- 6. Apple Watch SE (2020)
รีวิว Apple Watch ที่ดีที่สุด
1. Apple Watch Series 8
Credit: Apple.com/th/
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
Apple Watch ที่ดีที่สุดโดยภาพรวม
จอภาพ: 41มม., 45 มม. | การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจ: รองรับ | GPS: รองรับ | ระบบเซลลูลาร์: เลือกได้ | แบตเตอรี่: 18 ชั่วโมง | ทนน้ำ: รองรับ | ความจุข้อมูล: 32GB
ต่อให้ Apple Watch 8 จะไม่ได้พัฒนายกใหญ่ เมื่อเทียบกับ Series 7 แต่ก็เรียกได้ว่าเป็น Apple Watch ที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ รูปทรงและรูปลักษณ์ของตัวเรือนยังดูดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีการเพิ่มขนาดจอภาพให้ใหญ่ขึ้น แต่ที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ คือคุณสมบัติใหม่อย่างการติดตามค่าอุณหภูมิ ที่จะเก็บข้อมูลรอบเดือนเพื่อช่วยคาดคะเนช่วงไข่ตกได้ แล้วยังสามารถประเมินระยะของการนอนหลับได้อีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว Series 8 ยังเปิดตัวมาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานที่แฟน ๆ ต่างเรียกร้องกันมานาน เพราะมันจะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ไปได้ยาวถึง 36 ชั่วโมง มากไปกว่านั้นอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของ Apple Watch 8 ยังมีผลให้ชีวิตคุณปลอดภัยขึ้น เพราะมันจะตรวจจับการชนและสามารถส่งสัญญาณไปแจ้งหน่วยงานฉุกเฉินได้ ทำให้การช่วยเหลือมาถึงคุณทันเวลา
ส่วนคุณสมบัติด้านสุขภาพร่างกายและช่องทางการสื่อสาร Apple Watch Series 8 ก็จัดเต็มไม่แพ้ใคร ยิ่งพอทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ watchOS9 ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ ก็ทำให้สมาร์ทวอทช์ตัวนี้ใช้งานได้ดีเยี่ยมอย่างไร้ข้อกังขา ไม่ว่าคุณจะกำลังเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ไปใช้คู่ไปกับการออกกำลังกาย เอาไว้รับโทรศัพท์ หรือเพียงเพราะอยากใช้งานแอปพลิเคชันสุดปังของ Apple Watch รุ่นนี้คือสมาร์ทวอทช์ที่เกิดมาเพื่อคุณ
อ่านรีวิว Apple Watch 8 ฉบับเต็ม
เหตุผลที่ควรซื้อ:
- เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ ช่วยคาดคะเนรอบเดือนและติดตามระยะการนอนหลับ
- ระบบตรวจจับการชนกัน
- ระบบปฏิบัติการ watchOS 9 ที่มาพร้อมกับหน้าปัดออกกำลังกาย
- โหมดประหยัดพลังงาน
เหตุผลที่ควรเลี่ยง:
- ไม่ได้มีข้อแตกต่างที่โดดเด่นจาก Apple Watch รุ่นก่อน
2. Apple Watch SE (2022)
Credit: Apple.com/th/
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
Apple Watch เรือนแรกที่ดีที่สุด
จอภาพ: 40มม., 44 มม. | การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจ: รองรับ | GPS: รองรับ | ระบบเซลลูลาร์: เลือกได้ | แบตเตอรี่: 18 ชั่วโมง | ทนน้ำ: รองรับ | ความจุข้อมูล: 16GB
Apple Watch SE คือลูกผสมของความเก่าและความใหม่ รุ่นนี้ใช้ดีไซน์แบบ Apple Watch รุ่นเก่าแต่ใช้ชิปเซ็ตเดียวกับรุ่นใหม่ (Apple Watch Series 8) แต่ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 9,900 บาท เลยไม่ได้แปลกใจอะไรที่สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ไม่ได้มีทุกคุณสมบัติเหมือนกับ Series 8 ถึงอย่างนั้นก็ยังโดดเด่นในแง่ของการติดตามข้อมูลด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย รวมไปถึงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและเหตุฉุกเฉิน ที่สำคัญคือถ้าคุณอยากได้การตั้งค่าสำหรับสมาชิกครอบครัวด้วย ก็สามารถเลือกซื้อรุ่นที่รองรับระบบเซลลูลาร์ได้
ถ้าคุณเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อ Series 8 หรือ SE ดี คำถามที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นคือ คุณพร้อมจ่ายเงินเพิ่มอย่างน้อย 6,000 บาท เพื่อให้ได้ Apple Watch ที่มีจอภาพแบบติดตลอด (always on) ที่ทั้งสว่างและจอใหญ่ขึ้น เซ็นเซอร์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และการติดตามค่าอุณหภูมิหรือเปล่า
ถ้าคุณเฉย ๆ กับคุณสมบัติที่เรากล่าวมาข้างต้น รุ่น SE ก็คงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรับผู้ใช้ iPhone เพราะมันมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ watchOS9 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์อัพเดทใหม่ล่าสุดจาก Apple ที่มีการเพิ่มโหมดประหยัดพลังงาน รูปแบบหน้าปัดใหม่ หน้าจอออกกำลังกายที่พัฒนาแล้ว แอปเข็มทิศที่ได้รับการออกแบบใหม่ และแอปทางด้านสุขภาพที่ดีงามกว่าเดิม
อ่านรีวิว Apple Watch SE (2022) ฉบับเต็ม
เหตุผลที่ควรซื้อ:
- ราคาถูกลงจากรุ่นก่อน
- ฝาหลังมีสีเดียวกันกับตัวเรือน
- ใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวกันกับ Apple Watch Series 8
เหตุผลที่ควรเลี่ยง:
- จอภาพไม่ได้เป็นแบบติดตลอด
3. Apple Watch Ultra
Credit: Apple.com/th/
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
Apple Watch ที่ดีที่สุดสำหรับนักกีฬา
จอภาพ: 49มม. | การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจ: รองรับ | GPS: รองรับ | ระบบเซลลูลาร์: รองรับ | แบตเตอรี่: 36 ชั่วโมง | ทนน้ำ: รองรับ | ความจุข้อมูล: 32GB
ถ้าคุณเป็นนักกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ Apple Watch Ultra ก็คงเป็นที่สุดแห่ง Apple Watch สำหรับคุณ เพราะนอกเหนือจากเครื่องมือด้านการวิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่แล้ว รุ่น Ultra ยังมีปุ่มแอ็คชั่นที่ช่วยให้คุณควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น หยุดการจับเวลาหรือนับรอบขณะออกกำลังกายได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องหงุดหงิดเวลากดหน้าจอไม่ติด เพราะนิ้วเปียกเหงื่อหรือใส่ถุงมือออกกำลังกายอยู่
คุณอาจจะคิดว่าจอภาพขนาด 49 มม. มันช่างใหญ่เสียเหลือเกิน โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่ข้อมือเล็ก แต่รุ่นนี้ก็สร้างมาให้มีความสมบุกสมบันพร้อมลุยทุกการผจญภัย โดยตัวเรือนทำมาจากไทเทเนียมและจอภาพจากผลึกแซฟไฟร์พร้อมขอบป้องกัน ตัวนาฬิกาทนน้ำได้ถึง 100 เมตร และมีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นานถึง 60 ชั่วโมง เรียกได้ว่าอึดสุด ๆ
Apple Watch Ultra คือสมาร์ทวอทช์มากความสามารถที่อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน และเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นเดียวจาก Apple ที่พอจะสู้นาฬิกาที่ดีที่สุดจาก Garmin ได้
อ่านรีวิว Apple Watch Ultra ฉบับเต็ม
เหตุผลที่ควรซื้อ:
- แบตเตอรี่อึดที่สุดในบรรดา Apple Watch ทุกรุ่น
- มีปุ่มแอ็คชั่นที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นเพิ่มมา
- สามารถส่งเสียงไซเรนฉุกเฉินได้
เหตุผลที่ควรเลี่ยง:
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ก็ยังสู้คู่แข่งไม่ได้อยู่ดี
4. Apple Watch Series 7
Credit: Apple.com/th/
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
สุดยอด Apple Watch ที่ดีที่สุดรอบด้าน
จอแสดงผล: 41 มม., 45 มม. | อัตราการเต้นของหัวใจ: มี | จีพีเอส: มี | LTE: มีให้เลือกได้ | อายุการใช้งานแบตเตอรี่: 18 ชั่วโมง | รองรับการว่ายน้ำ: มี | คลังจัดเก็บเพลง: 32 GB
Apple Watch 7 เป็น Apple Watch ที่ดีที่สุดในทุกด้าน แม้จะไม่ใช่การอัพเกรดครั้งใหญ่จาก Apple Watch 6 เดิมในแง่ของฟีเจอร์สุขภาพ แต่ก็มีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมาก Apple Watch 7 ใหม่นี้จัดเป็นครั้งแรกที่ Apple Watch มาในขนาด 41 มม. และ 45 มม. แถมยังมีหน้าจอขนาดใหญ่อีกด้วย Apple ซีรีส์ 7 นี้มีหน้าปัดนาฬิกาดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น และคีย์บอร์ดคิวเวอตี้ (QWERTY) เต็มรูปแบบอีกด้วย
แม้ว่าเราอยากให้ Apple Watch ปรับปรุงความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาแค่ 18 ชั่วโมง แต่ Series 7 ก็รองรับระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จได้เร็วขึ้นอีก คุณสามารถชาร์จแบตให้เต็มได้ภายในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เพียงแค่ชาร์จด้วยสายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็ก USB‑C ที่มีมาให้ก็สามารถเอาเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่นได้แล้ว ไม่ว่าคุณจะต้องการสมาร์ทวอทช์สำหรับออกกำลังกาย รับสายโทรศัพท์จากข้อมือของคุณ หรือใช้แอปพลิเคชันของ Apple Watch ก็ตาม แต่รุ่นนี้คือสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่มี iPhone อย่างแน่นอน
อ่านรีวิว Apple Watch 7 แบบเต็มของเรา
ข้อดีของรุ่นนี้
- จอแสดงผลขนาดใหญ่ขึ้น
- โหมดไฟติดตลอดเวลา (always on) ที่สว่างขึ้น
- แป้นพิมพ์คิวเวอตี้ (QWERTY)
- มาพร้อมสายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็ก USB‑C
ข้อเสียของรุ่นนี้
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพียง 18 ชั่วโมง
5. Apple Watch Series 6
Credit: Apple.com/th/
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
นาฬิกา Apple Watch ที่ดีที่สุดโดยรวม
หน้าจอ: 40 มิลลิเมตร, 44 มิลลิเมตร | วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ: มี | GPS: มี | LTE: เลือกซื้อได้ | อายุแบตเตอรี่: 18 ชั่วโมง | กันน้ำขณะว่ายน้ำ: มี | ความจุสำหรับจัดเก็บเพลง: 32 GB
Apple Watch Series 6 เป็น Apple Watch ที่ดีที่สุดในตอนนี้ เพราะพัฒนาจากคุณสมบัติที่เรารักในรุ่น Series 5 เช่น หน้าจอแสดงผลที่เปิดใช้ตลอดเวลา และคุณสมบัติการดูแลสุขภาพ พร้อมกับหน้าจอที่สว่างยิ่งขึ้นและตัวอ่านค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) นอกจากนี้ Apple Watch ยังมาพร้อมสีสันให้เลือกมากมายเป็นครั้งแรก โดยมีสีน้ำเงินและสีแดงสุดพิเศษเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
แม้ว่าเราอยากเห็น Apple Watch ปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้มากกว่า 18 ชั่วโมง แต่รุ่น Series 6 ก็ได้รับประโยชน์จากการชาร์จที่เร็วขึ้น คุณสามารถชาร์จแบตได้เต็มในเวลาเพียง 90 นาที ซึ่งมีประโยชน์มากหากคุณต้องการใส่นาฬิกาตอนกลางคืน Apple Watch 6 ยังมีการติดตามการนอนหลับด้วยด้วย เป็นข้อดีจากระบบ watchOS 7 ซอฟต์แวร์ล่าสุดยังเพิ่มหน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่ ตัวชี้วัดการเคลื่อนไหว และตัวจับเวลาการล้างมืออัตโนมัติ
- หน้าแสดงผลตลอดเวลาที่สว่างขึ้น
- การชาร์จอย่างรวดเร็ว
- ระบบ Watch OS 7 แบบบูรณาการ
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพียง 18 ชั่วโมง
6. Apple Watch SE (2020)
Credit: Apple.com/th/
ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee
Apple Watch ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานครั้งแรก
หน้าจอ: 40 มิลลิเมตร, 44 มิลลิเมตร | วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ: มี | GPS: มี | LTE: เลือกซื้อได้ | อายุแบตเตอรี่ (ตามข้อมูลของแบรนด์): 18 ชั่วโมง | กันน้ำขณะว่ายน้ำ: มี | ความจุสำหรับจัดเก็บเพลง: 16 GB
Apple Watch SE เป็นลูกผสมของ Apple Watch Series 5 (ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว) และ Apple Watch Series 3 สมาร์ทวอทช์ราคาเริ่มต้นที่ 9,400 บาทรุ่นนี้ จะไม่มีคุณสมบัติทั้งหมดของ Series 6 แต่ยังคงมีความโดดเด่นด้วยชิปที่รวดเร็วและความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีรุ่น LTE ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจใช้การตั้งค่าสำหรับครอบครัว
ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง Apple Watch 6 และ Apple Watch SE สิ่งที่คุณต้องตัดสินใจในขั้นสุดท้ายของคุณคือพิจารณาว่าอยากจ่ายเงินเพิ่มอีก 4,000 บาทเพื่อจอแสดงผลที่สว่างขึ้น ตัวเลือกเปิดจอได้ตลอดเวลา จอภาพ ECG และเครื่องอ่าน SpO2 หรือไม่ หากเครื่องมือเหล่านั้นไม่สำคัญสำหรับคุณ รุ่น SE ก็เป็นตัวเลือก Apple Watch ที่ดีที่สุดได้
- รายการรวมแอปขนาดใหญ่
- หน้าจอขนาดใหญ่
- การตอบสนองดี
- ไม่มีหน้าจอแสดงผลตลอดเวลาและหน้าจอ ECG
วิธีเลือก Apple Watch ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
การเลือก Apple Watch ที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นการตัดสินใจที่ยาก ส่วนใหญ่คำตอบมักจะเป็น Apple Watch 8 รุ่นใหม่ล่าสุดกับ Apple Watch SE เราขอแนะนำให้ซื้อ Series 8 หากอยู่ในงบประมาณ 13,000+ บาท คุณจะได้หน้าจอที่แสดงผลตลอดเวลาและเซ็นเซอร์ตรวจสุขภาพขั้นสูง ส่วน Apple Watch SE อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก
หากคุณตัดสินใจไม่ได้ระหว่าง Apple Watch 8 กับ Apple Watch Ultra หรือ Apple Watch SE (2022) จะต้องพิจารณาว่าคุณต้องการสมาร์ตวอทช์ที่รองรับการอัพเดทในอีกหลายปีข้างหน้าหรือไม่ ราคาของ Series 6/7 ที่ต่ำกว่ามากอาจเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจเมื่อคุณกำลังมองหาเครื่องติดตามการออกกำลังกายที่ทำงานร่วมกับ iPhone ของคุณ แต่ก็ต้องทำใจว่ารุ่นนี้จะไม่มีการอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดอีกต่อไป
ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นไหน คุณจะได้รับประโยชน์จากการอัปเดตของซอฟต์แวร์ watchOS 7 ในทุกรุ่น ทำให้นาฬิกาทั้งสามรุ่นนี้มีคุณสมบัติหลายอย่างที่เหมือนกัน
เลือกอย่างไรให้ถูกใจและใช้ได้นาน
ที่จริงการเลือกซื้อ Apple Watch ไม่ใช่เรื่องยาก และส่วนใหญ่คนจะเหลือแค่ 2 ตัวเลือกเท่านั้นแหละ คือ Apple Watch 8 หรือ Apple Watch SE (2022) ซึ่งถ้าคุณโอเคที่จะจ่ายเพิ่มอย่างน้อย 6,000 บาท เราแนะนำให้ซื้อ Series 8 ไปเลย เพราะคุณจะได้จอภาพที่ใหญ่ขึ้นด้วย แต่ถ้านี่คือ Apple Watch เรือนแรกของคุณ รุ่น SE ก็จะเหมาะสมกว่า
แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะเลือกซื้อรุ่นไหน คุณก็จะได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอัพเดทล่าสุดอย่าง watchOS9 อยู่ดี เพราะมันมีเครื่องมือและตัวช่วยที่ใช้งานได้เต็มที่เหมือนกันทุกรุ่น ซึ่งถ้าคุณอยากใช้สมาร์ทวอทช์ของคุณให้ได้ประโยชน์สูงสุด ลองเข้าไปอ่านคู่มือ Apple Watch ของเราโดยละเอียดดู
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่า Apple Watch รุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด หรือแม้กระทั่งว่า Apple Watch คือสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้วจริง ๆ หรือเปล่า ก็ลองอ่านคู่มือการเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ของเราดู เพราะเราได้เปรียบเทียบแต่ละรุ่นไว้อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่าย ๆ ว่านาฬิกาติดตามการออกกำลังจาก Fitbit จะเหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากกว่าหรือเปล่า
หรือถ้าสายนาฬิกาคุณเริ่มสกปรก ก็อย่าลืมศึกษาวิธีทำความสะอาดสาย Apple Watch
ควรซื้อ Apple Watch รุ่น LTE ดีไหม
Apple Watch Series SE และ Apple Watch 6 บางรุ่นรองรับบริการ LTE ด้วย รุ่นที่รองรับ LTE จะมีราคาเพิ่มอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 3,500 บาท แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามาไม่ได้สิ้นสุดลงเมื่อคุณใช้งาน Apple Watch กับ iPhone ของคุณเท่านั้น คุณยังจะต้องชำระค่าธรรมเนียมรายเดือนให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณเพื่อรองรับคุณสมบัติแบบสมาร์ทโฟนบนนาฬิกาด้วย
เรายังคงพกพา iPhone ของเราไปด้วยในทุกที่ ดังนั้นจึงยังไม่รู้สึกว่า LTE เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้ Apple Watch ขนาดนั้น แม้ว่า Apple Watch จะควบคุมการทำงานภายในได้มากขึ้น แต่ก็อาจมีสถานการณ์อื่นๆ ที่คุณทำให้คุณเลือกวางโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน ระบบ LTE นั้นก็มีประโยชน์ด้านความปลอดภัยเช่นกัน หากโทรศัพท์ของคุณแบตหมดหรือสูญหาย Apple Watch จะยังใช้สำหรับการติดต่อได้
จำเป็นต้องซื้อ Apple Watch รุ่นที่รองรับระบบเซลลูลาร์ไหม
ถ้าคุณตกลงปลงใจจะซื้อ Apple Watch Series 7, series 8 หรือ Apple Watch SE (2022) แล้ว คุณสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อรุ่นที่รองรับระบบเซลลูลาร์หรือเปล่า ซึ่งคุณจะต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 2,000 – 4,000 บาท ส่วน Apple Watch Ultra ทุกตัวจะรองรับระบบเซลลูลาร์อยู่แล้ว
ถ้าคุณไม่ได้พก Apple Watch ไปไหนมาไหนคู่กับ iPhone คุณจะต้องซื้อรุ่นที่รองรับระบบเซลลูลาร์ แล้วยังต้องจ่ายค่าโทรศัพท์รายเดือนให้กับเครือข่ายมือถือของคุณด้วย ถึงจะสามารถใช้งานคุณสมบัติฟรีของสมารท์วอทช์นี้ได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราแทบทุกคนมักจะติด iPhone ของเราไปด้วยทุกที่อยู่แล้ว เราเลยรู้สึกว่าระบบเซลลูลาร์อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ Apple Watch แต่ถ้าวันนึง Apple พัฒนาให้ Apple Watch สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองได้มากขึ้น ก็อาจทำให้ iPhone กลายเป็นอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต้องพกติดตัวตลอดเวลาแล้ว (ใช้แค่ Apple Watch ตัวเดียวอยู่) แต่ ณ ตอนนี้ประโยชน์ข้อสำคัญของระบบเซลลูลาร์คือเรื่องของความปลอดภัย เช่น ถ้าโทรศัพท์คุณแบตเตอรี่หมดหรือเกิดหายขึ้นมา Apple Watch จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณยังติดต่อคนอื่น ๆ ได้อยู่ แถมยังใช้งาน Apple Pay บน Apple Watch ได้อีกด้วยนะ