คำถามหนึ่งที่มักจะได้ยินคนถามบ่อย ๆ เกี่ยวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคือ ชาร์จหนึ่งครั้งแล้วจะขับขี่ได้ไกลแค่ไหน
ระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดแบตเตอรี่ น้ำหนักของผู้ขับขี่ พื้นผิวถนน และความเร็ว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการใช้พลังงานของสกู๊ตเตอร์ ดังนั้นจึงส่งผลต่อระยะทางด้วย โดยจำเป็นต้องทราบว่าสกู๊ตเตอร์สามารถเดินทางได้ไกลแค่ไหนด้วยการชาร์จหนึ่งครั้งเพื่อให้ตัดสินใจได้ว่าสกู๊ตเตอร์นั้นๆ ตอบโจทย์ความต้องการของคุณหรือไม่และเพื่อให้วางแผนเส้นทางได้อย่างสอดคล้องกัน
ในบทความนี้ เราจะสำรวจดูว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเดินทางได้ไกลแค่ไหน และปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อระยะทางของสกู๊ตเตอร์ โดยเราจะแนะนำเคล็ดลับการยืดระยะทางของสกู๊ตเตอร์และวิธีคำนวณระยะทางตามคุณสมบัติของสกู๊ตเตอร์ด้วย แล้วเมื่ออ่านบทความนี้จบ คุณก็จะเข้าใจระยะทางของสกู๊ตเตอร์มากขึ้น รวมถึงวิธีการตักตวงประโยชน์จากระยะการใช้แบตเตอรี่ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่างคุ้มค่าที่สุด
ความจุของแบตเตอรี่และระยะทาง
ความจุของแบตเตอรี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นตัวกำหนดระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยิ่งความจุแบตเตอรี่สูงเท่าไร สกู๊ตเตอร์ก็จะเดินทางได้ไกลยิ่งขึ้นเท่านั้นด้วยการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยปกติแล้วแบตเตอรี่ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ระหว่าง 250 ถึง 750 วัตต์ และระยะทางก็แตกต่างกันไปตั้งแต่ 16ตามความจุของแบตเตอรี่
ในการคำนวณหาระยะทางสูงสุดของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คุณจะต้องทราบค่าความจุแบตเตอรี่แล้วหารด้วยค่าวัตต์-ชั่วโมงต่อไมล์ ตัวอย่างเช่น ถ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณมีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 360 วัตต์ และค่าวัตต์-ชั่วโมงต่อไมล์อยู่ที่ 20 ระยะทางที่คาดการณ์ว่าจะเดินทางได้ของคุณจะอยู่ที่ประมาณ 18 ไมล์ (28 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
สิ่งสำคัญคือต้องอย่าลืมว่าค่าคำนวณนี้เป็นเพียงค่าประมาณ และระยะทางจริงอาจแตกต่างกันไปได้ตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น พื้นผิวถนน น้ำหนักของผู้ขับขี่ และความเร็ว
ต่อไปนี้คือตัวอย่างส่วนหนึ่งจากสกู๊ตเตอร์รุ่นยอดนิยมบางรุ่น
- Xiaomi Mi Electric Scooter มีแบตเตอรี่ 280Wh และระยะทางสูงสุดที่ 6 ไมล์ (29 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- Segway Ninebot ES2 Electric Scooter มีแบตเตอรี่ 187Wh และระยะทางสูงสุดที่ 5 ไมล์ (24.9 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- Razor E300 Electric Scooter มีระบบแบตเตอรี่ 24V และระยะทางสูงสุดถึง 10 ไมล์ (16 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- Glion Dolly Foldable Lightweight Adult Electric Scooter มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 36V และระยะทางสูงสุดที่ 15 ไมล์ (24 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- Nanrobot D4+ Electric Scooter มีแบตเตอรี่ลิเธียม 52V 23.4Ah และระยะทางสูงสุดถึง 45 ไมล์ (72 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
สภาพพื้นผิวและการขับขี่
พื้นผิวถนนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สามารถส่งผลต่อระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า การขับขี่บนพื้นผิวราบเรียบจะใช้พลังงานน้อยกว่าการขับขี่บนพื้นผิวที่เป็นเนิน ยกตัวอย่างเช่น การขับขี่ขึ้นเนินจะกินพลังงานแบตเตอรี่มากกว่าการขับขี่ลงเนิน โดยสามารถลดระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณลงไปได้อย่างมาก
สภาวะในการขับขี่อย่างสภาพอากาศและน้ำหนักของผู้ขับขี่ก็สามารถส่งผลต่อระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้ด้วย การขับขี่ในสภาวะลมแรงหรือฝนตกหนักจะต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าการขับขี่ในวันที่อากาศดีแดดจ้า แล้วก็เช่นเดียวกัน ผู้ขับขี่ที่มีน้ำหนักตัวมากย่อมอาศัยพลังงานมากกว่าในการขับเคลื่อนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถลดขีดความสามารถด้านระยะทางได้
เพื่อให้ขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณได้ในระยะทางที่ไกลที่สุดในสภาวะการขับขี่ที่หลากหลาย คุณควรวางแผนเส้นทางอย่างรอบคอบ โดยเลี่ยงเนินเขาชัน ๆ และให้ขับขี่บนพื้นผิวราบเรียบเมื่อใดก็ตามที่ทำได้ ลองคำนึงถึงสภาพอากาศและแต่งกายอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ก็ยังสำคัญมากที่ต้องคอยสังเกตสไตล์การขับขี่ของคุณแล้วลดจำนวนครั้งที่หยุดหรือเปิดเครื่องให้น้อยที่สุด ซึ่งเป็นอะไรที่กินแบตเตอรี่อย่างมาก
- การขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นเนินหรือการขับขี่บนท้องถนนที่ขรุขระสามารถลดขีดความสามารถด้านระยะทางลงได้
- การขับขี่บนพื้นถนนที่ราบเรียบสามารถช่วยยืดระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
- การขับขี่ในสภาพอากาศที่เลวร้าย เช่น อากาศร้อนหรือเย็นสุดขีด ก็สามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้ด้วย
ความเร็วและระยะการใช้งานแบตเตอรี่
ความเร็วที่คุณใช้ขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าก็สามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางได้เช่นกัน การขับขี่ด้วยความเร็วสูงจะลดระยะการใช้งานแบตเตอรี่ลงไปอย่างมากเนื่องจากต้องใช้พลังงานมากกว่าในการรักษาความเร็วนั้น ในทางตรงกันข้าม การขับขี่ด้วยความเร็วที่ต่ำลงมาจะเพิ่มขีดความสามารถด้านระยะทางได้เนื่องจากต้องใช้พลังงานน้อยกว่าในการรักษาความเร็วต่ำ
ในการยืดระยะการใช้งานแบตเตอรี่และขับขี่สกู๊ตเตอร์ให้ได้ระยะทางที่ไกลที่สุด คุณควรขับขี่ด้วยความเร็วปานกลาง โดยให้ตั้งเป้าใช้ความเร็วที่จะพาคุณเดินทางไปตามระยะทางที่ต้องการได้โดยไม่ใช้แบตเตอรี่เยอะเกินไป นอกจากนี้แล้ว การขับขี่โดยรักษาระดับความเร็วคงที่ก็จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้เช่นกัน
สิ่งสำคัญมากอีกอย่างคือต้องตรวจสอบระยะการใช้งานแบตเตอรี่แล้วชาร์จแบตของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าก่อนที่แบตเตอรี่จะเหลือน้อยเกินไป สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนมากมีตัวบ่งชี้สถานะเพื่อแสดงระดับแบตเตอรี่ ดังนั้นให้คอยสังเกตดูในระหว่างที่คุณขับขี่
- ช่วงผลกระทบต่อความเร็วในการขี่: ความเร็วที่สูงขึ้นจะลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ในขณะที่ความเร็วที่ต่ำลงสามารถเพิ่มได้
ความเร็วปานกลางและคงที่คือกุญแจสำคัญ: รักษาความเร็วที่สมดุลระหว่างการครอบคลุมระยะทางและการประหยัดแบตเตอรี่
ตรวจสอบอายุแบตเตอรี่: ตรวจสอบไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่เป็นประจำและชาร์จใหม่ก่อนที่ระดับจะลดลงต่ำเกินไป
ลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่และการบำรุงรักษา
ลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่และการบำรุงรักษาเป็นปัจจัยสองข้อที่สามารถส่งผลกระทบสำคัญต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อย่างแรกคือต้องตระหนักว่าน้ำหนักของผู้ขับขี่ สไตล์การขับขี่ และความถี่ในการใช้งานล้วนแล้วส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ยกตัวอย่างเช่น การเร่งหรือการเบรกอย่างรุนแรง การขับขึ้นเนินบ่อย ๆ และการขับด้วยความเร็วสูงจะลดขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในทางตรงกันข้าม นิสัยการขับขี่ที่นุ่มนวลและสม่ำเสมอก็จะช่วยคงสภาพแบตเตอรี่และยืดระยะทางออกไปได้
การบำรุงรักษาเป็นประจำก็สำคัญมากในการรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้ดีอยู่เสมอ เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อาจเสื่อมลง ซึ่งจะเป็นการลดขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ งานบำรุงรักษาง่าย ๆ อย่างการเก็บรักษาแบตเตอรี่ให้แห้งสะอาด การเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่เกินหรือต่ำกว่าที่ควร หรือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เก่าแล้วหรือเสียหาย ล้วนแล้วสามารถช่วยบำรุงรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และยืดระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้
- ลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่ เช่น การเร่งหรือเบรกอย่างรุ่นแรง สามารถลดขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
- ลักษณะนิสัยการขับขี่ที่นุ่มนวลและสม่ำเสมอสามารถช่วยคงสภาพแบตเตอรี่และยืดขีดความสามารถด้านระยะทางออกไปอีกได้
- การบำรุงรักษาเป็นประจำ เช่น การเก็บรักษาแบตเตอรี่ให้แห้งสะอาด สามารถช่วยรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้ดีอยู่เสมอและยืดขีดความสามารถด้านระยะทางออกไป
ปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อระยะทาง
นอกเหนือจากลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่และการบำรุงรักษา ปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการก็สามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้ อย่างแรกคือ อายุแบตเตอรี่จะส่งผลต่อระยะทางอย่างมาก ซึ่งเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ความจุของแบตเตอรี่ในการเก็บประจุไฟฟ้าจะเสื่อมสภาพลง โดยส่งผลให้สกู๊ตเตอร์เดินทางได้ในระยะที่สั้นกว่าเดิม ทั้งนี้ขอแนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกสองถึงสามปีเพื่อคงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดเอาไว้
ประเภทของยางรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าก็อาจส่งผลต่อระยะทางได้ด้วย ยางรถที่มีดอกยางแบบดุดันมากกว่าจะสร้างแรงเสียดทานเยอะกว่า ในการทางกลับกัน ยางรถเรียบ ๆ ก็จะช่วยลดแรงเสียดทานได้ จึงสามารถขับขี่ได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น โดยควรเลือกประเภทยางรถที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของคุณและบำรุงรักษายางอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
ท้ายที่สุดนี้ คุณภาพของมอเตอร์ก็ส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้เช่นกัน มอเตอร์คุณภาพสูงว่าย่อมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้ขับขี่ได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น คุณควรเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ที่เชื่อถือได้และทรงพลังเพื่อประสิทธิภาพและขีดความสามารถด้านระยะทางขั้นสุด
- อายุแบตเตอรี่สามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์
- ประเภทของยางรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทาง โดยที่ดอกยางแบบดุดันจะก่อให้เกิดแรงเสียดทานมากกว่าและลดขีดความสามารถด้านระยะทางลงไป
- คุณภาพของมอเตอร์ก็สามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยิ่งมอเตอร์คุณภาพสูง ประสิทธิภาพและประสิทธิผลก็จะสูงตาม
ข้อสรุป
กล่าวได้ว่า ขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงความจุของแบตเตอรี่ พื้นผิวถนน สภาวะในการขับขี่ และความเร็ว การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้และการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อยืดระยะทางที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณสามารถเดินทางได้ให้ไกลที่สุดจะช่วยให้คุณขับขี่ได้ไกลกว่าเดิมต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อย่าลืมวางแผนเส้นทางการเดินทางอย่างรอบคอบ ขับขี่โดยรักษาระดับความเร็วปานกลาง และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่เพื่อให้ขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เมื่อใช้เคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะสนุกไปกับการขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สะดวกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างทาง
ข้อสรุปที่สำคัญมีดังนี้
- ขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย รวมถึงความจุของแบตเตอรี่ ลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่ พื้นผิวถนน และรวมถึงความจุของแบตเตอรี่ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ความจุของแบตเตอรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยิ่งความจุแบตเตอรี่สูง ก็จะยิ่งเดินทางได้ไกล
- ลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่และการบำรุงรักษาก็สามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ลักษณะการขับขี่ที่รุนแรงจะลดขีดความสามารถด้านระยะทาง และการบำรุงรักษาเป็นประจำก็จะช่วยยืดขีดความสามารถด้านระยะทางออกไปอีก
- สภาพพื้นผิวและการขับขี่สามารถส่งผลต่อขีดความสามารถด้านระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ การขับขี่ขึ้นเนินและท้องถนนขรุขระจะลดระยะทางที่สามารถเดินทางได้ โดยที่พื้นผิวราบเรียบจะเอื้อให้ขับขี่ได้ไกลที่สุด
- การขับขี่ด้วยความเร็วสูงสามารถทำให้แบตเตอรี่ลดฮวบและลดขีดความสามารถด้านระยะทางโดยรวม ในขณะที่การขับช้า ๆ และรักษาระดับความเร็วปานกลางจะช่วยยืดระยะการใช้งานแบตเตอรี่และช่วยให้ขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้ในระยะทางที่ไกลขึ้นในโดยรวม
แหล่งที่มา: