- เครื่องเพิ่มความชื้นสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ป้องกันผิวแห้ง บรรเทาอาการภูมิแพ้และโรคหอบหืด ช่วยขับเสมหะ และบรรเทาอาการกรน
- เพื่อให้เครื่องเพิ่มความชื้นทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุด ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ของคุณทุก ๆ 3 วันและคอยเฝ้าดูระดับความชื้นให้อยู่ระหว่าง 30 – 50%
เครื่องเพิ่มความชื้นเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มระดับความชื้นในอากาศโดยการปล่อยไอน้ำหรือละอองน้ำออกมา
ระดับความชื้นในอากาศตามธรรมชาติจะแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่ ณ ตอนนั้น โดยทั่วไปแล้วในซีกโลกเหนือ อากาศในฤดูหนาวจะแห้งและอากาศในฤดูร้อนจะชื้น ความชื้นในอากาศที่สูงจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพเราหลายอย่าง ตั้งแต่การรักษาผิวให้สุขภาพดี ไปจนถึงช่วยลดอาการโรคหอบหืดและอาการภูมิแพ้
ดังนั้นเครื่องเพิ่มความชื้นจึงเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความชื้นในอากาศที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูที่อากาศแห้ง มาอ่านประโยชน์ส่วนหนึ่งของเครื่องเพิ่มความชื้นต่อสุขภาพกันเลย
มาดูกันว่าปีนี้จะซื้อเครื่องทำความชื้นยี่ห้อไหนดี
1. ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
Credit: BBC.com
เครื่องเพิ่มความชื้นสามารถช่วยป้องกันคุณจากการเจ็บป่วยได้โดยการเพิ่มความชื้นในอากาศ โดยมีงานวิจัยพบว่าเครื่องเพิ่มความชื้นช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้
งานวิจัยในปี 2013 พบว่าถ้าระดับความชื้นภายในอาคารน้อยกว่า 23% อัตราการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งหมายถึงความสามารถในการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น ผ่านทางละอองจากการหายใจจะอยู่ที่ประมาณ 70 – 77% แต่ถ้าความชื้นมากกว่า 43% อัตราการแพร่เชื้อจะลดลงเยอะมาก จนเหลืออยู่ที่ประมาณ 14 – 22%
นั่นก็เพราะว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าในสภาพอากาศที่แห้ง งานวิจัยในปี 2010 ได้ประเมินอิทธิพลของการใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในช่วงฤดูหนาว และพบว่าเครื่องเพิ่มความชื้นแบบพกพาลดอัตราการรอดชีวิตของไวรัสไข้หวัดใหญ่ลงไป 17.5 – 31.6%
2. ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
อากาศที่แห้งจะดึงเอาความชุ่มชื้นไปจากผิวทำให้รู้สึกคันและระคายเคือง เครื่องเพิ่มความชื้นจะช่วยในเรื่องนี้ได้โดยการเพิ่มความชื้นเข้าไปในอากาศ ลดอาการไม่สบายตัวนั้นและทำให้ผิวของคุณกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง
ตัวอย่างเช่น การศึกษาเล็ก ๆ ในปี 2008 ที่โรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่นพบว่า การใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในฤดูหนาวช่วยเพิ่มระดับความชื้นจาก 32.8% เป็น 43.9% และช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งและระคายเคืองในหมู่พนักงานได้
3. ลดอาการโรคหอบหืดและภูมิแพ้
เครื่องเพิ่มความชื้นสามารถช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้และโรคหอบหืดได้ โดยทำให้เนื้อเยื่อในจมูกและลำคอผ่อนคลายมากขึ้น
จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้แก่
- คอแห้ง ระคายคอ
- มีน้ำมูก
- ไอ
- เลือดกำเดาไหล
- คัดจมูก มีเสมหะ
แต่ถ้ามีความชื้นในอากาศมากเกินไปก็จะทำให้เกิดไรฝุ่นและเชื้อราได้ด้วย ดังนั้นคนที่มีอาการภูมิแพ้ทั้งหลายควรต้องหมั่นทำความสะอาดเครื่องเพิ่มความชื้น และตรวจสอบระดับความชื้นในห้องอยู่เสมอ อย่าให้เกิน 50%
4. ช่วยขับเสมหะ
เครื่องทำความชื้นสามารถช่วยขับเสมหะได้ ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับโพรงจมูก เวลาที่คุณป่วยเซลล์ในระบบทางเดินหายใจของคุณจะมีการสร้างเมือกมากขึ้น เมื่อเมือกพวกนี้แห้งมันก็จะเหนียวทำให้ขับเสมหะออกมาได้ยาก
การเพิ่มความชุ่มชื้นเข้าไปในอากาศจะช่วยป้องกันไม่ให้เสมหะพวกนี้แห้ง ร่างกายของเราก็จะสามารถขับเสมหะออกไปได้ง่ายขึ้นเวลาที่ไอหรือสั่งน้ำมูก
บ่อยครั้งที่เครื่องทำความชื้นจะถูกเพิ่มเข้าไปในเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) ที่ใช้กับผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับด้วย นั่นเป็นเพราะเครื่อง CPAP จะเป่าจมูกคุณจนแห้ง ทำให้คอแห้งและคัดจมูกไปด้วย การศึกษาชิ้นเล็ก ๆ ในปี 2010 พบว่าการใช้เครื่องทำความชื้นแบบไออุ่นในผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับที่ได้รับการรักษาด้วย CPAP ช่วยลดอาการคัดจมูกได้
5. ลดการนอนกรน
เครื่องเพิ่มความชื้นยังสามารถลดการนอนกรนจากการคัดจมูกได้ โดยจะไปช่วยลดเสมหะที่ปิดกั้นทางเดินหายใจของคุณ โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งทางเดินหายใจโล่ง การกรนก็จะยิ่งน้อยลง การนอนกรนเป็นเรื่องปกติในผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ถ้าคุณเป็นผู้ชาย เป็นคนมีน้ำหนักเกิน จมูกมีปัญหา หรือดื่มแอลกอฮอล์ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการกรนให้มากขึ้นได้เช่นกัน
วิธีทำความสะอาดเครื่องเพิ่มความชื้น
แม้เครื่องเพิ่มความชื้นจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็จำเป็นต้องคอยรักษาสะอาดอย่างดี เพราะเครื่องทำความชื้นที่สกปรกถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหอบหืดและภูมิแพ้ มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือแม้แต่การติดเชื้อในปอด
ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณต้องทำความสะอาดเครื่องเพิ่มความชื้นทุก 3 วัน และนี่คือวิธีการทำความสะอาดเครื่องเพิ่มความชื้น
- ใช้น้ำกลั่น: ในน้ำประปามีแร่ธาตุที่ทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีต่อสุขภาพสามารถเติบโตในเครื่องเพิ่มความชื้นได้ น้ำกลั่นจะมีแร่ธาตุน้อยกว่าทำให้เหมาะกับการใช้ในเครื่องเพิ่มความชื้นมากกว่า
- เปลี่ยนน้ำในเครื่องเพิ่มความชื้น: ควรเทน้ำในเครื่องเพิ่มความชื้นทิ้งและเปลี่ยนน้ำใหม่อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์: ควรทำความสะอาดเครื่องเพิ่มความชื้นด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% เพื่อขจัดแร่ธาตุที่ค้างในเครื่อง แล้วก็อย่าลืมล้างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ออกหลังจากทำความสะอาดเสร็จ เพื่อไม่ให้สารเคมีกระจายไปในอากาศ
- เปลี่ยนแผ่นกรองเครื่องเพิ่มความชื้น: อย่าลืมเปลี่ยนแผ่นกรองเครื่องเพิ่มความชื้น (ถ้ามี) ตามเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือ หรืออาจจะบ่อยกว่านั้นก็ได้ ถ้ามันสกปรกมาก
- ทำความสะอาดและระบายน้ำทิ้งก่อนจัดเก็บ: เมื่อจะไม่ได้ใช้เครื่องเป็นเวลานาน ๆ ต้องไม่ลืมเทน้ำออกและทำความสะอาดเครื่องก่อนเก็บ
อย่าลืมตรวจสอบระดับความชื้นอยู่เสมอ
สำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (EPA) แนะนำว่าความรักษาระดับความชื้นในอากาศให้อยู่ที่ประมาณ 30 – 50% ความชื้นที่มากเกินไปจะมีผลให้แบคทีเรียและเชื้อราเติบโตได้ดี ทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจได้ และก็อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้และโรคหอบหืดได้เช่นกัน
คุณสามารถดูระดับความชื้นในบ้านของคุณได้โดยใช้ไฮโกรมิเตอร์ (อุปกรณ์สำหรับใช้วัดความชื้นในอากาศ) ส่วนใหญ่เครื่องวัดความชื้นในอากาศจะมีไฮโกรมิเตอร์มาให้ในเครื่องอยู่แล้วและรูปร่างจะเหมือนเทอร์โมมิเตอร์
สรุป
เครื่องเพิ่มความชื้นสามารถป้องกันเชื้อโรคในช่วงฤดูหนาวที่อากาศแห้งได้ โดยการลดการแพร่กระจายของไข้หวัดใหญ่ แล้วยังสามารถช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้และโรคหอบหืด บรรเทาอาการคัดจมูก และลดการนอนกรน
อย่างไรก็ตาม หากเครื่องเพิ่มความชื้นของคุณไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เครื่องเพิ่มความชื้นอาจเป็นบ่อเกิดของแบคทีเรียที่ทำให้อาการภูมิแพ้ต่าง ๆ แย่ลง หรือทำให้เกิดอาการป่วยหรือติดเชื้อได้ ดังนั้น ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาดเครื่องเพิ่มความชื้นอย่างเหมาะสมและตรวจสอบระดับความชื้นเพื่อให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเต็มที่