ProReview เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร อ่านเพิ่มเติม
ระบบ Mesh Wi Fi ที่ดีที่สุด ในปี 2022
Pro Review » อิเล็กทรอนิกส์ » 10 อันดับ Mesh Wi-Fi ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

10 อันดับ Mesh Wi-Fi ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

สัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมทุกตารางนิ้ว ด้วยเราเตอร์แบบ Mesh ที่ดีที่สุด

ระบบเราเตอร์แบบ Mesh ที่ดีที่สุด จะช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมพื้นที่บ้านขนาดใหญ่ได้ทั้งหลัง แล้วยังได้สัญญาณ Wi-Fi ที่แรงและเร็วด้วย การอัพเกรดเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากเราเตอร์ตัวเดียวขึ้นมาเป็นระบบ Mesh Wi-Fi จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตของทุกคนในบ้านดีขึ้นอย่างแน่นอน

ระบบนี้ใช้อุปกรณ์หลายเครื่องเชื่อมต่อกัน เพื่อสร้างเครือข่าย Wi-Fi เครือข่ายเดียว ทำงานได้ราบรื่นไร้รอยต่อ ช่วยขจัดจุดบอดในบ้านให้หมดไป แล้วยังสามารถขยายสัญญาณไปถึงสนามหน้าบ้านได้ด้วย ไม่ว่าคุณจะมีบ้านหลังใหญ่ บ้านหลายชั้น หรือบ้านผนังหนาทำจากอิฐ ระบบ Mesh ก็สามารถทำสิ่งที่เราเตอร์แบบเดี่ยวทำไม่ได้ นั่นคือทำให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi แรงเท่ากันทุกจุดในบ้าน

เราได้ทดสอบเราเตอร์แบบ Mesh ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ตั้งแต่รุ่นที่ใช้ wireless-ACไปจนถึงระบบ Mesh ที่ใช้ Wi-Fi 6 โดยประเมินประสิทธิภาพการทำงาน ช่วงกว้างสัญญาณ และการใช้งานของแต่ละระบบ เพื่อช่วยให้คุณเจอระบบที่ดีที่สุดที่เหมาะสำหรับบ้านคุณ

จากการทดลองใช้และรีวิว นี่คือเราเตอร์ระบบ Mesh ที่ดีที่สุดที่คุณหาซื้อได้แล้วตอนนี้

10 แนะนำ Mesh Wi-Fi ได้แก่

เราเตอร์ระบบ Mesh ที่ดีที่สุดคือรุ่นไหน?

เราเลือก Nest WiFi ให้เป็นเราเตอร์ระบบ Mesh ที่ดีที่สุด โดย Mesh Wi-Fi ของ Google รุ่นนี้มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ส่งสัญญาณได้ทั่วทั้งบ้าน ติดตั้งง่าย เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ภายในบ้านได้ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่เราเตอร์แบบ Mesh รุ่นอื่นไม่มี คือ ลำโพงอัจฉริยะ Google Home ในตัวทุก ๆ ส่วนขยายของระบบ เพื่อให้คุณสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ทุกห้องทั่วบ้าน

Netgear Orbi WiFi 6 (RBK852) เป็นอีกระบบ Mesh ที่เราชอบ ด้วยประสิทธิภาพ Wi-Fi 6 ที่ยอดเยี่ยมและการตั้งค่าที่ง่ายดาย แต่ละหน่วยสามารถส่งต่อสัญญาณความเร็วสูงได้ดี และ Netgear ยังมีส่วนขยายให้เลือกหลากหลาย รวมถึงส่วนขยายสำหรับใช้งานกลางแจ้ง ที่ทนแดดทนฝนด้วย นอกจากนั้นยังมี Netgear Orbi Voice ที่มี Amazon Alexa ในตัว

ระบบเราเตอร์ Mesh Wi-Fi ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ตอนนี้

1. Google Nest WiFi (2nd Gen)

Nest Wifi

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

เราเตอร์ระบบ Mesh ที่ดีที่สุด

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: 802.11ac/Dual band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 4 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: LAN 1-Gbps 2 ตัว | ความเร็วสูงสุด: 653.2 Mbps | ขนาด: 4.3 x 4.3 x 3.6  นิ้ว

หากกำลังมองหา Mesh Wi-Fi ที่ดีที่สุด เราแนะนำ Nest WiFi ของ Google มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ขั้นตอนการตั้งค่าไม่ซับซ้อน และสามารถส่งสัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมพื้นที่บ้านได้ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อจัดการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ตามใจ

ข้อดีที่เหนือกว่าคู่แข่งของ Nest WiFi คือ มีลำโพงอัจฉริยะ Google Home ติดตั้งอยู่ในส่วนขยายทุกตัว ยูนิตแต่ละตัวมีขนาดกะทัดรัด ช่วยให้คุณควบคุมเราเตอร์และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์ได้ด้วยเสียง ตั้งแต่หลอดไฟอัจฉริยะไปจนถึงสมาร์ททีวี

การเพิ่มส่วนขยายของ Nest ทำได้โดยการเพิ่มยูนิตของ Google Home ช่วยให้สามารถใช้งานผู้ช่วยเสียงในทุกห้องของบ้าน ทำงานได้อย่างราบรื่น และหากคุณใช้ระบบ Google Wi-Fi แบบเก่าอยู่แล้ว ก็สามารถนำมาปัดฝุ่นเพิ่มระบบใหม่ได้ เพื่อขยายการครอบคลุมสร้างเครือข่าย Mesh ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาระบบ Mesh WiFi ที่ดีที่สุดและเรียบง่ายที่สุด นี่แหละคือคำตอบ

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
  • มี Google Assistant ในตัว
  • ติดตั้งง่าย

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ช่วงกว้างค่อนข้างน้อย
  • มีตัวเลือกการกำหนดค่าค่อนข้างน้อย

 

2. TP-Link Deco X20

Tp Link Deco X20

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ระบบ Mesh Wi-Fi ที่คุ้มค่าที่สุด

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: Wi-Fi 6/Dual band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 4 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: 1 WAN Gigabit Ethernet, 1 LAN Gigabit Ethernet | ความเร็วสูงสุด: 574 Mbps (2.4 GHz)/1201 Mbps (5 GHz) | ขนาด: 4.33 x 4.33 x 4.49 นิ้ว

ราคาไม่แพง ตัวเล็ก ติดตั้งง่าย ชุดเครือข่ายแบบ Mesh ของ Deco X20 จาก TP-Link เป็นรุ่นที่เราชอบมาก เพราะราคาถูก แต่ให้ Wi-Fi 6 มาด้วย มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยออนไลน์

หากคุณมีงบประมาณจำกัด แต่ต้องใช้เราเตอร์แบบ Mesh และ Wi-Fi 6 แล้วล่ะก็ TP-Link Deco X20 เป็นรุ่นที่มีราคาดีที่สุด ส่งสัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมบ้านขนาดใหญ่ แถมยังรวดเร็วกว่ารุ่นเก่าที่ใช้ระบบ 802.11ac ด้วย Deco X20 จำหน่ายมาเป็นยูนิต (ที่เชื่อมต่อกันได้) แพ็ก 3 ครอบคลุมพื้นที่ถึง 5,800 ตารางฟุต และสามารถจัดการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้มากถึง 150 เครื่อง

ด้วยการเชื่อมต่อแบบ Dual band และการเชื่อมต่อแบบมีสาย 2 กิกะบิตในแต่ละโหนด Deco X20 ให้ความครอบคลุมและการเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยม ตั้งค่าและจัดการระบบได้ง่าย TP-Link มีเครื่องมือสำหรับจัดการการตั้งค่า โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Deco ช่วยให้คุณตั้งค่าเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว และควบคุมคุณสมบัติแต่ละอย่างของเครือข่ายได้ เมนูมีภาพประกอบ ตั้งค่าตามได้ง่าย

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • เราเตอร์และ Satellite ขนาดเล็ก
  • ราคาไม่แพง
  • ช่วงกว้างยอดเยี่ยม
  • ระบบรักษาความปลอดภัย

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ไม่มี backchannel เฉพาะสำหรับข้อมูล
  • ตัวเลือกการปรับแต่งน้อย

 

3. TP-Link Deco M9 Plus

Tp Link Deco M9 Plus

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ความสะดวกสบายบวกกับความปลอดภัย

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: 802.11ac/Tri band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 8 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: LAN 1Gbps 2 พอร์ต, USB | ความเร็วสูงสุด: 570.5 Mbps | ขนาด: 6.0 x 6.0 x 1.5 นิ้ว

ขั้นตอนการตั้งค่าที่รวดเร็ว สามารถเชื่อมต่อ ส่งสัญญาณ Wi-Fi ให้ทั่วทั้งบ้าน ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้ทุกประเภท ทั้งหมดนี้ Deco M9 Plus Smart Home Mesh Wi-Fi ของ TP-Link (ขายแบบแพ็ก 3) สามารทำได้ดี (เกือบจะ) ทั้งหมด Deco M9 Plus ใช้ส่วนขยายขนาดกะทัดรัด 3 ตัว ง่ายต่อการซ่อนให้พ้นสายตา หรือติดไว้บนผนัง สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 6,500 ตารางฟุต ให้สัญญาณ Wi-Fi ที่เร็วแรง

มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้ง่ายในตัว เช่น การรักษาความปลอดภัย ระบบป้องกันการบุกรุก ตัวกรองเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัย และการกักกันอุปกรณ์ที่ติดไวรัส ทำให้ง่ายต่อการจัดการเครือข่ายในบ้านของคุณ ทั้งนี้พบว่าประสิทธิภาพโดยรวมจะลดลงเหลือระดับปานกลางเท่านั้น เมื่อต้องส่งสัญญาณผ่านผนังและเพดาน

แม้ว่าจะไม่ใช่เครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ Deco M9 Plus ยังเป็นหนึ่งในชุด Wi-Fi แบบ Mesh ที่ดีที่สุด หากคุณต้องการขั้นตอนการตั้งค่าที่เรียบง่ายมากกว่าความเร็วที่สูงที่สุด ยูนิตแต่ละเครื่องมีพอร์ต USB ในตัว แต่ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งาน ดังนั้นจึงไม่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB เช่น เครื่องพิมพ์และที่เก็บข้อมูลได้

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • สามารถเชื่อมต่อระบบอัตโนมัติภายในบ้านได้
  • ติดตั้งง่าย ตรงไปตรงมา
  • มีซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ต้องใช้แอปพลิเคชัน TP-Link Deco

 

4. Linksys Velop AX4200

Linksys Velop Ax4200

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

Wi-Fi 6 ราคาประหยัดสำหรับบ้านขนาดใหญ่

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: Wi-Fi 6/Tri band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 8 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: 1 WAN/3 LAN, USB 3.0 (ต่อหน่วย) | ความเร็วสูงสุด: 507.7 Mbps | ขนาด: 9.6 x 4.5 x 4.5 นิ้ว

ชุดอุปกรณ์ Mesh ของ Linksys Velop AX4200 ใช้ Wi-Fi 6 แบบ Tri band ที่สามารถครอบคลุมสัญญาณ Wi-Fi ในบ้านขนาดใหญ่ได้ (โดยไม่ต้องซื้อระบบ Mesh Wi-Fi 6 รุ่นอื่นที่มีราคาสูงกว่า)

ทั้งความเร็ว (Throughput) และช่วงที่สัญญาณครอบคลุมทำได้ยอดเยี่ยม จากการทดสอบอุปกรณ์แพ็ก 3 รุ่นนี้สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ 8,000 ตารางฟุต และขยายเพิ่มได้ง่ายด้วยการเพิ่มยูนิต นี่จึงเป็นระบบ Mesh ราคาไม่แพง มีเครื่องมือกำหนดค่าที่เข้าใจง่าย พร้อมการรับประกัน 3 ปี นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อ USB ได้ด้วย แม้เรื่องนี้จะเป็นข้อดีที่ผู้ใช้บางคนเท่านั้นจะประทับใจ

รุ่นนี้ไม่ใช่ชุด Mesh ที่เร็วที่สุดในตลาด ประสิทธิภาพบางอย่างก็ล้าหลังคู่แข่ง (ที่มีราคาแพงกว่า) ยังไม่มีตัวเลือกความปลอดภัยและการปรับแต่งเพิ่มเติมเหมือนที่รุ่นอื่นมี แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับเรา Linksys Velop AX4200 แพ็ก 3 ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของระบบเครือข่ายแบบ Mesh ในราคาย่อมเยา แต่ครอบคลุมพื้นที่บ้านหลังใหญ่ได้เลย

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • ชุด Mesh ที่ราคาไม่แพง
  • Throughput อยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมการทำงาน Tri band แบบไดนามิก
  • รับประกัน 3 ปี

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ไม่มีซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัย
  • ติดตั้งช้า

 

5. Netgear Orbi WiFi 6 (RBK852)

Netgear Orbi Wifi 6

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

เราเตอร์ระบบ Mesh พร้อม Wi-Fi 6 ที่ดีที่สุด

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: AX6000/Tri band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 8 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: Router – 1 WAN/4 LAN; Satellite – 4 LAN | ความเร็วสูงสุด: 883.6 Mbps | ขนาด: 10.0 x 7.5 x 2.8 นิ้ว

Netgear Orbi WiFi 6 (RBK852) รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เรารอคอย มีคุณสมบัติทุกอย่างที่เราชอบ แถมยังเป็น Mesh Wi-Fi ระดับพรีเมียร์จาก Netgear ด้วย พร้อมเทคโนโลยีนำสมัยและความเร็วที่สุดยอดจาก Wi-Fi 6 ติดตั้งง่าย ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม กลุ่มผลิตภัณฑ์ Orbi ไม่เคยทำให้เราผิดหวังจริง ๆ

RBK852 มีประสิทธิภาพชั้นนำ ส่งสัญญาณแรงทะลุผ่านเพดาน พื้น และผนังได้ดี มีระบบรักษาความปลอดภัยในตัว เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอุปกรณ์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของคุณจะปลอดภัยหายห่วง พร้อมกับสัญญาณ Wi-Fi ที่เร็วแรง

หากคุณกำลังมองหาชุดอุปกรณ์เครือข่ายแบบ Mesh ที่ใช้ง่ายและรวดเร็วที่สุดในตลาด Netgear Orbi WiFi 6 (RBK852) ตอบโจทย์นี้ได้ดี ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบ้านสไตล์เก่าที่มักมีผนังจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อพูดถึงอุปกรณ์ Mesh Wi-Fi 6 ต้องนึกถึง Netgear Orbi WiFi 6 (RBK852) อย่างแน่นอน

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • ประสิทธิภาพ Wi-Fi 6 ระดับท็อป
  • มีระบบป้องกันมัลแวร์
  • ส่งสัญญาณทะลุผนัง กำแพง และเพดานได้ดี

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ราคาแพงมาก
  • เครื่องใหญ่

 

6. Asus ZenWiFi AX (XT8)

Asus Zenwifi Ax (xt8)

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ทางออกที่ดีงามสำหรับทั้งบ้าน

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: Wi-Fi 6/Tri band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 6 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: 1 WAN (2.5Gbps)/3 LAN (Gbps), USB 3.0 | ความเร็วสูงสุด: 701.0 Mbps | ขนาด: 6.6 x 6.3 x 2.9 นิ้ว

Asus ZenWiFi AX (XT8) พยายามออกแบบให้เครือข่าย Mesh ที่ใช้ Wi-Fi 6 เป็นแพ็กเกจที่ใช้งานง่าย และเหมาะมากกับบ้านระดับกลางทุกหลัง เลือกใช้ Tri band ทำให้ Wi-Fi 6 มีประสิทธิภาพสูง Asus ZenWiFi AX รุ่นนี้ช่วยเติมเต็ม กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปได้ทั่วบ้านขนาดปานกลาง

แม้ไม่ใช่ชุด Mesh ที่เร็วที่สุด แต่มีการรับประกัน 2 ปี จาก ZenWiFi AX มีการรักษาความปลอดภัยในตัว ตั้ง “ผู้ดูแลระบบ” มาคอยดูแลให้เครือข่ายให้ปลอดภัยได้ด้วย

การออกแบบดูโฉบเฉี่ยว มองไม่เห็นเสาอากาศ ไม่มีแสงไฟกระพริบหลายดวงจนทำให้รำคาญตา แต่ ZenWiFi ช่วยให้การออกแบบดูเรียบง่าย สามารถใช้เป็นที่คั่นหนังสือได้เลย นอกจากนี้เรื่องขนาดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง รุ่นนี้ยังทำให้คู่แข่งดูเป็นระบบ Mesh ที่ใหญ่เทอะทะไปเลยทีเดียว

นอกจากนี้ หากคุณมีเราเตอร์ Asus อยู่แล้วที่บ้าน ก็เป็นไปได้ว่าจะสามารถใช้งานร่วมกันได้ คุณสามารถเพิ่มเราเตอร์ไปยังเครือข่ายแบบ Mesh ของ ZenWiFi เพื่อขยายสัญญาณออกไปไกลกว่าเดิม โดยไม่ต้องทิ้งเราเตอร์เครื่องปัจจุบันที่ใช้อยู่เลย

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • ประสิทธิภาพ Wi-Fi 6 ที่ดี
  • มีระบบป้องกันมัลแวร์
  • Tri band
  • รับประกัน 2 ปี

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • อาจใช้เวลานานในการเชื่อมต่อกับ satellite อีกครั้ง
  • ช่วงกว้างน้อย

 

7. Netgear Orbi RBK752

Netgear Orbi Rbk752

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

Wi-Fi 6 จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Orbi ที่ราคาถูกลงมาหน่อย

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: Wi-Fi 6/Tri band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 6 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: เราเตอร์ – 1 WAN/3 LAN; Satellite – 2 LAN | ความเร็วสูงสุด: 506.7 Mbps | ขนาด: 9.4 x 6.5 x 2.0 นิ้ว

Netgear Orbi RBK752 เป็นทางเลือกที่มีขนาดเล็กกว่าและถูกกว่า Netgear Orbi RBK852 โดย Orbi RBK752 ยังเป็นระบบ Mesh ระดับท็อปที่ใช้ Wi-Fi 6 จำหน่ายในแพ็กคู่ ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 5,000 ตารางฟุต มีเสาอากาศภายในน้อยกว่าและโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังน้อยกว่ารุ่นพี่ (แปลว่าความเร็วและช่วงครอบคลุมจะลดลงนั่นเอง)

ดังนั้นรุ่นนี้จะเหมาะสำหรับบ้านขนาดกลาง แต่ถ้าคุณมีบ้านหลังใหญ่มาก อาจจะต้องซื้อเพิ่มเป็นแพ็ก 3 หรือซื้อแพ็ก 2 มา 2 ชุด เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมได้ทั้งหลัง จึงอาจมีราคาแพงกว่ารุ่นอื่นได้ ทั้งนี้การซื้อเป็นแพ็กเกจจะยังถูกกว่าการซื้อเพิ่มทีละยูนิต

แม้ Wi-Fi 6 ของ Orbi รุ่นนี้จะไม่ได้เน้นประสิทธิภาพการทำงานที่เข้มข้นมากนัก แต่ก็มีตัวเลือกการปรับแต่งที่น่าประทับใจมาก และในราคาที่ถูกกว่านี้ คุณยังได้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไว้ใช้ทั่วบริเวณบ้าน และยังได้ใช้อุปกรณ์เครือข่ายของ Netgear ไปครอบครองด้วย

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • มีระบบป้องกันมัลแวร์
  • การทำงานแบบ Tri band
  • ตั้งค่าง่ายมาก

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ขนาดใหญ่
  • นโยบายการสนับสนุนให้มาเพียง 90 วัน
  • ช่วงที่ครอบคลุมสัญญาณยังถือว่าน้อย

 

8. Linksys Max Stream MR9600

Linksys Max Stream Mr9600

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

เราเตอร์รองรับระบบ Mesh ที่เราชื่นชอบ

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: Wi-Fi 6/Dual band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 4 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: 1 WAN/4 LAN กิกะบิตต่อวินาที, 2 USB 3.0 | ความเร็วสูงสุด: 822.0 Mbps | ขนาด: 11.0 x 6.8 x 5.6 นิ้ว

Linksys Max Stream MR9600 เป็นเราเตอร์ Wi-Fi 6 แบบ Dual band หนึ่งในเราเตอร์ Wi-Fi 6 ที่เล็กที่สุด มีเรื่องให้น่ารำคาญใจน้อยที่สุดรุ่นหนึ่ง แถมยังจะมีทุกสิ่งที่คุณต้องการแน่นอน

สามารถทำงานได้ทั้งแบบเดี่ยวและใช้สร้างเครือข่ายแบบ Mesh ได้ด้วย โดยการเชื่อมโยงเข้ากับอุปกรณ์เครือข่ายตัวอื่นของ Linksys ซึ่ง MR9600 รุ่นนี้สามารถเป็นเราเตอร์แบบเดี่ยวที่เหมาะกับบ้านและอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก หรือติดตั้งเป็นระบบ Mesh เพื่อทำงานร่วมกับ Linksys เครื่องอื่น ช่วยขยายสัญญาณ W-Fi จนครอบคลุมพื้นที่บ้านขนาดใหญ่ได้

ด้วยขนาดที่เล็กทำให้สามารถวางไว้บนชั้นวางของหรือบนโต๊ะทำงานได้ แต่ดีไซน์แบบบางนี้ก็ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับใส่พอร์ตน้อยลงไปด้วย รุ่นนี้มีเพียงพอร์ต WAN, พอร์ต LAN 4 พอร์ต และ USB 3.0 2 ช่อง แผงด้านหลังของ Linksys Max Stream MR9600 เรียงตัวดี ไม่กระจัดกระจาย แต่เราหวังว่าจะมีฟีเจอร์รวมพอร์ต 2 พอร์ต เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความเร็ว (รุ่นอื่นที่มี Wi-Fi 6 มักจะมีฟีเจอร์นี้ด้วย)

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • สามารถสร้างเครือข่าย Mesh กับอุปกรณ์ Linksys อื่น ๆ ได้
  • เครื่องเล็ก ซ่อนให้พ้นสายตาได้ง่าย

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ประสิทธิภาพปานกลาง
  • ขาดฟีเจอร์การรวมพอร์ต

 

9. Netgear AX1800 4-Stream Mesh Extender (EAX20)

Netgear Ax1800 4 Stream Mesh Extender (eax20)

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

ตัวขยาย Mesh ที่ดีที่สุด

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: Wi-Fi 6/Dual band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 4 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: อีเธอร์เน็ต 4 กิกะบิต | ความเร็วสูงสุด: 375.4 Mbps | ขนาด: 9.5 x 6.7 x 2.5 นิ้ว

หากคุณต้องการเปลี่ยนไปใช้เครือข่ายแบบ Mesh แต่ไม่อยากทิ้งเราเตอร์ตัวปัจจุบันของคุณไป ไม่มีตัวเลือกไหนจะดีไปกว่า Netgear AX1800 Mesh Extender (EAX20) รุ่นนี้เป็นตัวขยายสัญญาณแบบ Desktop Wi-Fi ที่สามารถสร้างเครือข่ายแบบ Mesh ด้วยเราเตอร์ Wi-Fi หรือ เกตเวย์ ISP

ด้วยความเร็ว Wi-Fi 6 และสามารถใช้งานแบบ Mesh ได้ด้วย Netgear EAX20 จึงเป็นหนึ่งในตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi ที่ดีที่สุด และเป็นตัวเลือกเดียวที่สามารถใช้เพิ่มช่วงกว้างสัญญาณ สร้างระบบ Mesh ให้กับเราเตอร์ Wi-Fi 6 แบบใช้งานเดี่ยวได้

สำหรับข้อเสีย เราคิดว่าคือเรื่องการออกแบบ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะชอบเครื่องแบบเดสก์ท็อปขนาดใหญ่ และในเมื่อไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นแบบปลั๊กอิน ก็จะไม่สามารถซ่อนเครื่องไว้ด้านหลังโซฟาหรือหลบมุมได้ นอกจากนั้นราคายังแพงกว่าเราเตอร์บางรุ่นด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม สามารถส่งมอบความเร็วระดับท็อปและมีระยะครอบคลุมสัญญาณที่ 95 ฟุตอีกด้วย

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • รองรับ Wi-Fi 6 พร้อม 802.11ax
  • สามารถปรับแต่งได้และมีระบบรักษาความปลอดภัยในตัว
  • สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์แบบ Mesh อื่น ๆ ได้

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ตัวเครื่องขนาดใหญ่
  • ไม่มีพอร์ต USB

 

10. Eero Mesh Wi-Fi Router

Eero Mesh

ราคาวันนี้ - Lazada ราคาวันนี้ - Shopee

เครือข่าย Mesh ราคาดี

ข้อมูลจำเพาะ Wi-Fi: 802.11ac/Dual band | จำนวนเสาอากาศ/ถอดได้: 4 เสา/ไม่ได้ | พอร์ต: LAN 1Gbps 2 พอร์ต | ความเร็วสูงสุด: 342.1 Mbps | ขนาด: 3.9 x 3.9 x 2.4 นิ้ว

หากคุณกำลังหา Wi-Fi ที่ทำงานแบบง่าย ๆ ไม่มีจุดบอดสัญญาณ Eero Mesh Wi-Fi Router ของปี 2019 เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเครือข่าย Mesh ในตอนนี้ อุปกรณ์ Mesh แพ็ก 3 ของ Eero มีราคาไม่แพง แต่ละยูนิตก็ขนาดเล็ก ซ่อนให้พ้นตาได้ง่าย แม้ว่าระยะสัญญาณและประสิทธิภาพจะไม่ได้เด่นจนเป็นที่ 1 แต่ก็ใช้งานง่าย ขยายสัญญาณให้ทั่วทั้งบ้านได้โดยไม่ต้องขายไต

สามารถตั้งค่าได้ง่ายด้วยสมาร์ทโฟน การกำหนดค่าได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ทุกคน มีตัวเลือกสำหรับการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย (แต่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน) นอกจากนี้คุณยังสามารถเชื่อมต่อ Eero เข้ากับลำโพงอัจฉริยะของ Alexa ได้ด้วย เพื่อให้สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง

จุดเด่นของรุ่นนี้

  • ติดตั้งง่าย
  • เครื่องเล็ก ซ่อนให้พ้นสายตาได้ง่าย
  • มีระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถซื้อเพิ่มได้

จุดด้อยของรุ่นนี้

  • ประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นอื่น
  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องซื้อเพิ่มมีราคาแพง

 

 

วิธีเลือกซื้อเราเตอร์แบบ Mesh ที่เหมาะกับคุณที่สุด

วิธีเลือกซื้อเราเตอร์แบบ Mesh ที่เหมาะกับคุณที่สุด

การตัดสินใจว่าระบบ Mesh Wi-Fi ที่เหมาะกับคุณคือรุ่นไหน ให้เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่าคุณต้องการระบบ Mesh จริง ๆ ใช่ไหม

ระยะที่สัญญาณต้องครอบคลุม: หากคุณมีบ้านหลังใหญ่ขนาด 3,000 ตารางฟุตขึ้นไป ไม่ต้องมองหาเราเตอร์ทั่วไปหรอก ตัดทิ้งไปได้เลย เช่นเดียวกับบ้านหลายชั้นและบ้านที่มีเลย์เอาท์ไม่เหมือนใครจนเราเตอร์แบบเดี่ยวไม่สามารถส่งสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณบ้านได้ หรือบ้านที่ดูเหมือนว่าเราเตอร์ทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ดี แต่พอใช้งานจริง กลับมีตัวบล็อกสัญญาณ เช่น มีผนังเยอะ ทำให้บางจุดของบ้านเจอปัญหา Wi-Fi สัญญาณอ่อน หรือไม่สามารถมี Wi-Fi แรง ๆ ใช้ในทุกจุดของบ้านได้

คำแนะนำเบื้องต้น: หากเราเตอร์ที่ใช้อยู่ไม่สามารถส่งสัญญาณได้ทั่วบริเวณบ้าน ยังมีจุดบอด หรือสนามหญ้าหน้าบ้านไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเลย อาจจะดีกว่าถ้าเลือกใช้ระบบ Mesh Wi-Fi แทน

ความเร็ว: การเลือกระบบ Mesh Wi-Fi ก็เหมือนกับการเลือกอุปกรณ์ Wi-Fi อื่น ๆ สำหรับเรา เราได้พิจารณาเลือกทั้งจากการออกแบบ ช่วงกว้างสัญญาณ ความเร็วสูงสุด (throughput) การตั้งค่า และความสามารถในการปรับเปลี่ยนการตั้งค่า เรายังดูเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย การควบคุมแบบ parental control แล้วยังดูด้วยว่าส่วนขยายของ Mesh แต่ละรุ่นเหมาะกับการนำไปใช้กับการตกแต่งบ้านด้วยหรือไม่ หรือเป็นรุ่นที่เหมาะกับการซ่อนให้พ้นสายตา รีวิวของเราจะเจาะลึกลงไปในทุกแง่มุมของผลิตภัณฑ์ทุกรุ่น แล้วยังเน้นไปที่ฟีเจอร์สำคัญของแต่ละรุ่นที่คุณควรรู้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ เช่น คุณต้องการการโต้ตอบด้วยเสียงหรือต้องการระบบ Mesh ที่สามารถจับคู่กับอุปกรณ์อื่น ๆ ในบ้านได้

พอร์ต: แม้ว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อเราเตอร์แบบ Mesh แต่อย่าลืมนึกถึงการเชื่อมต่อแบบใช้สายด้วย อีเทอร์เน็ตให้ความเร็วที่รวดเร็วกว่า เหมาะกับทั้งเกมคอนโซลและสมาร์ททีวีที่ใช้แบนด์วิดท์มากกว่า สำหรับเราเตอร์ที่มีพอร์ต USB ก็จะสะดวกกับการเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์หรือที่เก็บข้อมูลเข้ากับเครือข่ายของคุณ แน่นอนไม่ใช่ทุกรุ่นจะมีพอร์ตให้มาด้วย ดังนั้นอย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่า ระบบ Mesh ที่เลือกซื้อต้องตรงกับความต้องการของคุณจริง ๆ

ราคา: สำหรับนักช้อปหลายคน สิ่งที่สำคัญจริง ๆ ไม่ใช่ตัวเลขว่าราคาเท่าไหร่ แต่คือความคุ้มค่ามากกว่า โดยมักสนใจว่ารุ่นไหนจะตอบโจทย์การใช้งานและคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ ดังนั้นในรีวิวนี้เราจึงพิจารณาว่ารุ่นไหนจะคุ้มค่าเงินที่สุด โดยการชั่งน้ำหนักว่าฟีเจอร์และประสิทธิภาพจากรุ่นไหนจะคุ้มค่าที่สุด เมื่อปรียบเทียบกับรุ่นอื่น

เราเตอร์แบบ Mesh มีราคาตั้งแต่ 4,000 – 13,000 บาท (แต่บางรุ่นก็แพงกว่านี้) เนื่องจากระบบ Mesh ต้องใช้อุปกรณ์หลายเครื่อง จึงมีขายทั้งแบบแพ็ก 2 หรือแพ็ก 3 หรือจะซื้อแค่ satellite ทีละยูนิตเพื่อขยายสัญญาณจากระบบ Mesh ให้กินบริเวณที่กว้างขึ้นก็ได้ ซึ่งจะมีราคาประมาณ 3,300 – 6,500 บาท ต่อเครื่อง แต่ถ้าอยากได้ยูนิตที่มีฟีเจอร์พิเศษด้วย ก็จะมีราคาสูงกว่านี้

ส่วนในรีวิวนี้ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา จะเป็นระบบ Mesh Wi-Fi ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และฟีเจอร์ คัดเน้น ๆ เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป พร้อมบอกเหตุผลด้วยว่าทำไมแต่ละรุ่นถึงอาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับบ้านของคุณ

เราทดสอบเราเตอร์แบบ Mesh อย่างไร

เราทดสอบเราเตอร์แบบ Mesh ทุกตัวเพื่อวัดประสิทธิภาพและช่วงกว้างของสัญญาณโดยใช้ซอฟต์แวร์ IxChariot ของ Ixia เราได้ทดลองในบ้านหลายชั้นที่มีกำแพงอิฐ เช่นเดียวกับที่เราทดสอบเราเตอร์แบบมาตรฐาน เรายังทดสอบประสิทธิภาพจากระยะไกลเพื่อดูข้อมูลของช่วงกว้างและความเร็วที่เกิดขึ้นจริง นอกจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการแล้ว เรายังประเมินความยากง่ายในการตั้งค่าและฟีเจอร์ของอุปกรณ์ทุกรุ่นด้วย

เราวัดประสิทธิภาพของเราเตอร์ที่ระยะ 5 ฟุต โดยไม่มีสิ่งกีดขวางก่อน เพื่อให้เราสามารถวัดปริมาณข้อมูล (throughput) สูงสุดที่เราเตอร์สามารถรับส่งข้อมูลได้ ปริมาณงานที่สูงขึ้นจะทำให้คุณสามารถใช้งานกิจกรรมที่ต้องรับส่งข้อมูลในปริมาณเยอะ ๆ ได้ดี เช่น การสตรีมวิดีโอ การเล่นเกม หรือการเชื่อมต่อผู้ใช้งานหลาย ๆ คนพร้อมกัน

การวัดช่วงกว้างคือการวัดความสามารถว่าเราเตอร์สามารถส่งสัญญาณ Wi-Fi ไปได้ไกลแค่ไหน ยิ่งช่วงกว้างมากก็จะยิ่งเหมาะกับบ้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่เยอะ เราวัดจำนวนข้อมูลที่เราเตอร์สามารถรับส่งในระยะ 5 ฟุต, 50 ฟุต, 75 ฟุต และ 100 ฟุต รวมถึงพื้นที่ครอบคลุมสูงสุดของระบบ Mesh แต่ละรุ่นด้วย

นอกจากนี้เรายังทดสอบว่าเราเตอร์แต่ละตัวส่งและรับสัญญาณได้ดีแค่ไหนผ่านผนังเบา ผนังอิฐ ผนังคอนกรีต และผนังโลหะ เพื่อหาว่าแต่ละรุ่นสามารถส่งสัญญาณครอบคลุมบ้าน 2 หรือ 3 ชั้นได้หรือไม่ ทั้งนี้เราเตอร์แบบ Mesh จะได้รับการทดสอบเพิ่มเติมมากกว่าเราเตอร์ทั่วไป เพื่อดูว่าแต่ละรุ่นทำงานได้ดีขนาดไหน โดยวัดทั้งที่เราเตอร์หลักและ satellite แต่ละตัว

  • กิตติพงษ์ โยธาภักดี
    นักเขียนเทคโนโลยี

    ณัฐ เป็นกูรูด้านเทคโนโลยีและไอทีประจำ Pro Review โดยอยู่ในวงการไอทีมานานกว่า 10 ปี โดยสร้างเนื้อหา ข่าวสาร และบทวิจารณ์สินค้าสำหรับเว็บไซต์เทคโนโลยีหลายแห่งในประเทศไทย จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอกภาษาอังกฤษ ทำให้เขาติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทั่วโลกและติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ และข่าวล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทดลองใช้สินค้าไอทีก่อนที่จะวางจำหน่าย ทำให้บทความของเขาเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด

  • Pro Review Team
    รีวิวสินค้า

    เหล่าบรรณาธิการ นักเขียน ทีมค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์และนักรีวิวของ Pro Review คือหน่วยซัพพอร์ตของนักเขียนหลักและผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคในการเขียนบทความแต่ละชิ้น ซึ่งทีมงาน Pro Review ทุกคนแม่นในการหาข้อมูลเพื่อมารีวิว อธิบายรายละเอียดและให้คำแนะนำมาก เพราะยึดข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญหรือจากการเปรียบเทียบสินค้าแต่ละรุ่นและยี่ห้อเพื่อให้นักเขียนนำเสนอบทความได้ครอบคลุมที่สุด ที่สำคัญคือบทความของเราผ่านการค้นคว้าข้อมูลเชิงลึกโดยทีมงาน Pro Review มาแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่คุณได้คือข้อมูลที่อัพเดทและเป๊ะทุกรายละเอียด